๔๕๗. สมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิง จังหวัดร้อยเอ็ด องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ ร่วมกับ องค์สมาชิก ๘๙ องค์กร ถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ๘๘ พรรษา ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๓

วันพุธ ที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๓ เวลา ๐๘.๒๐ นางธัญพักตร์ สุรสักดิ์นิธิกุล ผู้แทนจากสมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิง จังหวัดร้อยเอ็ด ถวายแจกันดอกไม้สดเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ เพื่อแสดงถึงความจงรักภักดี และน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านที่มีต่อองค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯและสตรีไทย เป็นล้นพ้นหาที่สุดมิได้ โดยมีองค์กรสมาชิก สภาสตรีแห่งชาติฯ จำนวน ๘๙ องค์กร จากทุกภาค ร่วมถวายแจกันดอกไม้สด และร่วมกันลงนามถวายพระพร ขอให้พระองค์ท่านมีพระพลานามัยสมบูรณ์ มีพระชนมายุยิ่งยืนนาน สถิตเป็นมิ่งขวัญของปวงข้าพระพุทธเจ้าและปวงชนชาวไทยตลอดไป เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ๘๘ พรรษา (๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๓ ) ณ ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง

ฝ่ายประชาสัมพันธ์ คณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติฯ

๔๕๖.กลุ่มสตรีมุสลิมอาสาสมัคร องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ ร่วมกับ องค์สมาชิก ๘๙ องค์กร ถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ๘๘ พรรษา ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๓

วันพุธ ที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๓ เวลา ๐๘.๑๕ น.นางวัลลภา นีละไพจิตร นายกกลุ่มสตรีมุสลิมอาสาสมัคร องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ นำกรรมการ ทูลเกล้าฯ ถวายแจกันดอกไม้สดเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ เพื่อแสดงถึงความจงรักภักดี และน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านที่มีต่อองค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯและสตรีไทย เป็นล้นพ้นหาที่สุดมิได้ โดยมีองค์กรสมาชิก สภาสตรีแห่งชาติฯ จำนวน ๘๙ องค์กร จากทุกภาค ร่วมถวายแจกันดอกไม้สด และร่วมกันลงนามถวายพระพร ขอให้พระองค์ท่านมีพระพลานามัยสมบูรณ์ มีพระชนมายุยิ่งยืนนาน สถิตเป็นมิ่งขวัญของปวงข้าพระพุทธเจ้าและปวงชนชาวไทยตลอดไป เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ๘๘ พรรษา (๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๓ ) ณ ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง


ฝ่ายประชาสัมพันธ์ คณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติฯ

๔๕๕.สมาคมสตรีอาสาสมัครรักษาดินแดน จังหวัดนครราชสีมา องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ ร่วมกับ องค์สมาชิก ๘๙ องค์กร ถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ๘๘ พรรษา ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๓

วันพุธ ที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๓ เวลา ๐๘.๑๐ น. ดร.นรินทิพย์ กาญจนศิริ นายกสมาคมอาสาสมัครรักษาดินแดน จังหวัดนครราชสีมา องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ นำกรรมการ ทูลเกล้าฯ ถวายแจกันดอกไม้สดเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ เพื่อแสดงถึงความจงรักภักดี และน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านที่มีต่อองค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯและสตรีไทย เป็นล้นพ้นหาที่สุดมิได้ โดยมีองค์กรสมาชิก สภาสตรีแห่งชาติฯ จำนวน ๘๙ องค์กร จากทุกภาค ร่วมถวายแจกันดอกไม้สด และร่วมกันลงนามถวายพระพร ขอให้พระองค์ท่านมีพระพลานามัยสมบูรณ์ มีพระชนมายุยิ่งยืนนาน สถิตเป็นมิ่งขวัญของปวงข้าพระพุทธเจ้าและปวงชนชาวไทยตลอดไป เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ๘๘ พรรษา (๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๓ ) ณ ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง

ฝ่ายประชาสัมพันธ์ คณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติฯ

๔๕๔. สมาคมศิษย์เซนต์โยเซฟระยอง องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ ร่วมกับ องค์สมาชิก ๘๙ องค์กร ถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ๘๘ พรรษา ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๓

วันพุธ ที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๓ เวลา ๐๘.๐๐ น. นางธาริกา มงคลสุข นายกสมาคมศิษย์เซนต์โยเซฟระยอง นำกรรมการ ทูลเกล้าฯ ถวายแจกันดอกไม้สดเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ เพื่อแสดงถึงความจงรักภักดี และน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านที่มีต่อองค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯและสตรีไทย เป็นล้นพ้นหาที่สุดมิได้ โดยมีองค์กรสมาชิก สภาสตรีแห่งชาติฯ จำนวน ๘๙ องค์กร จากทุกภาค ร่วมถวายแจกันดอกไม้สด และร่วมกันลงนามถวายพระพร ขอให้พระองค์ท่านมีพระพลานามัยสมบูรณ์ มีพระชนมายุยิ่งยืนนาน สถิตเป็นมิ่งขวัญของปวงข้าพระพุทธเจ้าและปวงชนชาวไทยตลอดไป เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ๘๘ พรรษา (๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๓ ) ณ ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง

ฝ่ายประชาสัมพันธ์ คณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติฯ

๔๕๓.สมาคมศิษย์เซนต์โยเซฟในพระบรมราชินูปถัมภ์ องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ ร่วมกับ องค์สมาชิก ๘๙ องค์กร ถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ๘๘ พรรษา ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๓

วันพุธ ที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๓ เวลา ๐๘.๐๐ น. นางสาวยุพดี สัตตะรุจาวงษ์ อุปนายกสมาคม และนางสาวเบญจมาศ รุจิรวงศ์ ที่ปรึกษาสมาคมศิษย์เซนต์โยเซฟในพระบรมราชินูปถัมภ์ นำกรรมการ ทูลเกล้าฯ ถวายแจกันดอกไม้สดเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ เพื่อแสดงถึงความจงรักภักดี และน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านที่มีต่อองค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯและสตรีไทย เป็นล้นพ้นหาที่สุดมิได้ โดยมีองค์กรสมาชิก สภาสตรีแห่งชาติฯ จำนวน ๘๙ องค์กร จากทุกภาค ร่วมถวายแจกันดอกไม้สด และร่วมกันลงนามถวายพระพร ขอให้พระองค์ท่านมีพระพลานามัยสมบูรณ์ มีพระชนมายุยิ่งยืนนาน สถิตเป็นมิ่งขวัญของปวงข้าพระพุทธเจ้าและปวงชนชาวไทยตลอดไป เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ๘๘ พรรษา (๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๓ ) ณ ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง

ฝ่ายประชาสัมพันธ์ คณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติฯ

๔๕๒.สมาคมสตรีไทยแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ ร่วมกับ องค์สมาชิก ๘๙ องค์กร ถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ๘๘ พรรษา ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๓

วันพุธ ที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๓ เวลา ๐๘.๐๐ น. นางสาวเบญจมาศ รุจิรวงศ์ นายกสมาคมสตรีไทยแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ นำกรรมการ ทูลเกล้าฯ ถวายแจกันดอกไม้สดเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ เพื่อแสดงถึงความจงรักภักดี และน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านที่มีต่อองค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯและสตรีไทย เป็นล้นพ้นหาที่สุดมิได้ โดยมีองค์กรสมาชิก สภาสตรีแห่งชาติฯ จำนวน ๘๙ องค์กร จากทุกภาค ร่วมถวายแจกันดอกไม้สด และร่วมกันลงนามถวายพระพร ขอให้พระองค์ท่านมีพระพลานามัยสมบูรณ์ มีพระชนมายุยิ่งยืนนาน สถิตเป็นมิ่งขวัญของปวงข้าพระพุทธเจ้าและปวงชนชาวไทยตลอดไป เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ๘๘ พรรษา (๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๓ ) ณ ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง




ฝ่ายประชาสัมพันธ์ คณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติฯ

๔๕๑. สภาสตรีแห่งชาติฯ ขอเชิญชวนองค์กรสมาชิกสมัครบุคคลและหน่วยงานที่มีผลงานดีเด่นด้านการส่งเสริมและพัฒนาครอบครัวประจำปี ๒๕๖๓ เพื่อเข้ารับโล่รางวัลเกียรติคุณในการประชุมสมัชชาสตรีและครอบครัวระดับชาติ

กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว รับสมัครบุคคลและหน่วยงานที่มีผลงานดีเด่นด้านการส่งเสริมและพัฒนาครอบครัวประจำปี ๒๕๖๓ เพื่อเข้ารับโล่รางวัลเกียรติคุณในการประชุมสมัชชาสตรีและครอบครัวระดับชาติ ประจำปี ๒๕๖๓
สภาสตรีแห่งชาติฯ จึงขอเชิญชวน องค์กรสมาชิก ส่งผลงานดีเด่นด้านการส่งเสริมและพัฒนาครอบครัว ประเภทบุคคล และประเภทหน่วยงาน เข้าประกวดผลงานดีเด่นด้านการส่งเสริมและพัฒนาครอบครัวประจำปี ๒๕๖๓ เพื่อเข้ารับโล่รางวัลเกียรติคุณในการประชุมสมัชชาสตรีและครอบครัวระดับชาติ ประจำปี ๒๕๖๓
ผู้สนใจและหน่วยงานที่สนใจสมัครอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว http://www.dwf.go.th/Content/View/10835/1 (รับสมัครตั้งแต่วันนี้ - 25 สิงหาคม 2563)
หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
หมายเลขโทร./โทรสาร ๐ ๒๖๔๒ ๗๗๕๑
จดหมายอิเลกทรอนิกส์ goryorkor.secretary@gmail.com

ฝ่ายประชาสัมพันธ์ คณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติฯ

๔๖๐. ประธานสภาสตรีแห่งชาติฯ ได้รับเกียรติร่วมงานปิดฉากงดงาม "OTOP ศิลปาชีพ" ผู้ประกอบการยิ้มยอดขายทะลุเป้า ๔๘๔ ล้าน สร้างรายได้สู่ชุมชน พลิกฟื้นเศรษฐกิจพ้นภัยโควิด - ๑๙

เมื่อวันที่ ๑๗ สิงหาคม ๒๕๖๓ เวลา ๒๐.๐๐ น. ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ได้รับเกียรติร่วมพิธีมอบรางวัลให้ประชาชนที่ร่วมซื้อสินค้างาน “ศิลปาชีพประทีปไทย OTOP ก้าวไกลด้วยพระบารมี ๒๕๖๓ ” จัดระหว่างวันที่ ๘ – ๑๖ สิงหาคม ๒๕๖๒ ณ ชาเลนเจอร์ 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี”

โดย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน (พช.) เปิดเผยว่า งาน “ศิลปาชีพประทีปไทย OTOP ก้าวไกลด้วยพระบารมี ๒๕๖๓” ตลอด ๙ วัน ได้รับความสนใจจากประชาชนเดินทางหลั่งไหลมาเที่ยวชมงานอย่างคึกคัก มีผู้เข้าชมงาน ๑๖๑,๐๙๙ รวมยอดขาย ๔๘๔,๙๒๕,๐๓๓.๕๐ บาท ทะลุเป้าที่ตั้งไว้ ๓๐๐ ล้านบาท ซึ่งเป็นยอดจำหน่ายสินค้า OTOP ทั้ง ๕ กลุ่ม ได้แก่ อาหาร เครื่องดื่ม ผ้าและเครื่องแต่งกาย ของใช้ของตกแต่งของที่ระลึก และสมุนไพรที่ไม่ใช่อาหาร ตลอดจนผลิตภัณฑ์ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถีทั่วเมืองไทย ๗๖ จังหวัด และหน่วยงานเครือข่ายต่างๆ ที่เข้าร่วม โดยยอดจำหน่ายสินค้า OTOP กลุ่มผ้าและเครื่องแต่งกายจำหน่ายได้สูงสุดกว่า ๑๔๑,๖๕๖,๒๐๙ บาท ขณะที่ยอดจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากมูลนิธิศิลปาชีพฯ ๒๐,๘๘๖,๔๘๘.๕๐ บาท ผลิตภัณฑ์จากมูลนิธิสายใจไทย ๓๐๕,๙๖๖ บาท ผลิตภัณฑ์บริษัทประชารัฐรักษามัคคีฯ ๓,๑๙๙,๙๘๗ บาท ผลิตภัณฑ์จากสมาคมสภาคนพิการฯ ๑,๗๖๖, ๖๑๓ บาท และผลิตภัณฑ์ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ๕๖,๔๔๘,๔๔๐ บาท
ทั้งนี้ งาน “ศิลปาชีพประทีปไทย OTOP ก้าวไกลด้วยพระบารมี” โดยกรมการพัฒนาชุมชุน กระทรวงมหาดไทย จัดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2555 เพื่อสืบสานพระราชปณิธานงานศิลปาชีพ และเชิดชูอัตลักษณ์คุณค่าผ้าไทย รวมทั้งสนับสนุนอาชีพและเสริมสร้างรายได้ให้กระจายไปสู่ชุมชนทั่วประเทศ โดยงานปีนี้ได้นำผ้าที่ชนะการประกวดจากทั่วประเทศมาจัดแสดง และได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมงานเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังมีความพิเศษของบูธนิทรรศการและจำหน่ายผ้าของแม่ครู ๔ ทหารเสือศิลปาชีพ ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ร่วมต่ออายุผ้าไทยพิชิตความยากจนด้วยการเป็นครูสอนทอผ้าไทยรุ่นแรก ทำให้ภูมิปัญญาการทอผ้ายังคงอยู่ยืนยาว สร้างกลิ่นอายให้คนรุ่นลูกหลานได้สัมผัสเสน่ห์ผ้าไทย รวมถึงผลิตภัณฑ์จากผ้าอัตลักษณ์ที่หาชมยาก การจัดจำหน่ายสินค้า OTOP ที่คัดสรรจากทั่วเมืองไทย การนำเรื่องราวของชุมชนท่องเที่ยวนวัตวิถีจาก ๗๖ จังหวัด ให้เที่ยวชมครบจบในงานเดียว โดยผู้ประกอบการต่างกล่าวขอบคุณรัฐบาลที่สนับสนุนการจัดงานครั้งนี้ ให้นำสินค้ามาจำหน่ายโดยไม่มีค่าใช้จ่าย รวมทั้งทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องต่างร่วมมือร่วมใจจัดงาน เพื่อสืบสานพระราชปณิธานงานศิลปาชีพ และหวังให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ ให้เมืองไทยของเราเดินหน้าต่อไป ถือเป็นงานใหญ่ครั้งแรกของปีนี้หลังวิกฤติโควิด-๑๙ โดยการจัดงานบริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี ได้สนับสนุนเพิ่มพื้นที่ให้ฟรี 20,000 ตารางเมตร และมีการปฏิบัติตามข้อกำหนดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด- ๑๙ อย่างเข้มงวดตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขทุกประการ

ปิดฉากงดงาม "OTOP ศิลปาชีพ" ผู้ประกอบการยิ้มยอดขายทะลุเป้า ๔๗๔ ล้าน "อธิบดี พช." ปลื้มความสำเร็จ “ความสำเร็จงดงามของงานครั้งนี้ ต้องขอขอบคุณการสนับสนุนจากรัฐบาล ผู้ประกอบการ OTOP และศิลปิน OTOP ทุกท่านที่ได้ร่วมกันจัดแสดงผลิตภัณฑ์หัตถศิลป์อันทรงคุณค่า งานฝีมือสุดประณีตจากมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ และสุดยอดผลิตภัณฑ์ OTOP ทั่วไทย ความพร้อมใจในการแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นถิ่นจากชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ที่สร้างสีสันตลอดงาน สื่อมวลชนที่ร่วมกันเผยแพร่ข่าวการจัดงานอย่างต่อเนื่อง และโดยเฉพาะอย่างยิ่งกำลังใจจากพี่น้องประชาชน แฟนพันธุ์แท้ OTOP ทุกท่าน ที่ช่วยกันอุดหนุนสินค้าชุมชน กินอาหารไทย ใช้ของไทย สวมใส่ผ้าไทย และเที่ยวเมืองไทย นอกจากจะเป็นกำลังใจสำคัญที่มอบให้แก่คนไทยด้วยกัน แสดงพลังว่าเราจะจับมือฝ่าฟันทุกวิกฤติไปพร้อมกันแล้ว ยังจะช่วยทำให้พี่น้องประชาชนจากชุมชนต่างๆ นับแสนครัวเรือนให้มีรายได้เลี้ยงดูครอบครัวทำให้เงินทุกบาทหมุนเวียนไปสู่ชุมชน พัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น สร้างเศรษฐกิจฐานรากให้มั่นคง และชุมชนเข้มแข็งพึ่งตนเองได้อย่างยั่งยืนอีกด้วย" อธิบดี พช. กล่าวทิ้งท้าย


ขอบคุณที่มา : กองประชาสัมพันธ์ กรมการพัฒนาชุมชน
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ คณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติฯ

๔๕๙. ประธานสภาสตรีแห่งชาติ ได้รับเกียรติ ร่วมงาน รวมพลังสตรี ๔ ภาค ก้าวสู่ change for good ในพิธี อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชนมอบรางวัล ๓ จังหวัด บริหารจัดการหนี้ที่ประสบความสำเร็จ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓

วันที่ ๑๕ สิงหาคม ๒๕๖๓ เวลา ๐๙.๐๐ น. นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ให้เกียรติบรรยายพิเศษ ในหัวข้อ “สตรี Change for good” โครงการ “กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี สร้างพลังสตรี สร้างรายได้ให้กลุ่มอาชีพ กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก รุ่นที่ ๑ – ๔ ระหว่างวันที่ ๘ – ๑๖ สิงหาคม ๒๕๖๓ จัดโดยสำนักงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี กรมการพัฒนาชุมชน โดยได้รับเกียรติจาก ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ณ อิมแพค เมืองทองธานี
การจัดโครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มพูนความรู้และพัฒนาศักยภาพแก่กลไกการขับเคลื่อนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี และเครือข่ายกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ในการสร้างพลังสตรีในการพัฒนาชุมชน และเพื่อให้สตรีเป็นพลังในการส่งเสริมและกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก โดยกลุ่มเป้าหมายของโครงการฯ ประกอบด้วย หัวหน้าคณะทำงานขับเคลื่อนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีระดับจังหวัด ๗๖ จังหวัด กรุงเทพมหานคร รวมจำนวน ๗๗ คน และประธานคณะกรรมการพัฒนาสตรีจังหวัด (กพสจ.) จำนวน ๗๖ จังหวัด เครือข่ายอาชีพจังหวัด กลุ่มอาชีพได้รับเงินจากกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี และเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนจังหวัด รวมทั้งสิ้น ๑,๗๓๓ คน โดยแบ่งการอบรมออกเป็น ๔ รุ่น

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่า “การขับเคลื่อนงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีที่เป็นแหล่งเงินทุนสำหรับสตรีที่รวมกลุ่มกันเป็นกลุ่มอาชีพสมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ต้องมีการพูดคุยปรึกษาหารือกันภายในกลุ่ม เลือกสตรีที่มีความตั้งใจ มีศักยภาพมาเป็นสมาชิกกลุ่ม เลือกประกอบอาชีพในสิ่งที่ถนัด แต่ถ้าหากไม่ถนัดให้หมั่นศึกษาหาความรู้ เพิ่มทักษะอยู่เสมอ และต้องมีความรับผิดชอบ แต่ที่สำคัญที่สุดคือ การมีใจที่ตั้งมั่นและแน่วแน่ที่จะทำให้คุณภาพชีวิตของสตรีเองและครอบครัวดีขึ้น ด้วยความขยันหมั่นเพียร เช่น กลุ่มน้ำพริกปทุมทิพย์ของจังหวัดสิงห์บุรี ที่มีการบริหารจัดการกลุ่มกับความตั้งใจ ความสามัคคีภายในกลุ่ม ที่ต้องการให้สมาชิกกลุ่มมีรายได้และมีคุณภาพชีวิตที่ดี ด้วยรายได้เฉลี่ยต่อคนถึง ๔,๐๐๐ บาทต่อเดือน”
นอกจากนี้ การบริหารจัดการหนี้ จำเป็นต้องมีการติดตามและการติดตามโดยการลงพื้นที่ก็ต้องอาศัยหลายปัจจัยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการยึดมั่นในเป้าหมายของกองทุนฯ ของการติดตาม อธิบดี พช. ได้เน้นย้ำถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยและเบี้ยปรับนั้น เพื่อช่วยเหลือสมาชิกกองทุนฯ ให้สามารถมีศักยภาพในการชำระคืนเงิน และมีกำลังใจในการประกอบอาชีพ มีรายได้ที่มั่นคง สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากให้มั่นคง ซึ่งจากผลการบริหารจัดการหนี้ทั่วประเทศ มีจังหวัดจำนวน ๔๖ จังหวัดที่สามารถบริหารจัดการหนี้ได้ต่ำกว่าร้อยละ ๑๐ ถึง ๔๖ จังหวัด และต่ำกว่าร้อยละ ๕ จำนวน ๒๐ จังหวัด โดยภาพรวมในการบริหารจัดการหนี้สามารถบริหารจัดการหนี้ลดลงกว่าร้อยละ ๕ พร้อมได้มอบประกาศนียบัตรให้กับจังหวัดที่ประสบความสำเร็จด้านการบริหารจัดการหนี้ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ โดยรุ่นที่ ๔ มีจำนวน ๓ จังหวัด (จังหวัดบุรีรัมย์ ชัยภูมิ นครราชสีมา) จาก ๒๐ จังหวัดที่ได้มอบประกาศนียบัตรไปแล้วในรุ่นที่ ๒ – ๓ ถือว่าเป็นขวัญและกำลังใจให้กับกลไกการขับเคลื่อนในทุกระดับ รวมทั้งคณะทำงานติดตามหนี้ระดับอำเภอและจังหวัดที่ร่วมมือกัน รวมพลังบริหารจัดการหนี้เพื่อให้กองทุนพัฒนาบทบาทสตรีเป็นแหล่งทุนของสตรีเพื่อสตรีทั่วประเทศต่อไป ซึ่งอธิบดี พช. เชื่อมั่นว่า การพูดคุยทำความเข้าใจและร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจ จะเป็นกุญแจสำคัญนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในการพัฒนาที่ดีขึ้น ดังเช่น "Change for good" เปลี่ยนแปลงเพื่อสิ่งที่ดีขึ้น อธิบดี พช. กล่าว

ขอบคุณ ที่มาของข่าว : กองประชาสัมพันธ์ กรมการพัฒนาชุมชน
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ คณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติฯ

๔๕๘. ประธานสภาสตรีแห่งชาติฯ ชูสตรี เป็นพลังสำคัญ ขับเคลื่อนกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก เปิดเวทีร่วมแลกเปลี่ยนการบริหารจัดการหนี้ ให้ประสบความสำเร็จ

วันที่ ๑๔ สิงหาคม ๒๕๖๓ เวลา ๑๓.๐๐ น. ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ได้รับเกียรติจากกรมการพัฒนาชุมชน บรรยายพิเศษหัวข้อ “การพัฒนาศักยภาพลูกหนี้กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี” ในการอบรมโครงการ “กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี สร้างพลังสตรี สร้างรายได้ให้กลุ่มอาชีพ กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก” รุ่นที่ ๔ พร้อมร่วมแลกเปลี่ยนแนวทางการบริหารตัดการหนี้ให้ประสบความสำเร็จกับ 5 จังหวัด (จังหวัดชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ อุดรธานี และหนองบัวลำภู) ณ ห้องแกรนด์ ไดมอนด์ บอลรูม อิมแพค ฟอรั่ม อาคารอิมแพ็ค ฟอรั่ม เมืองทองธานี กลุ่มเป้าหมายจำนวนทั้งสิ้น ๕๐๐ คน ประกอบด้วย คณะทำงานขับเคลื่อนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีระดับจังหวัด ๒๔ จังหวัด เครือข่ายอาชีพจังหวัด กลุ่มอาชีพได้รับเงินจากกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี และเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนจังหวัด เข้าร่วมงาน
ประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ กล่าวว่า จากการขับเคลื่อนงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีในช่วงปลายปี ๒๕๖๒ ที่ผ่านมา ผลการบริหารจัดการหนี้ของทั้ง ๗๖ จังหวัด และกรุงเทพมหานครที่มีร้อยละของการบริหารจัดการหนี้ต่ำกว่าร้อยละ ๑๐ มีจำนวน ๑๐ จังหวัด ซึ่งในช่วงเวลากว่า ๗ เดือน ผลการบริหารจัดการหนี้ของทั้ง จังหวัด และกรุงเทพมหานคร ที่มีร้อยละของการบริหารจัดการหนี้ต่ำกว่าร้อยละ มีจำนวน ๔๖ จังหวัด เพิ่มขึ้นจากปลายปีที่ผ่านมาถึง ๒๖ จังหวัด ทำให้เห็นถึงความตั้งใจ มุ่งมั่น ความรับผิดชอบและตระหนักในความสำคัญของกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีที่ให้โอกาสสตรีทั่วประเทศได้ใช้แหล่งทุนนี้นำไปสร้างอาชีพ สร้างรายได้ ยกระดับคุณภาพชีวิตรายครัวเรือน รวมทั้ง การส่งเสริม สนับสนุน ให้กลุ่มอาชีพสมาชิกกองทุนฯ ที่กู้ยืมเงินไปประกอบอาชีพ โดยเฉพาะกลุ่มอาชีพสมาชิกกองทุนฯ ที่ประกอบอาชีพทอผ้า ซึ่งปัจจุบันมติคณะรัฐมนตรีได้รณรงค์ให้ประชาชนใช้และสวมใส่ผ้าไทย ให้รักษาภูมิปัญญาท้องถิ่นและถ่ายทอดภูมิปัญญาท้องถิ่นนี้ให้คงอยู่ต่อไปเพราะการทอผ้าสามารถสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับสตรีได้ " จากเส้นด้ายสู่การทอเรียงร้อยลวดลายสู่ผืนผ้าเอกลักษณ์ไทย กระจายรายได้สู่คุณภาพชีวิตที่ดีของสตรี " สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นน้ำพระทัยของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงทั้งสิ้น ประธานสภาสตรีแห่งชาติฯ กล่าว
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ คณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติฯ