๕๔๗. สมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัดแพร่ องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ เติมเต็มรอยยิ้มมอบทุนการศึกษา ๔๐ ทุน ให้นักเรียน เรียนดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ จำนวน ๒๘ โรงเรียน ในจังหวัดแพร่
เมื่อวันที่ ๑๘ กันยายน ๒๕๖๓ เวลา ๐๙.๓๐ น. ผศ.สายสมร วิทยศิริ นายกสมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัดแพร่ เป็นประธานพิธีสมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัดแพร่ มอบทุนการศึกษาปีการศึกษา ประจำปี ๒๕๖๓ ให้กับให้นักเรียนเรียนดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ จำนวน ๒๘ โรงเรียน จำนวน ๔๐ ทุน เป็นเงิน ๘๔,๐๐๐ บาท ในจังหวัดแพร่ โดยมีคณะกรรมการสมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัดแพร่ และสมาชิกสมาคมฯ เข้าร่วมในพิธีมอบทุนการศึกษาดังกล่าว ณ อาคารจรัสฉายไพฑูรย์ โรงเรียนนารีรัตน์ จังหวัดแพร่
ผศ.สายสมร วิทยศิริ กล่าวว่าสมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัดแพร่ องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ดำเนินงานภายใต้วัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของสภาสตรีแห่งชาติฯ มาอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นการพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตของสตรี และเยาวชน รวมถึงการส่งเสริมพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กนักเรียนที่เรียนดี เพื่อเป็นทุนการศึกษาต่อไป
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ คณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติฯ
๕๔๖. สมาคมสตรีอาเซียนกาฬสินธุ์ องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ จัดกิจกรรมมอบทุนการศึกษาส่งเสริมพระพุทธศาสนา “โครงการทอดเทียนปัญญา มอบทุนการศึกษาสร้างศาสนทายาท ต่อลมหายใจพระพุทธศาสนา
วันพฤหัสบดีที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๖๓ เวลา ๐๗.๓๐ น. นางอุมารินทร์ เลิศสหพันธ์ นายกสมาคมสมาคมสตรีอาเซียนกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยกรรมการ และสมาชิกสมาคมฯ จัดกิจกรรมมอบทุนการศึกษาส่งเสริมพุทธศาสนา “โครงการทอดเทียนปัญญา มอบทุนการศึกษาสร้างศาสนทายาท ต่อลมหายใจพระพุทธศาสนา” ซึ่งกิจกรรมสำคัญดังกล่าว ได้กราบสักการะพระครูปัญญามัชฌิมานุกูล รองเจ้าคณะอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ เป็นประธานรับมอบทุนการศึกษาจากสมาคมสมาคมสตรีอาเซียนกาฬสินธุ์ เพื่อมอบ ให้กับผู้รับทุนการศึกษา ประกอบด้วย พระ สามเณร ๒๒ รูป และนักเรียน จำนวน ๑๐ คน เป็นเงิน ๓๒,๐๐๐ บาท (สามหมื่นสองพันบาทถ้วน) โดยมีผู้ร่วมงาน ทั้งพระภิกษุ สามเณร จำนวน ๕๐ รูป นักเรียน ครู และ พร้อมด้วยสมาชิกสมาคมสตรีอาเซียนกาฬสินธุ์ จำนวน ๑๕๐ คน ณ โรงเรียนพระปริยัติสามัญ วัดกลาง จ. กาฬสินธุ์
นางอุมารินทร์ เลิศสหพันธ์ กล่าวว่าสมาคมสตรีอาเซียนกาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นองค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ได้ขานรับนโยบายสภาสตรีแห่งชาติ ในเรื่องทะนุบำรุงพระศาสนา การมอบทุนการศึกษา “โครงการทอดเทียนปัญญา มอบทุนการศึกษาสร้างศาสนทายาท ต่อลมหายใจพระพุทธศาสนา” ให้กับพระ และสามเณร ถือเป็นบุคลากรที่มีส่วนสำคัญต่อการเผยแผ่พระพุทธศาสนา รวมทั้งเป็นกลไกที่ช่วยส่งเสริมสนับสนุนให้ประชาชนทุกกลุ่มวัยได้ศึกษาเรียนรู้หลักธรรม เพื่อกล่อมเกลาจิตใจให้เป็นคนดีมีศีลธรรม พระภิกษุ สามเณร จึงมีหน้าที่หลักคือ การศึกษาเล่าเรียนและสืบทอดพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า นำหลักธรรมที่ถูกต้องไปอบรมสั่งสอนเผยแผ่ให้เกิดศรัทธาแก่ประชาชน ซึ่งปัจจุบันจำนวนพระภิกษุ สามเณร ที่เป็นศาสนทายาทสืบทอดพระพุทธศาสนากำลังขาดแคลน ทั้งด้านเชิงปริมาณและคุณภาพ การบวชเพื่อศึกษาเล่าเรียนอุทิศชีวิตเพื่อสืบทอดพระศาสนา จึงลดน้อยถอยลงเป็นอย่างมาก ดังนั้นสมาคมสตรีอาเซียนกาฬสินธุ์ จึงได้จัดกิจกรรมมอบทุนการศึกษา ลดเหลื่อมล้ำทางการศึกษา เติมโอกาสให้ พระภิกษุ สามเณรได้ศึกษา เป็นผู้ดำรงตนตามกรอบศีลธรรมอันดีงามและเจริญก้าวหน้าสืบไป
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ คณะกรรมการบริหาร สภาสตรีแห่งชาติฯ
๕๔๕. สมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัดอุดรธานี องค์กรสมาชิกสตรีแห่งชาติฯ จัดกิจกรรม สวมผ้าไทยใส่สีแสดประจำจังหวัด” เปิดบ้านนี้มีรัก” ต้อนรับสมาชิกที่เกษียณอายุราชการ เดินหน้าขานรับทุกกิจกรรมของสภาสตรีแห่งชาติฯ
วันที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๖๓ นางกอบแก้ว คงน้อย นายกสมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัดอุดรธานี จัดกิจกรรมต้อนรับสมาชิกที่เกษียณอายุราชการจาก โรงเรียนอนุบาลอุดรธานี เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจที่สมาชิกได้ปฏิบัติงานจนเกษียณอายุราชการ รวมถึงตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาได้เสียสละเวลาในวันหยุด ส่งเสริมร่วมปฎิบัติงาน กับสมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัดอุดรธานีมาโดยตลอด โดยมีคณะกรรมการ สมาชิกสมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัดอุดรธานี ที่เกษียณอายุราชการจำนวน ๑๒ คน และมีผู้เข้าร่วมงาน ”บ้านนี้มีรัก” จำนวน ๑๒๕ คน ณ ห้องลาวเจริญศรี โรงแรมเจริญโฮเต็ล จังหวัดอุดรธานี
นางกอบแก้ว คงน้อย กล่าวว่า สมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัดอุดรธานี องค์กรสมาชิกสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ได้จัดกิจกรรมเปิดบ้านนี้มีรักของสมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัดอุดรธานี ต้อนรับ กรรมการ และสมาชิกที่เกษียณอายุราชการ เพื่อเป็นการขอบคุณตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ได้ทุ่มเทเสียสละให้กับภารกิจของสมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัดอุดรธานี มาโดยตลอด และขอต้อนรับ ผู้ที่เกษียณอายุราชการ ซึ่งมีพลังเปี่ยมด้วยจิตอาสาพร้อมที่จะเข้ามาช่วยงานของสมาคมฯ ให้มีพลังเข้มแข็งเพิ่มมากยิ่งขึ้นต่อไป
การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ สมาคมฯเน้นความรักความสามัคคี สร้างความสุข และส่งเสริมการแต่งกายด้วยผ้าไทย สวมผ้าซิ่นไหมหรือฝ้ายกับเสื้อสีแสดซึ่งเป็นสีประจำจังหวัดและประดับด้วยผ้าขาวม้า ในรูปแบบสร้างสรรค์ บ่งบอกถึงความหมายสไตล์อีสาน เพิ่มความงดงามให้การแต่งกายมีสีสันสดสวยมากขึ้นอีกด้วย
นางกอบแก้ว กล่าวเพิ่มเติมว่า สมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัดอุดรธานี ซึ่งเป็นองค์กรสมาชิก ขานรับนโยบายสภาสตรีแห่งชาติฯ เทิดทูนสถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ สร้างสรรค์สามัคคี ส่งเสริมวัฒนธรรมประเพณี มุ่งมั่นทำความดี นำพาสตรีไทยก้าวไกลสู่สากล สร้างสรรค์สามัคคี ส่งเสริมวัฒนธรรมประเพณี มุ่งมั่นทำความดี นำพาสตรีไทยก้าวไกลสู่สากล นอกจากนี้ ได้ดำเนินการโครงการ “สืบสาน อนุรักษ์ศิลป์ ผ้าถิ่นไทยให้ดำรงไว้ในแผ่นดิน” จากการที่คณะรัฐมนตรี ได้มีมติเห็นชอบในวันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๖๓ ให้ถือว่ามาตรการส่งเสริมสนับสนุนการใช้และสวมใส่ผ้าไทย เป็นนโยบายของรัฐบาล ในการส่งเสริมให้ข้าราชการ ประชาชน แต่งกายด้วยผ้าไทย โดยสมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัดอุดรธานี และคณะกรรมการตลอดจนสมาชิก ได้ร่วมกัน สร้างการรับรู้รณรงค์การใช้และสวมใส่ผ้าไทยและผ้าพื้นเมืองประจำจังหวัด อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างค่านิยมและการตระหนัก รับรู้ รักษามรดก อัตลักษณ์ภูมิปัญญาของไทย และอนุรักษ์ต่อยอดภูมิปัญญาพัฒนาผ้าไทยเพื่อเป็นสินค้าเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ ทำให้เกษตรกร รวมถึงพี่น้องในจังหวัดอุดรธานี มีเงิน มีอาชีพหลัก มีอาชีพเสริมในการทอผ้าได้ ประสบความสำเร็จ ซึ่งทำให้ผู้ที่ทอผ้ามีกำลังใจ มีรายได้เลี้ยงดูครอบครัว และลูกหลาน เกิดจากการทอผ้าออกจำหน่ายจะสามารถช่วยสตรียกระดับคุณภาพชีวิต ส่งบุตรหลานให้มีโอกาสเล่าเรียน ดูแลครอบครัวได้เมื่อยามเจ็บป่วย สร้างครอบครัวให้เข้มแข็งต่อไป
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ คณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติฯ
๕๔๔. ประมวลภาพสภาสตรีแห่งชาติฯ จัดประชุมใหญ่สามัญครั้งที่ ๔๑
สภาสตรีแห่งชาติฯ จัดประชุมใหญ่สามัญ ครั้งที่ ๔๑ ชูผลงาน ๕๔๒ กิจกรรม เทิดทูนสถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ สร้างสรรค์สามัคคี ส่งเสริมวัฒนธรรมประเพณี มุ่งมั่นทำความดี นำพาสตรีไทยก้าวไกลสู่สากล
๐๙ กันยายน ๒๕๖๓
วันพุธที่ ๙ กันยายน ๒๕๖๓ เวลา ๐๙.๓๐ น. ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ (สมัยที่ ๒๖ พ.ศ ๒๕๖๑ – ๒๕๖๔ ) เป็นประธานเปิดการประชุมใหญ่สามัญ ครั้งที่ ๔๑ ประจำปี ๒๕๖๓ โดยกำหนดให้ผู้เข้าร่วมประชุมทุกท่าน ร่วมร้องเพลงชาติ สวดมนต์ ร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ก่อนการเริ่มประชุม ซึ่งผู้เข้าร่วมประชุม ประกอบด้วย ที่ปรึกษาและอดีตประธานสภาสตรีแห่งชาติฯ พล.ต.หญิง คุณหญิงอัสนีย์ เสาวภาพ ดร.เรือนแก้ว กุยยกานนท์ แบรนด์ท นางยุวดี นิ่มสมบุญ นางเยาวเรศ ชินวัตร พร้อมด้วย นางรชตภร โตดิลกเวชช์ ประธานคณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติ สมัย ๒๖(สมัยที่ ๒๖ พ.ศ ๒๕๖๑ – ๒๕๖๔ ) และ รองประธานคณะกรรมการอำนวยการ คณะกรรมการอำนวยการ คณะกรรมการบริหาร และผู้แทนองค์กรสมาชิก จากภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ และภาคกรุงเทพมหานคร รวมทั้งหมดจำนวน ๑๘๐ คน เข้าร่วมประชุมพร้อมเพียง โดยมีวาระสำคัญการประชุม เพื่อรายงานผลการดำเนินงานในรอบปีที่ผ่านมา พิจารณารับรองงบการเงินและแต่งตั้งผู้ตรวจสอบบัญชี ณ แหล่งสมาคมนายทหาร กองพลทหารม้าที่ ๒ รักษาพระองค์ ถนนพหลโยธิน กรุงเทพฯ
๕๔๓. สภาสตรีแห่งชาติฯ จัดประชุมใหญ่สามัญ ครั้งที่ ๔๑ ชูผลงาน ๕๔๒ กิจกรรม เทิดทูนสถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ สร้างสรรค์สามัคคี ส่งเสริมวัฒนธรรมประเพณี มุ่งมั่นทำความดี นำพาสตรีไทยก้าวไกลสู่สากล
วันพุธที่ ๙ กันยายน ๒๕๖๓ เวลา ๐๙.๓๐ น. ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ (สมัยที่ ๒๖ พ.ศ ๒๕๖๑ – ๒๕๖๔ ) เป็นประธานเปิดการประชุมใหญ่สามัญ ครั้งที่ ๔๑ ประจำปี ๒๕๖๓ โดยกำหนดให้ผู้เข้าร่วมประชุมทุกท่าน ร่วมร้องเพลงชาติ สวดมนต์ ร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ก่อนการเริ่มประชุม ซึ่งผู้เข้าร่วมประชุม ประกอบด้วย ที่ปรึกษาและอดีตประธานสภาสตรีแห่งชาติฯ พล.ต.หญิง คุณหญิงอัสนีย์ เสาวภาพ ดร.เรือนแก้ว กุยยกานนท์ แบรนด์ท นางยุวดี นิ่มสมบุญ นางเยาวเรศ ชินวัตร พร้อมด้วย นางรชตภร โตดิลกเวชช์ ประธานคณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติ สมัย ๒๖(สมัยที่ ๒๖ พ.ศ ๒๕๖๑ – ๒๕๖๔ ) และ รองประธานคณะกรรมการอำนวยการ คณะกรรมการอำนวยการ คณะกรรมการบริหาร และผู้แทนองค์กรสมาชิก จากภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ และภาคกรุงเทพมหานคร รวมทั้งหมดจำนวน ๑๘๐ คน เข้าร่วมประชุมพร้อมเพียง โดยมีวาระสำคัญการประชุม เพื่อรายงานผลการดำเนินงานในรอบปีที่ผ่านมา พิจารณารับรองงบการเงินและแต่งตั้งผู้ตรวจสอบบัญชี ณ แหล่งสมาคมนายทหาร กองพลทหารม้าที่ ๒ รักษาพระองค์ ถนนพหลโยธิน กรุงเทพฯ
ดร.วันดี แถลงผลการดำเนินงานในรอบปีที่ผ่านมา ตั้งแต่วันที่ ๑๙ มิถุนายน ๒๕๖๑ จนถึง วันที่ ๙ กันยายน ๒๕๖๓ จำนวน ๕๔๒ กิจกรรม ส่งเสริมกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ เทิดทูนสถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ สร้างสรรค์สามัคคี ส่งเสริมวัฒนธรรมประเพณี มุ่งมั่นทำความดี นำพาสตรีไทยก้าวไกลสู่สากล
ในโอกาสสำคัญนี้ ประธานสภาสตรีแห่งชาติฯ กล่าวขอขอบคุณที่ปรึกษา อดีตประธานสภาสตรีแห่งชาติฯ และคณะกรรมการอำนวยการ คณะกรรมการบริหาร องค์กรสมาชิกทั่วประเทศ ที่ให้ความร่วมมือในทุกกิจกรรมในการทำประโยชน์เพื่อส่วนรวม และการที่ได้ร่วมมาประชุมใหญ่สามัญ ครั้งที่ ๔๑อย่างพร้อมเพียงในวันนี้ แสดงให้เห็นถึงพลังอันเข้มแข็งของสตรี ในการร่วมกันขับเคลื่อนส่งเสริมผลักดันพัฒนาศักยภาพของสตรีในทุกมิติ อันจะเป็นประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติโดยรวม โดยนโยบายของสภาสตรีแห่งชาติคือ การสืบสานพระราชปณิธานของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี
สำหรับผลการดำเนินการทำงานในรอบปีที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือจากคณะกรรมการอำนวยการ คณะกรรมการบริหาร และองค์กรสมาชิกเป็นอย่างดี มีผลงานที่เกิดประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ จำนวน ๕๔๒ กิจกรรม แต่ละกิจกรรมทำให้องค์กรสมาชิก และกลุ่มสตรีโดยเฉพาะตามภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น พอสรุปได้ ดังนี้
เมื่อวันที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๓ ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ นำคณะกรรมการ และ องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ จำนวน ๘๙ องค์กร จากทุกภาคทั่วประเทศ ถวายแจกันดอกไม้สดเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ เพื่อแสดงถึงความจงรักภักดี และน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านที่มีต่อองค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯและสตรีไทย เป็นล้นพ้นหาที่สุดมิได้ และร่วมลงนามถวายพระพร ขอให้พระองค์ท่านมีพระพลานามัยสมบูรณ์ มีพระชนมายุยิ่งยืนนาน สถิตเป็นมิ่งขวัญของปวงข้าพระพุทธเจ้าและปวงชนชาวไทยตลอดไป เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ๘๘ พรรษา (๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๓ ) ณ ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง
โครงการ “สืบสาน อนุรักษ์ศิลป์ผ้าถิ่นไทย ดำรงไว้ ในแผ่นดิน"
สภาสตรีแห่งชาติฯ ร่วมกับกรมการพัฒนาชุมชน จัดทำ โครงการ “สืบสาน อนุรักษ์ศิลป์ผ้าถิ่นไทย ดำรงไว้ ในแผ่นดิน" โดยคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๖๓ เห็นชอบมาตรการส่งเสริมและสนับสนุนการใช้และสวมใส่ผ้าไทย ตามที่กระทรวงมหาดไทย โดยกรมการพัฒนาชุมชน และสภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ นำเสนอ โดยเชิญชวนคนไทยให้สวมใส่ผ้าไทยอย่างน้อยสัปดาห์ละ ๒ วัน เพื่ออนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมที่สะท้อนให้เห็นบริบททางสังคมและวัฒนธรรมของแต่ละพื้นที่ ตลอดจนส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก สร้างรายได้กระจายสู่ชุมชนอย่างรวดเร็วและทั่วถึง โดยสภาสสตรีแห่งชาติและองค์กรสมาชิกทั่วประเทศ ร่วมกันการรณรงค์ให้คนไทยทั้งประเทศ ร่วมมือร่วมใจกันใส่ผ้าทอไทย ไม่ว่าจะเป็น ผ้าไหม ผ้าฝ้าย ผ้าพื้นเมือง เพื่อช่วยกันสร้างความเข้มแข็งแก่เศรษฐกิจฐานราก ลดความเหลื่อมล้ำกระจายรายได้ให้แก่ชุมชน รักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม และรักษาภูมิปัญญาท้องถิ่น ทั้งนี้ การใส่ผ้าทอไทยทุกผืน ก่อให้เกิดรายได้กระจายไปยังชุมชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มสตรีกว่า ๙๐% รายได้ที่เกิดจากการทอผ้าออกจำหน่ายจะสามารถช่วยสตรียกระดับคุณภาพชีวิต ส่งบุตรหลานให้มีโอกาสเล่าเรียน ดูแลครอบครัวได้เมื่อยามเจ็บป่วย สร้างครอบครัวให้เข้มแข็ง
“หากคนไทยพร้อมใจกันสวมใส่ผ้าไทยในทุกวันทั้งประเทศ จะช่วยเป็นการส่งเสริมการทอผ้าในชุมชน สร้างงาน สร้างอาชีพ ลดปัญหาการว่างงาน ลดปัญหาการว่างงาน ลดปัญหา การย้ายถิ่นฐาน และลดความเหลื่อมล้ำในสังคมได้ ถ้าคนไทยร่วมมือร่วมใจกันใส่ผ้าไทย อย่างน้อย คนละ ๑๐ เมตร หากสตรี ๓๕ ล้านคน ใส่ผ้าไทยคนละ ๑๐ เมตร รวม ๓๕๐ ล้านเมตร เมตรละ ๓๐๐ บาท เราจะช่วยให้เกิดเงินหมุนเวียนทันที ๑ แสนล้านบาท สร้างเศรษฐกิจฐานรากเข้มแข็ง ก่อเกิดรายได้”
โครงการ “รวมพลังสตรีอาสาพัฒนา ปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ”
สภาสตรีแห่งชาติฯ ร่วมกับกรมการพัฒนาชุมชน จัดทำโครงการ “รวมพลังสตรีอาสาพัฒนา ปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ” เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ ๑- ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๓ เป็นการร่วมแสดงพลังสตรีอาสาพัฒนาทุกระดับในการขับเคลื่อนโครงการฯ ในพื้นที่ต่างๆ จำนวน ๒๒ แห่งทั่วประเทศ
โครงการ “เติมความสุข บรรเทาความทุกข์ ด้วยการแบ่งปัน"
สภาสตรีแห่งชาติฯ ร่วมกับกรมการพัฒนาชุมชน จัดทำโครงการ “เติมความสุข บรรเทาความทุกข์ ด้วยการแบ่งปัน" ถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบปัญหาของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-๑๙ แจกจ่ายถุงยังชีพ ๕,๐๐๐ ชุด ทั่วประเทศ ในพื้นที่ต่างๆ เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนและเติมกำลังใจให้พี่น้องประชาชนในยามวิกฤติ
“ศิลปาชีพประทีปไทย OTOP ก้าวไกลด้วยพระบารมี ๒๕๖๓”
สภาสตรีแห่งชาติฯ ได้รับเกียรติ ร่วม งาน “ศิลปาชีพประทีปไทย OTOP ก้าวไกลด้วยพระบารมี ๒๕๖๓” จัดโดย กรมการพัฒนาชุมชน จัดระหว่างวันที่ ๘ – ๑๖ สิงหาคม ๒๕๖๓ ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยสภาสตรีแห่งชาติฯ สนับสนุนองค์กรสมาชิกของสภาสตรีแห่งชาติฯ ร่วมออกร้านจำหน่ายสินค้า ผลิตภัณฑ์จากชุมชน โดยรณรงค์ให้ประชาชนใช้และสวมใส่ผ้าไทย ให้รักษาภูมิปัญญาท้องถิ่นและถ่ายทอดภูมิปัญญาท้องถิ่นนี้ให้คงอยู่ต่อไปเพราะการทอผ้าสามารถสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับสตรีได้ " จากเส้นด้ายสู่การทอเรียงร้อยลวดลายสู่ผืนผ้าเอกลักษณ์ไทย กระจายรายได้สู่คุณภาพชีวิตที่ดีของสตรี " สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นน้ำพระทัยของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
โครงการ “กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี สร้างพลังสตรี สร้างรายได้ให้กลุ่มอาชีพ กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก”
สภาสตรีแห่งชาติฯ ร่วม กับกรมการพัฒนาขุมชน พัฒนาศักยภาพลูกหนี้กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี” ในการอบรมโครงการ “กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี สร้างพลังสตรี สร้างรายได้ให้กลุ่มอาชีพ กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก”ขับเคลื่อนงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีในช่วงปลายปี ๒๕๖๒ ที่ผ่านมา ผลการบริหารจัดการหนี้ของทั้ง ๗๖ จังหวัด และกรุงเทพมหานครที่มีร้อยละของการบริหารจัดการหนี้ต่ำกว่าร้อยละ ๑๐ มีจำนวน ๑๐ จังหวัด ซึ่งในช่วงเวลากว่า ๗ เดือน ผลการบริหารจัดการหนี้ของทั้ง จังหวัด และกรุงเทพมหานคร ที่มีร้อยละของการบริหารจัดการหนี้ต่ำกว่าร้อยละ มีจำนวน ๔๖ จังหวัด เพิ่มขึ้นจากปลายปีที่ผ่านมาถึง ๒๖ จังหวัด ทำให้เห็นถึงความตั้งใจ มุ่งมั่น ความรับผิดชอบและตระหนักในความสำคัญของกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีที่ให้โอกาสสตรีทั่วประเทศได้ใช้แหล่งทุนนี้นำไปสร้างอาชีพ สร้างรายได้ ยกระดับคุณภาพชีวิตรายครัวเรือน รวมทั้ง การส่งเสริม สนับสนุน ให้กลุ่มอาชีพสมาชิกกองทุนฯ ที่กู้ยืมเงินไปประกอบอาชีพ โดยเฉพาะกลุ่มอาชีพสมาชิกกองทุนฯ ที่ประกอบอาชีพทอผ้า
ฝ่ายประชาสัมพันธ์คณะกรรมการบริหารสภาตรีแห่งชาติฯ
๕๔๒.สมาคมสตรีไทยแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมถ์ องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ ร่วมใจน้อมเกล้าฯจัดโครงการ” ปลูกต้นไม้ เฉลิมพระเกียรติ”
เมื่อวันพุธที่ ๑๙ สิงหาคม ๒๕๖๓ เวลา ๑๑.๐๐ น.นางสาวเบญจมาศ รุจิรวงศ์ นายกสมาคมสตรีไทยแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมถ์ เป็นประธาน ปลูกต้นไม้เฉลิมเฉลิมพระเกียรติ ที่สำนักปฏิบัติธรรม “สติภาวนา”สมาคมสตรีไทยแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมถ์ ร่วมใจน้อมเกล้าฯจัดโครงการ” ปลูกต้นไม้ เฉลิมพระเกียรติ” เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชินีพันปีหลวง โดยได้รับความเมตตาจาก ท่านเจ้าคุณพระราชปัญญารังษี เจ้าอาวาสวัดชิโนรสารามวรวิหาร กรุงเทพฯ ณ.สถานปฏิบัติธรรม”สติภาวนา” สาขาวัดชิโนรส บ้านถ้ำหิน อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี
สมาคมสตรีไทยแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมถ์ องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ได้น้อมนำ กระแสพระราชดำรัสของ สมเด็จพระบรมราชินีนาถพันปีหลวง เมื่อเดือนธันวาคม 2525 ที่ว่า”พระเจ้าอยู่หัวเป็นน้ำ ฉันจะเป็นป่า” จึงพร้อมใจจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ นี้ขึ้น เพราะตระหนักดีว่าป่าเป็นแหล่งต้นน้ำลำธารที่สำคัญให้ความชุ่มฉ่ำอุดมสมบูรณ์แก่แผ่นดินแก่มนุษย์และสัตว์น้อยใหญ่
อนึ่งการปลูกต้นไม้ในเขตของผู้ทรงศิลป์ถือเป็นการสร้างบุญอย่างหนึ่ง ช่วยเปลี่ยนโลกร้อนเป็นโรคเย็นสร้างโลกให้เป็นสีเขียวมากขึ้น ส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อม การปลูกต้นไม้ ไม่ว่าจะเป็นดอกไม้ หรือไม้ผล ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างวิหารทาน อันส่งผลให้ปรากฏถ้ามีรูปผลจะทำให้อิ่มท้องอิ่มใจ สวนดอกไม้เมื่อยามบานสะพรั่งจะส่งผลให้ผู้พบเห็นมี ความสุขสดชื่น สร้างความเบิกบานใจในความสวยงามของต้นไม้ดอกไม้ถือว่าเป็นการสั่งสม เติมเต็มผลบุญในชีวิตของผู้ร่วมกิจกรรมอีกประการหนึ่ง
นอกจากกิจกรรมปลูกต้นไม้แล้วสมาคมได้ถวายภัตตาหารเพลแด่คณะสงฆ์ และมอบสิ่งของที่จำเป็นเพื่อใช้ประโยชน์แก่สถานปฏิบัติธรรมด้วยและได้เลี้ยงอาหารกลางวันและไอติมแก่เด็กนักเรียนโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านถ้ำหินจำนวน175คนมีอนุบาล-ป.6 โดยมีครูใหญ่ ด.ต.หญิงมาลินณา สังข์แก้ว แจกเสื้อกีฬาสีฟ้ากีฬาอุปกรณ์การเรียนสมุดดินสอและเครื่องเขียนและยังมีเครื่องรับ โทรทัศน์เพื่อใช้ประโยชน์ในการเรียนออนไลน์อีกด้วย ฉะนั้นกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติครั้งนี้จึงเปิดโอกาสให้สมาชิกได้มีส่วนร่วมในการสร้างบุญ กุศลร่วมกันสร้างประโยชน์แก่สถานปฏิบัติธรรมและยังช่วยสร้างจิตสำนึกต่อสังคมในการอยู่ บนโลกรวมกันเกิดความรักและหวงแหนป่าไม้พิจารณาการใช้หลักทรัพยากรอย่างประหยัด เพื่อความจีรังยั่งยืนจนถึงลูกหลานสืบไป
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ คณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติฯ
๕๔๑. สมาคมสตรีสัมพันธ์ ในพระอุปถัมภ์ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๓
วันพุธ ที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๓ เวลา ๐๘.๕๐ น. นางเพ็ญศรี ธีรพงษ์ นายกสมาคมสตรีสัมพันธ์ องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ พร้อมด้วย นางสุวรรณี พิงพิทยากุล อุปนายกสมาคมสตรีสัมพันธ์ คนที่ ๑ (ภาษากว่างสี) และ นางจิราภรณ์ กฤตยาเกียรณ์ อุปนายกสมาคมสตรีสัมพันธ์ คนที่ ๒ (ภาษาแต้จิ๋ว) ทูลเกล้าถวายแจกันดอกไม้สด เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ เพื่อแสดงถึงความจงรักภักดี และน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านที่มีต่อองค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯและสตรีไทย เป็นล้นพ้นหาที่สุดมิได้ โดยมีองค์กรสมาชิก สภาสตรีแห่งชาติฯ จำนวน ๘๙ องค์กร จากทุกภาค ร่วมถวายแจกันดอกไม้สด และร่วมกันลงนามถวายพระพร ขอให้พระองค์ท่านมีพระพลานามัยสมบูรณ์ มีพระชนมายุยิ่งยืนนาน สถิตเป็นมิ่งขวัญของปวงข้าพระพุทธเจ้าและปวงชนชาวไทยตลอดไป เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ๘๘ พรรษา (๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๓ ) ณ ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ คณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติฯ
๕๔๐. สมาคมสตรีอาสาสมัครรักษาดินแดน กรุงเทพมหานคร ในพระอุปถัมภ์ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
วันพุธ ที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๓ เวลา ๐๘.๓๐ น. นางสุดารัตน์ นาคามดี นายกสมาคมสตรีอาสาสมัครรักษาดินแดน กรุงเทพมหานคร ในพระอุปถัมภ์ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดีองค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ นำกรรมการสมาคมฯ ทูลเกล้าถวายแจกันดอกไม้สด เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ เพื่อแสดงถึงความจงรักภักดี และน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านที่มีต่อองค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯและสตรีไทย เป็นล้นพ้นหาที่สุดมิได้ โดยมีองค์กรสมาชิก สภาสตรีแห่งชาติฯ จำนวน ๘๙ องค์กร จากทุกภาค ร่วมถวายแจกันดอกไม้สด และร่วมกันลงนามถวายพระพร ขอให้พระองค์ท่านมีพระพลานามัยสมบูรณ์ มีพระชนมายุยิ่งยืนนาน สถิตเป็นมิ่งขวัญของปวงข้าพระพุทธเจ้าและปวงชนชาวไทยตลอดไป เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ๘๘ พรรษา (๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๓ ) ณ ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ คณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติฯ
๕๓๙. กรมการพัฒนาชุมชน สภาสตรีแห่งชาติ ร่วมกับ องค์กรสมาชิก ๘๙ องค์กร ถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๓
วันพุธ ที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๓ เวลา ๐๘.๔๐ น. นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นางวันดี กุญชรยาคงจุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ และองค์กรสมาชิก สภาสตรีแห่งชาติฯ และภาคีเครือข่าย สภาสตรีแห่งชาติฯ จำนวน ๘๙ องค์กร จากทุกภาค ทูลเกล้าถวายแจกันดอกไม้สด เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ เพื่อแสดงถึงความจงรักภักดี และน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านที่มีต่อองค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯและสตรีไทย เป็นล้นพ้นหาที่สุดมิได้ และร่วมกันลงนามถวายพระพร ขอให้พระองค์ท่านมีพระพลานามัยสมบูรณ์ มีพระชนมายุยิ่งยืนนาน สถิตเป็นมิ่งขวัญของปวงข้าพระพุทธเจ้าและปวงชนชาวไทยตลอดไป เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ๘๘ พรรษา (๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๓ ) ณ ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ คณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติฯ
๕๓๘. สภาสตรีแห่งชาติฯ - กรมการพัฒนาชุมชน น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ จัดกิจกรรมรวมพลังอาสา ปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา
เมื่อที่ ๒๙ สิงหาคม ๒๕๖๓ . นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน(พช.) กระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม “รวมพลังอาสา ปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๓ โดยมี นางวิไลวรรณ ไกรโสดา รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายวีระศักดิ์ ศรีโสภา รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท นางเสริมศรี ศรีวงษ์ญาติดี รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยนาท และองค์กร สมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ ผู้บริหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ข้าราชการ สตรีอาสาพัฒนา ผและชมรมคนรักเขาขยายจังหวัดชัยนาท เข้าร่วมกิจกรรม เพื่อร่วมกันปลูกต้นไม้จำนวน ๑,๐๘๙ ต้น และต้นจามจุรี ๓๐๐ ต้น ในบริเวณเขาขยาย จ.ชัยนาท
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ คณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติฯ