๕๕๒. สมาคมสตรีนครเชียงใหม่ องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ เติมเต็ม มอบทุนการศึกษา และจัดกิจกรรมฐานการเรียนรู้ แนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ให้เยาวชนไทย

วันพุธที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๖๓ นางสาววรัญญา เลิศวรกิจพิพัฒน์ นายกสมาคมสตรีนครเชียงใหม่ องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ และกรรมการอำนวยการสภาสตรีแห่งชาติฯ สมัยที่ ๒๖ (พ.ศ.๒๕๖๑-พ.ศ.๒๕๖๔) เป็นประธานเปิดโครงการส่งเสริมทักษะอาชีพในโรงเรียน ประจำปี ๒๕๖๓ หลักสูตรการพึ่งพาตนเองตามแนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยมีนายชนพัฒน์ ใจมั่น ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านแม่ซา กล่าวต้อนรับ ได้มอบทุนการศึกษา พร้อมด้วยสิ่งของ อาทิเช่น ผ้าอนามัย ๔,๘๐๐ ชิ้น แปรงสีฟัน ๒๐๐ ชิ้น ยาสีฟัน ๑๙๒ ชิ้น เมล็ดพันธุ์ผัก ๕ กิโลกรัม เมล็ดทานตะวัน ๕ กิโลกรัม น้ำยาล้างจาน ๑๐ ชุุด น้ำยาซักผ้า ๑๐ ชุด ผ้าแมส ยา เสื้อผ้า ถุงเท้านักเรียน ขนม เป็นต้น พร้อมกันนี้ทางสมาคมสตรีนครเชียงใหม่ ได้จัดกิจกรรมสาธิตให้กับเด็กนักเรียนได้เรียนรู้ ตามแนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ณ ห้องประชุมโรงเรียนบ้านแม่ซา หมู่ที่ ๒ ตำบลแม่นาจร อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่
ในโอกาสนี้ นางสาววรัญญา เลิศวรกิจพิพัฒน์ กล่าวว่าสมาคมสตรีนครเชียงใหม่ องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ และกรรมการของสมาคมฯ ได้จัดกิจกรรมสาธิตให้กับเด็กนักเรียนได้เรียนรู้ ตามแนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยแบ่งเป็นฐานการเรียนรู้ ดังนี้
- การสาธิตการเพาะและประกอบอาหารจากต้นอ่อนทานตะวัน
- การสาธิตการทำน้ำยาล้างจาน
- การสาธิตการทำน้ำยาซักผ้า
- การลงแปลงปลูกพืชผักสวนครัวร่วมกัน
- การสืบสานวัฒนธรรมล้านนาสอนฟ้อนเจิงเพื่อสุขภาพ
- บริการตัดผมเด็กนักเรียนชาย

ฝ่ายประชาสัมพันธ์ คณะกรรมการบริหาร สภาสตรีแห่งชาติฯ

๕๕๑. สมาคมศิษย์เก่าอัสสัมชัญศึกษา องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ ส่งมอบห้องความดันลบให้โรงพยาบาลสมุทรปราการ ดูแลผู้ป่วยติดเชื้อ สู้ภัย COVID-๑๙

วันที่ ๒๙ กันยายน ๒๕๖๓ เวลา ๑๐.๐๐ น. นางสาวลัดดา วงศ์บุญสิน นายกสมาคมศิษย์เก่าอัสสัมชัญศึกษา นางอัมพรรณ เตขะสมบูรณากิจ อุปนายกสมาคมฯ และนางลาวัลย์ แซ่ตั้ง ที่ปรึกษาสมาคมฯ ร่วมเป็นตัวแทน กรรมการและศิษย์เก่าสมาคมศิษย์เก่าอัสสัมชัญศึกษาส่งมอบเงิน จำนวน ๘๐,๐๐๐ บาท เพื่อร่วมสร้างห้องความดันลบ ( Negative Pressure ) นำไปใช้ในการป้องกันและรักษาการติดเชื้อไวรัสโควิด- ๑๙ ให้กับโรงพยาบาลสมุทรปราการ โดยมีนายแพทย์ นำพล แดนพิพัฒน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมุทรปราการ เป็นผู้รับมอบ ณ ห้องประชุมผู้อำนวยการ โรงพยาบาลสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ
นางสาวลัดดา วงศ์บุญสิน กล่าวว่าสมาคมศิษย์เก่าอัสสัมชัญศึกษา องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ได้รวบรวมเงิน จากกรรมการ และที่ปรึกษา สมาคม รวมถึงศิษย์เก่า นำเงินมาบริจาคสนับสนุน สร้างห้องความดันลบ ( Negative Pressure ) เพื่อใช้ดูแลผู้ป่วยติดเชื้อ COVID-๑๙
“ห้องความดันลบ” เป็นห้องที่ใช้แยกผู้ป่วยติดเชื้อ หรือโรคที่ติดต่อทางอากาศ โดยเฉพาะผู้ติดเชื้อ ไวรัส Covid-๑๙ เป็นอีกโรคหนึ่งที่มีความจำเป็นต้องแยกผู้ป่วยออกจากผู้ป่วยรายอื่นในโรงพยาบาล “ห้องความดันลบ” จึงเป็นห้องที่มีความสำคัญมากในปัจจุบัน ไว้สำหรับแยกผู้ป่วยแบบเดี่ยว เป็นห้องที่มีความดันอากาศภายในห้องต่ำกว่าภายนอก อากาศภายในห้องผู้ป่วย จะถูกทำให้มีความดันต่ำกว่า ไม่ให้ไหลออกจากห้องเมื่อมีการเปิด-ปิดประตู เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคจากในห้องไปสู่บริเวณภายนอก
ที่มา: สมาคมศิษย์เก่าอัสสัมชัญศึกษา องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ
เรียบเรียงภาพ-ข่าว : ฝ่ายประชาสัมพันธ์คณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติฯ

๕๕๐. สมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัดฉะเชิงเทรา องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี ๒๕๖๓ สรุปผลงาน ตอกย้ำ ขานรับโครงการ“สืบสาน อนุรักษ์ศิลป์ผ้าถิ่นไทย ดำรงไว้ ในแผ่นดิน"

วันที่ ๒๕ กันยายน ๒๕๖๓ นางสุรวดี เป้าเปี่ยมทรัพย์ นายกสมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัดฉะเชิงเทรา องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ เป็นประธานเปิดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี ๒๕๖๓ สรุปผลงานของสมาคมฯ ในรอบปี ที่ผ่านมา และในโอกาสเดียวกันนี้ ได้จัดให้มีพิธีเลี้ยงอำลา นางสุรวดี เป้าเปี่ยมทรัพย์ นายกสมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัดฉะเชิงเทรา ที่พ้นวาระ จากการดำรงตำแหน่งนายกสมาคมนายกสมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัดฉะเชิงเทรา เนื่องจาก นายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา เกษียณอายุราชการ โดยมีกรรมกการ และสมาชิกจาก อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา‎ อำเภอคลองเขื่อน อำเภอท่าตะเกียบ อำเภอบางน้ำเปรี้ยว อำเภอบางคล้า อำเภอบางปะกงอำเภอแปลงยาว อำเภอพนมสารคาม อำเภอราชสาส์ อำเภอสนามชัยเขต อำเภอบ้านโพธิ์จำนวน ๑๑ อำเภอ ในจังหวัดฉะเชิงเทรา เข้าร่วมประชุม และร่วมพิธีดังกล่าว จำนวน ๑๕๐ คน ณ ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัด อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา
นางสุรวดี เป้าเปี่ยมทรัพย์ กล่าวว่า ได้รับมอบหมายจากนายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ให้ปฎิบัติหน้าที่ นายกสมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัดฉะเชิงเทรา เมื่อท่านผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราเกษียณอายุราชการ ตำแหน่งนายกสมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัดฉะเชิงเทรา จะต้องได้รับการแต่งตั้งจากท่านผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราคนใหม่ต่อไป
นางสุรวดี เป้าเปี่ยมทรัพย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในระหว่างดำรงตำแหน่ง นายกสมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัดฉะเชิงเทรา องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ ได้ดำเนินงานภายใต้วัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของสภาสตรีแห่งชาติฯ และให้ความร่วมมือในทุกกิจกรรมในการทำประโยชน์เพื่อส่วนรวมตามนโยบายของ ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติฯ มาอย่างต่อเนื่อง ในโอกาสนี้ ขอขอบคุณคณะกรรมการ และสมาชิกของสมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัดฉะเชิงเทรา ทุกท่าน ที่ร่วมกันปฏิบัติตามภารกิจของสมาคมฯอย่างเข้มแข็งตลอดมา รวมถึงโครงการ “สืบสาน อนุรักษ์ศิลป์ผ้าถิ่นไทย ดำรงไว้ ในแผ่นดิน" ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๖๓ ของสภาสตรีแห่งชาติฯ ร่วมกับกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ในการร่วมใจกันสวมใส่ผ้าทอไทย เป็นต้นแบบในจังหวัดฉะเชิงเทรา ไม่ว่าจะเป็น ผ้าไหม ผ้าฝ้าย ผ้าพื้นเมือง ก่อให้เกิดรายได้กระจายไปยังชุมชน สร้างครอบครัวสตรีไทยให้เข้มแข็งสืบไป
ฝ่ายประชาสัมพันธ์คณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติฯ



๕๔๙. สมาคมกองทุนสวัสดิการเพื่อสตรี จ.พระนครศรีอยุธยา องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ และภาคีเครือข่ายสตรีจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จัดกิจกรรม "สตรีอยุธยารวมใจภักดิ์รักษ์แผ่นดิน ปี ๒๕๖๓" เชิดชูวีรกรรมของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช

วันที่ ๒๒ กันยายน ๒๕๖๓ เวลา ๐๘.๓๐ น. นางพิศมัย เลิศอิทธิบาท ประชาสัมพันธ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานเปิดโครงการ "สตรีอยุธยารวมใจภักดิ์รักแผ่นดิน ประจำปี ๒๕๖๓" ที่วัดพิชัยสงคราม ตำบลกะมัง อำเภอพระนคร ศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งจัดโดยสมาคมกองทุนสวัสดิการเพื่อสตรี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ โดยนางพรทิพย์ ตั้งกีรติ นายกสมาคมกองทุนสวัสดิการเพื่อสตรี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นำคณะกรรมการและภาคีเครือข่ายสตรี จาก ๑๖ อำเภอ จำนวน ๒๐๔ ตำบล ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประกอบพิธีกิจกรรม "สตรีอยุธยารวมใจภักดิ์รักษ์แผ่นดิน ปี ๒๕๖๓" เชิดชูวีรกรรมของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และได้รับเกียรติ จาก กอ.รมน.จ. พระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย พันจ่าอากาศเอก สุรศาสตร์ วิเศษลา (หนุ่ม บางเดื่อ) เป็นวิทยากรจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ซึ่งมีผู้ร่วมกิจกรรม จำนวน ๑๘๐ คน เพื่อสร้างความสามัคคีในภาคีเครือข่ายสตรี ซึ่งเป็นกิจกรรมรวมพลังสตรี เชิดชูวีรกรรมของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ผู้กอบกู้เอกราชของชาติไทยสมัยเสียกรุงศรีอยุธยา ครั้งที่ ๒
นางพรทิพย์ ตั้งกีรติ กล่าวว่า การกิจกรรมนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ" เชิดชูวีรกรรมของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และสร้างความรักความสามัคคีในสมาคมกองทุนสวัสดิการเพื่อสตรีจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และ ภาคีเครือข่ายสตรี จังหวัด.พระนครศรีอยุธยา เริ่มด้วยจุดแรก เวลา ๐๘.๓๐ ถวายสักการะ อนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าอู่ทอง อำเภอเมือง จากนั้น เวลา ๐๙.๐๐ น.ผู้ร่วมพิธีทุกท่าน เดินทางมาวัดพิชัยสงคราม อำเภอเมือง ประกอบพิธีถวายพานพุ่มราชสักการะ ถวายราชสดุดีสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช จากนั้น เวลา ๑๐.๐๐ น. คณะได้เดินทางไปวัดบ้านโพธิ์สาวหาญ อำเภออุทัย เพื่อรับฟังบรรยายจาก กอ.รมน.จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และ เวลา ๑๑.๐๐ น. เดินทางต่อไปวัดพรานนก อำเภออุทัย เพื่อจัดพิธีถวายความเคารพหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์พระเจ้าตากสินมหาราช เวลา ๑๔.๐๐ น. เดินทางไปวัดบางเดื่อ อำเภอบางปะหัน เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์พระเจ้าตากสินมหาราช และได้เดินทางไปค่ายโพธิ์สามต้น อำเภอบางปะหัน ประกอบพิธีบูชาสักการะพระเจ้าตากสินมหาราช และรับฟังการบรรยายจากไกด์ชุมชน อย่างพร้อมเพรียงกัน

๕๔๘. สมาคมสตรีนครเชียงใหม่ องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ ขานรับนโยบาย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติฯ จัดโครงการพัฒนาศักยภาพสตรี “ หลักสูตรการเย็บเบาะรองนั่ง/ผ้ารองของร้อน” หนุน สตรี ๙๘ คน ขยายผล สร้างอาชีพ สร้างรายได้ เลี้ยงครอบครัว

วันเสาร์ที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๖๓ นางสาววรัญญา เลิศวรกิจพิพัฒน์ นายกสมาคมสตรีนครเชียงใหม่ องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ และกรรมการอำนวยการสภาสตรีแห่งชาติฯ สมัยที่ ๒๖ (พ.ศ.๒๕๖๑-พ.ศ.๒๕๖๔) เป็นประธานเปิดโครงการฝึกอบรมอาชีพสตรี ประจำปี ๒๕๖๓ หลักสูตรการเย็บเบาะรองนั่ง/ผ้ารองของร้อน โดยมีนายประสิทธิ์ บัวเดช ผู้อำนวยการกองสาธารณสุข และสิ่งแวดล้อมเทศบาลตำบลหนองหอย กล่าวต้อนรับและมีนางสาวนันทกา กัลยาณพันธ์ เลขาสมาคมสตรีนครเชียงใหม่ ประธานโครงการฝึกอบรมอาชีพสตรี ประจำปี ๒๕๖๓ กล่าววัตถุประสงค์ในการจัดโครงการฯ และได้รับเกียรติจาก นางลัดดา พรหมเมือง หัวหน้ากลุ่มงานส่งเสริมการพัฒนาชุมชนสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดเชียงใหม่ นางมธุรส วงษ์ต๊ะ นักวิชาการพัฒนาชุมชนชำนาญการอำเภอเมืองเชียงใหม่ เข้าร่วมพิธีเปิดโครงการฯ และมีนางสาวประทุม ไชยถา และนางเกศสุภีย์ พิธุพันธ์ พร้อมทีมสตรีตำบลหนองหอย เป็นวิทยากรในการฝึกอบรม มีผู้เข้ารับการอบรมจำนวน ๙๘ คน ประกอบด้วยสมาชิกสมาคมสตรีนครเชียงใหม่ ภาคีเครือข่ายสตรีจากอำเภอต่างๆ ในจังหวัดเชียงใหม่ และประชาชนทั่วไป ณ วิหารหลวงวัดสันป่าเลียง ตำบลหนองหอย อำเภอเมืองเชียงใหม่
นางสาววรัญญา เลิศวรกิจพิพัฒน์ กล่าวว่า สมาคมสตรีนครเชียงใหม่ องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ ดำเนินงานภารกิจภายใต้วัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของสภาสตรีแห่งชาติฯ โดยขานรับนโยบายของ ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ ในการเสริมสร้างยกระดับและพัฒนาศักยภาพของสตรี เพื่อให้สตรีไทยได้มีบทบาทเสริมสร้างความมั่นคงทางด้านเศรษฐกิจ และมีคุณภาพชีวิตที่ดี โดยมีอาชีพ มีรายได้ สร้างความเข้มแข็งให้กับครอบครัว สามารถพึ่งพาตนเองได้ ในขณะเดียวกัน ผู้เข้ารับการอบรมสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปขยายผลต่อ ในการผ่องถ่ายความรู้ที่ได้รับ ไปฝึกสอนสตรีในอำเภอของตนเองต่อไป


ในโอกาสนี้ นางสาววรัญญา เลิศวรกิจพิพัฒน์ นายกสมาคมสตรีนครเชียงใหม่ได้มอบวุฒิบัตรให้กับผู้เข้าร่วมโครงการอบรมอาชีพสตรี ประจำปี ๒๕๖๓ หลักสูตรการเย็บเบาะรองนั่ง/ผ้ารองของร้อน ให้กับผู้ร่วมโครงการฯ จำนวน ๙๘ คน อีกด้วย

ฝ่ายประชาสัมพันธ์คณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติฯ

๕๔๗. สมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัดแพร่ องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ เติมเต็มรอยยิ้มมอบทุนการศึกษา ๔๐ ทุน ให้นักเรียน เรียนดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ จำนวน ๒๘ โรงเรียน ในจังหวัดแพร่

เมื่อวันที่ ๑๘ กันยายน ๒๕๖๓ เวลา ๐๙.๓๐ น. ผศ.สายสมร วิทยศิริ นายกสมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัดแพร่ เป็นประธานพิธีสมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัดแพร่ มอบทุนการศึกษาปีการศึกษา ประจำปี ๒๕๖๓ ให้กับให้นักเรียนเรียนดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ จำนวน ๒๘ โรงเรียน จำนวน ๔๐ ทุน เป็นเงิน ๘๔,๐๐๐ บาท ในจังหวัดแพร่ โดยมีคณะกรรมการสมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัดแพร่ และสมาชิกสมาคมฯ เข้าร่วมในพิธีมอบทุนการศึกษาดังกล่าว ณ อาคารจรัสฉายไพฑูรย์ โรงเรียนนารีรัตน์ จังหวัดแพร่
ผศ.สายสมร วิทยศิริ กล่าวว่าสมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัดแพร่ องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ดำเนินงานภายใต้วัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของสภาสตรีแห่งชาติฯ มาอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นการพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตของสตรี และเยาวชน รวมถึงการส่งเสริมพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กนักเรียนที่เรียนดี เพื่อเป็นทุนการศึกษาต่อไป

ฝ่ายประชาสัมพันธ์ คณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติฯ

๕๔๖. สมาคมสตรีอาเซียนกาฬสินธุ์ องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ จัดกิจกรรมมอบทุนการศึกษาส่งเสริมพระพุทธศาสนา “โครงการทอดเทียนปัญญา มอบทุนการศึกษาสร้างศาสนทายาท ต่อลมหายใจพระพุทธศาสนา

วันพฤหัสบดีที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๖๓ เวลา ๐๗.๓๐ น. นางอุมารินทร์ เลิศสหพันธ์ นายกสมาคมสมาคมสตรีอาเซียนกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยกรรมการ และสมาชิกสมาคมฯ จัดกิจกรรมมอบทุนการศึกษาส่งเสริมพุทธศาสนา “โครงการทอดเทียนปัญญา มอบทุนการศึกษาสร้างศาสนทายาท ต่อลมหายใจพระพุทธศาสนา” ซึ่งกิจกรรมสำคัญดังกล่าว ได้กราบสักการะพระครูปัญญามัชฌิมานุกูล รองเจ้าคณะอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ เป็นประธานรับมอบทุนการศึกษาจากสมาคมสมาคมสตรีอาเซียนกาฬสินธุ์ เพื่อมอบ ให้กับผู้รับทุนการศึกษา ประกอบด้วย พระ สามเณร ๒๒ รูป และนักเรียน จำนวน ๑๐ คน เป็นเงิน ๓๒,๐๐๐ บาท (สามหมื่นสองพันบาทถ้วน) โดยมีผู้ร่วมงาน ทั้งพระภิกษุ สามเณร จำนวน ๕๐ รูป นักเรียน ครู และ พร้อมด้วยสมาชิกสมาคมสตรีอาเซียนกาฬสินธุ์ จำนวน ๑๕๐ คน ณ โรงเรียนพระปริยัติสามัญ วัดกลาง จ. กาฬสินธุ์
นางอุมารินทร์ เลิศสหพันธ์ กล่าวว่าสมาคมสตรีอาเซียนกาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นองค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ได้ขานรับนโยบายสภาสตรีแห่งชาติ ในเรื่องทะนุบำรุงพระศาสนา การมอบทุนการศึกษา “โครงการทอดเทียนปัญญา มอบทุนการศึกษาสร้างศาสนทายาท ต่อลมหายใจพระพุทธศาสนา” ให้กับพระ และสามเณร ถือเป็นบุคลากรที่มีส่วนสำคัญต่อการเผยแผ่พระพุทธศาสนา รวมทั้งเป็นกลไกที่ช่วยส่งเสริมสนับสนุนให้ประชาชนทุกกลุ่มวัยได้ศึกษาเรียนรู้หลักธรรม เพื่อกล่อมเกลาจิตใจให้เป็นคนดีมีศีลธรรม พระภิกษุ สามเณร จึงมีหน้าที่หลักคือ การศึกษาเล่าเรียนและสืบทอดพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า นำหลักธรรมที่ถูกต้องไปอบรมสั่งสอนเผยแผ่ให้เกิดศรัทธาแก่ประชาชน ซึ่งปัจจุบันจำนวนพระภิกษุ สามเณร ที่เป็นศาสนทายาทสืบทอดพระพุทธศาสนากำลังขาดแคลน ทั้งด้านเชิงปริมาณและคุณภาพ การบวชเพื่อศึกษาเล่าเรียนอุทิศชีวิตเพื่อสืบทอดพระศาสนา จึงลดน้อยถอยลงเป็นอย่างมาก ดังนั้นสมาคมสตรีอาเซียนกาฬสินธุ์ จึงได้จัดกิจกรรมมอบทุนการศึกษา ลดเหลื่อมล้ำทางการศึกษา เติมโอกาสให้ พระภิกษุ สามเณรได้ศึกษา เป็นผู้ดำรงตนตามกรอบศีลธรรมอันดีงามและเจริญก้าวหน้าสืบไป

ฝ่ายประชาสัมพันธ์ คณะกรรมการบริหาร สภาสตรีแห่งชาติฯ

๕๔๕. สมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัดอุดรธานี องค์กรสมาชิกสตรีแห่งชาติฯ จัดกิจกรรม สวมผ้าไทยใส่สีแสดประจำจังหวัด” เปิดบ้านนี้มีรัก” ต้อนรับสมาชิกที่เกษียณอายุราชการ เดินหน้าขานรับทุกกิจกรรมของสภาสตรีแห่งชาติฯ

วันที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๖๓ นางกอบแก้ว คงน้อย นายกสมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัดอุดรธานี จัดกิจกรรมต้อนรับสมาชิกที่เกษียณอายุราชการจาก โรงเรียนอนุบาลอุดรธานี เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจที่สมาชิกได้ปฏิบัติงานจนเกษียณอายุราชการ รวมถึงตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาได้เสียสละเวลาในวันหยุด ส่งเสริมร่วมปฎิบัติงาน กับสมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัดอุดรธานีมาโดยตลอด โดยมีคณะกรรมการ สมาชิกสมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัดอุดรธานี ที่เกษียณอายุราชการจำนวน ๑๒ คน และมีผู้เข้าร่วมงาน ”บ้านนี้มีรัก” จำนวน ๑๒๕ คน ณ ห้องลาวเจริญศรี โรงแรมเจริญโฮเต็ล จังหวัดอุดรธานี

นางกอบแก้ว คงน้อย กล่าวว่า สมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัดอุดรธานี องค์กรสมาชิกสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ได้จัดกิจกรรมเปิดบ้านนี้มีรักของสมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัดอุดรธานี ต้อนรับ กรรมการ และสมาชิกที่เกษียณอายุราชการ เพื่อเป็นการขอบคุณตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ได้ทุ่มเทเสียสละให้กับภารกิจของสมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัดอุดรธานี มาโดยตลอด และขอต้อนรับ ผู้ที่เกษียณอายุราชการ ซึ่งมีพลังเปี่ยมด้วยจิตอาสาพร้อมที่จะเข้ามาช่วยงานของสมาคมฯ ให้มีพลังเข้มแข็งเพิ่มมากยิ่งขึ้นต่อไป

การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ สมาคมฯเน้นความรักความสามัคคี สร้างความสุข และส่งเสริมการแต่งกายด้วยผ้าไทย สวมผ้าซิ่นไหมหรือฝ้ายกับเสื้อสีแสดซึ่งเป็นสีประจำจังหวัดและประดับด้วยผ้าขาวม้า ในรูปแบบสร้างสรรค์ บ่งบอกถึงความหมายสไตล์อีสาน เพิ่มความงดงามให้การแต่งกายมีสีสันสดสวยมากขึ้นอีกด้วย

นางกอบแก้ว กล่าวเพิ่มเติมว่า สมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัดอุดรธานี ซึ่งเป็นองค์กรสมาชิก ขานรับนโยบายสภาสตรีแห่งชาติฯ เทิดทูนสถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ สร้างสรรค์สามัคคี ส่งเสริมวัฒนธรรมประเพณี มุ่งมั่นทำความดี นำพาสตรีไทยก้าวไกลสู่สากล สร้างสรรค์สามัคคี ส่งเสริมวัฒนธรรมประเพณี มุ่งมั่นทำความดี นำพาสตรีไทยก้าวไกลสู่สากล นอกจากนี้ ได้ดำเนินการโครงการ “สืบสาน อนุรักษ์ศิลป์ ผ้าถิ่นไทยให้ดำรงไว้ในแผ่นดิน” จากการที่คณะรัฐมนตรี ได้มีมติเห็นชอบในวันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๖๓ ให้ถือว่ามาตรการส่งเสริมสนับสนุนการใช้และสวมใส่ผ้าไทย เป็นนโยบายของรัฐบาล ในการส่งเสริมให้ข้าราชการ ประชาชน แต่งกายด้วยผ้าไทย โดยสมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัดอุดรธานี และคณะกรรมการตลอดจนสมาชิก ได้ร่วมกัน สร้างการรับรู้รณรงค์การใช้และสวมใส่ผ้าไทยและผ้าพื้นเมืองประจำจังหวัด อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างค่านิยมและการตระหนัก รับรู้ รักษามรดก อัตลักษณ์ภูมิปัญญาของไทย และอนุรักษ์ต่อยอดภูมิปัญญาพัฒนาผ้าไทยเพื่อเป็นสินค้าเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ ทำให้เกษตรกร รวมถึงพี่น้องในจังหวัดอุดรธานี มีเงิน มีอาชีพหลัก มีอาชีพเสริมในการทอผ้าได้ ประสบความสำเร็จ ซึ่งทำให้ผู้ที่ทอผ้ามีกำลังใจ มีรายได้เลี้ยงดูครอบครัว และลูกหลาน เกิดจากการทอผ้าออกจำหน่ายจะสามารถช่วยสตรียกระดับคุณภาพชีวิต ส่งบุตรหลานให้มีโอกาสเล่าเรียน ดูแลครอบครัวได้เมื่อยามเจ็บป่วย สร้างครอบครัวให้เข้มแข็งต่อไป

ฝ่ายประชาสัมพันธ์ คณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติฯ

๕๔๔. ประมวลภาพสภาสตรีแห่งชาติฯ จัดประชุมใหญ่สามัญครั้งที่ ๔๑

สภาสตรีแห่งชาติฯ จัดประชุมใหญ่สามัญ ครั้งที่ ๔๑ ชูผลงาน ๕๔๒ กิจกรรม เทิดทูนสถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ สร้างสรรค์สามัคคี ส่งเสริมวัฒนธรรมประเพณี มุ่งมั่นทำความดี นำพาสตรีไทยก้าวไกลสู่สากล
๐๙ กันยายน ๒๕๖๓
วันพุธที่ ๙ กันยายน ๒๕๖๓ เวลา ๐๙.๓๐ น. ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ (สมัยที่ ๒๖ พ.ศ ๒๕๖๑ – ๒๕๖๔ ) เป็นประธานเปิดการประชุมใหญ่สามัญ ครั้งที่ ๔๑ ประจำปี ๒๕๖๓ โดยกำหนดให้ผู้เข้าร่วมประชุมทุกท่าน ร่วมร้องเพลงชาติ สวดมนต์ ร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ก่อนการเริ่มประชุม ซึ่งผู้เข้าร่วมประชุม ประกอบด้วย ที่ปรึกษาและอดีตประธานสภาสตรีแห่งชาติฯ พล.ต.หญิง คุณหญิงอัสนีย์ เสาวภาพ ดร.เรือนแก้ว กุยยกานนท์ แบรนด์ท นางยุวดี นิ่มสมบุญ นางเยาวเรศ ชินวัตร พร้อมด้วย นางรชตภร โตดิลกเวชช์ ประธานคณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติ สมัย ๒๖(สมัยที่ ๒๖ พ.ศ ๒๕๖๑ – ๒๕๖๔ ) และ รองประธานคณะกรรมการอำนวยการ คณะกรรมการอำนวยการ คณะกรรมการบริหาร และผู้แทนองค์กรสมาชิก จากภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ และภาคกรุงเทพมหานคร รวมทั้งหมดจำนวน ๑๘๐ คน เข้าร่วมประชุมพร้อมเพียง โดยมีวาระสำคัญการประชุม เพื่อรายงานผลการดำเนินงานในรอบปีที่ผ่านมา พิจารณารับรองงบการเงินและแต่งตั้งผู้ตรวจสอบบัญชี ณ แหล่งสมาคมนายทหาร กองพลทหารม้าที่ ๒ รักษาพระองค์ ถนนพหลโยธิน กรุงเทพฯ

๕๔๓. สภาสตรีแห่งชาติฯ จัดประชุมใหญ่สามัญ ครั้งที่ ๔๑ ชูผลงาน ๕๔๒ กิจกรรม เทิดทูนสถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ สร้างสรรค์สามัคคี ส่งเสริมวัฒนธรรมประเพณี มุ่งมั่นทำความดี นำพาสตรีไทยก้าวไกลสู่สากล

วันพุธที่ ๙ กันยายน ๒๕๖๓ เวลา ๐๙.๓๐ น. ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ (สมัยที่ ๒๖ พ.ศ ๒๕๖๑ – ๒๕๖๔ ) เป็นประธานเปิดการประชุมใหญ่สามัญ ครั้งที่ ๔๑ ประจำปี ๒๕๖๓ โดยกำหนดให้ผู้เข้าร่วมประชุมทุกท่าน ร่วมร้องเพลงชาติ สวดมนต์ ร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ก่อนการเริ่มประชุม ซึ่งผู้เข้าร่วมประชุม ประกอบด้วย ที่ปรึกษาและอดีตประธานสภาสตรีแห่งชาติฯ พล.ต.หญิง คุณหญิงอัสนีย์ เสาวภาพ ดร.เรือนแก้ว กุยยกานนท์ แบรนด์ท นางยุวดี นิ่มสมบุญ นางเยาวเรศ ชินวัตร พร้อมด้วย นางรชตภร โตดิลกเวชช์ ประธานคณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติ สมัย ๒๖(สมัยที่ ๒๖ พ.ศ ๒๕๖๑ – ๒๕๖๔ ) และ รองประธานคณะกรรมการอำนวยการ คณะกรรมการอำนวยการ คณะกรรมการบริหาร และผู้แทนองค์กรสมาชิก จากภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ และภาคกรุงเทพมหานคร รวมทั้งหมดจำนวน ๑๘๐ คน เข้าร่วมประชุมพร้อมเพียง โดยมีวาระสำคัญการประชุม เพื่อรายงานผลการดำเนินงานในรอบปีที่ผ่านมา พิจารณารับรองงบการเงินและแต่งตั้งผู้ตรวจสอบบัญชี ณ แหล่งสมาคมนายทหาร กองพลทหารม้าที่ ๒ รักษาพระองค์ ถนนพหลโยธิน กรุงเทพฯ

ดร.วันดี แถลงผลการดำเนินงานในรอบปีที่ผ่านมา ตั้งแต่วันที่ ๑๙ มิถุนายน ๒๕๖๑ จนถึง วันที่ ๙ กันยายน ๒๕๖๓ จำนวน ๕๔๒ กิจกรรม ส่งเสริมกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ เทิดทูนสถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ สร้างสรรค์สามัคคี ส่งเสริมวัฒนธรรมประเพณี มุ่งมั่นทำความดี นำพาสตรีไทยก้าวไกลสู่สากล
ในโอกาสสำคัญนี้ ประธานสภาสตรีแห่งชาติฯ กล่าวขอขอบคุณที่ปรึกษา อดีตประธานสภาสตรีแห่งชาติฯ และคณะกรรมการอำนวยการ คณะกรรมการบริหาร องค์กรสมาชิกทั่วประเทศ ที่ให้ความร่วมมือในทุกกิจกรรมในการทำประโยชน์เพื่อส่วนรวม และการที่ได้ร่วมมาประชุมใหญ่สามัญ ครั้งที่ ๔๑อย่างพร้อมเพียงในวันนี้ แสดงให้เห็นถึงพลังอันเข้มแข็งของสตรี ในการร่วมกันขับเคลื่อนส่งเสริมผลักดันพัฒนาศักยภาพของสตรีในทุกมิติ อันจะเป็นประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติโดยรวม โดยนโยบายของสภาสตรีแห่งชาติคือ การสืบสานพระราชปณิธานของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี

สำหรับผลการดำเนินการทำงานในรอบปีที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือจากคณะกรรมการอำนวยการ คณะกรรมการบริหาร และองค์กรสมาชิกเป็นอย่างดี มีผลงานที่เกิดประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ จำนวน ๕๔๒ กิจกรรม แต่ละกิจกรรมทำให้องค์กรสมาชิก และกลุ่มสตรีโดยเฉพาะตามภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น พอสรุปได้ ดังนี้

เมื่อวันที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๓ ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ นำคณะกรรมการ และ องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ จำนวน ๘๙ องค์กร จากทุกภาคทั่วประเทศ ถวายแจกันดอกไม้สดเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ เพื่อแสดงถึงความจงรักภักดี และน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านที่มีต่อองค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯและสตรีไทย เป็นล้นพ้นหาที่สุดมิได้ และร่วมลงนามถวายพระพร ขอให้พระองค์ท่านมีพระพลานามัยสมบูรณ์ มีพระชนมายุยิ่งยืนนาน สถิตเป็นมิ่งขวัญของปวงข้าพระพุทธเจ้าและปวงชนชาวไทยตลอดไป เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ๘๘ พรรษา (๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๓ ) ณ ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง

โครงการ “สืบสาน อนุรักษ์ศิลป์ผ้าถิ่นไทย ดำรงไว้ ในแผ่นดิน"

สภาสตรีแห่งชาติฯ ร่วมกับกรมการพัฒนาชุมชน จัดทำ โครงการ “สืบสาน อนุรักษ์ศิลป์ผ้าถิ่นไทย ดำรงไว้ ในแผ่นดิน" โดยคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๖๓ เห็นชอบมาตรการส่งเสริมและสนับสนุนการใช้และสวมใส่ผ้าไทย ตามที่กระทรวงมหาดไทย โดยกรมการพัฒนาชุมชน และสภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ นำเสนอ โดยเชิญชวนคนไทยให้สวมใส่ผ้าไทยอย่างน้อยสัปดาห์ละ ๒ วัน เพื่ออนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมที่สะท้อนให้เห็นบริบททางสังคมและวัฒนธรรมของแต่ละพื้นที่ ตลอดจนส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก สร้างรายได้กระจายสู่ชุมชนอย่างรวดเร็วและทั่วถึง โดยสภาสสตรีแห่งชาติและองค์กรสมาชิกทั่วประเทศ ร่วมกันการรณรงค์ให้คนไทยทั้งประเทศ ร่วมมือร่วมใจกันใส่ผ้าทอไทย ไม่ว่าจะเป็น ผ้าไหม ผ้าฝ้าย ผ้าพื้นเมือง เพื่อช่วยกันสร้างความเข้มแข็งแก่เศรษฐกิจฐานราก ลดความเหลื่อมล้ำกระจายรายได้ให้แก่ชุมชน รักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม และรักษาภูมิปัญญาท้องถิ่น ทั้งนี้ การใส่ผ้าทอไทยทุกผืน ก่อให้เกิดรายได้กระจายไปยังชุมชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มสตรีกว่า ๙๐% รายได้ที่เกิดจากการทอผ้าออกจำหน่ายจะสามารถช่วยสตรียกระดับคุณภาพชีวิต ส่งบุตรหลานให้มีโอกาสเล่าเรียน ดูแลครอบครัวได้เมื่อยามเจ็บป่วย สร้างครอบครัวให้เข้มแข็ง
“หากคนไทยพร้อมใจกันสวมใส่ผ้าไทยในทุกวันทั้งประเทศ จะช่วยเป็นการส่งเสริมการทอผ้าในชุมชน สร้างงาน สร้างอาชีพ ลดปัญหาการว่างงาน ลดปัญหาการว่างงาน ลดปัญหา การย้ายถิ่นฐาน และลดความเหลื่อมล้ำในสังคมได้ ถ้าคนไทยร่วมมือร่วมใจกันใส่ผ้าไทย อย่างน้อย คนละ ๑๐ เมตร หากสตรี ๓๕ ล้านคน ใส่ผ้าไทยคนละ ๑๐ เมตร รวม ๓๕๐ ล้านเมตร เมตรละ ๓๐๐ บาท เราจะช่วยให้เกิดเงินหมุนเวียนทันที ๑ แสนล้านบาท สร้างเศรษฐกิจฐานรากเข้มแข็ง ก่อเกิดรายได้”

โครงการ “รวมพลังสตรีอาสาพัฒนา ปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ”

สภาสตรีแห่งชาติฯ ร่วมกับกรมการพัฒนาชุมชน จัดทำโครงการ “รวมพลังสตรีอาสาพัฒนา ปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ” เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ ๑- ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๓ เป็นการร่วมแสดงพลังสตรีอาสาพัฒนาทุกระดับในการขับเคลื่อนโครงการฯ ในพื้นที่ต่างๆ จำนวน ๒๒ แห่งทั่วประเทศ

โครงการ “เติมความสุข บรรเทาความทุกข์ ด้วยการแบ่งปัน"

สภาสตรีแห่งชาติฯ ร่วมกับกรมการพัฒนาชุมชน จัดทำโครงการ “เติมความสุข บรรเทาความทุกข์ ด้วยการแบ่งปัน" ถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบปัญหาของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-๑๙ แจกจ่ายถุงยังชีพ ๕,๐๐๐ ชุด ทั่วประเทศ ในพื้นที่ต่างๆ เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนและเติมกำลังใจให้พี่น้องประชาชนในยามวิกฤติ

“ศิลปาชีพประทีปไทย OTOP ก้าวไกลด้วยพระบารมี ๒๕๖๓”

สภาสตรีแห่งชาติฯ ได้รับเกียรติ ร่วม งาน “ศิลปาชีพประทีปไทย OTOP ก้าวไกลด้วยพระบารมี ๒๕๖๓” จัดโดย กรมการพัฒนาชุมชน จัดระหว่างวันที่ ๘ – ๑๖ สิงหาคม ๒๕๖๓ ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยสภาสตรีแห่งชาติฯ สนับสนุนองค์กรสมาชิกของสภาสตรีแห่งชาติฯ ร่วมออกร้านจำหน่ายสินค้า ผลิตภัณฑ์จากชุมชน โดยรณรงค์ให้ประชาชนใช้และสวมใส่ผ้าไทย ให้รักษาภูมิปัญญาท้องถิ่นและถ่ายทอดภูมิปัญญาท้องถิ่นนี้ให้คงอยู่ต่อไปเพราะการทอผ้าสามารถสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับสตรีได้ " จากเส้นด้ายสู่การทอเรียงร้อยลวดลายสู่ผืนผ้าเอกลักษณ์ไทย กระจายรายได้สู่คุณภาพชีวิตที่ดีของสตรี " สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นน้ำพระทัยของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

โครงการ “กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี สร้างพลังสตรี สร้างรายได้ให้กลุ่มอาชีพ กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก”

สภาสตรีแห่งชาติฯ ร่วม กับกรมการพัฒนาขุมชน พัฒนาศักยภาพลูกหนี้กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี” ในการอบรมโครงการ “กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี สร้างพลังสตรี สร้างรายได้ให้กลุ่มอาชีพ กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก”ขับเคลื่อนงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีในช่วงปลายปี ๒๕๖๒ ที่ผ่านมา ผลการบริหารจัดการหนี้ของทั้ง ๗๖ จังหวัด และกรุงเทพมหานครที่มีร้อยละของการบริหารจัดการหนี้ต่ำกว่าร้อยละ ๑๐ มีจำนวน ๑๐ จังหวัด ซึ่งในช่วงเวลากว่า ๗ เดือน ผลการบริหารจัดการหนี้ของทั้ง จังหวัด และกรุงเทพมหานคร ที่มีร้อยละของการบริหารจัดการหนี้ต่ำกว่าร้อยละ มีจำนวน ๔๖ จังหวัด เพิ่มขึ้นจากปลายปีที่ผ่านมาถึง ๒๖ จังหวัด ทำให้เห็นถึงความตั้งใจ มุ่งมั่น ความรับผิดชอบและตระหนักในความสำคัญของกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีที่ให้โอกาสสตรีทั่วประเทศได้ใช้แหล่งทุนนี้นำไปสร้างอาชีพ สร้างรายได้ ยกระดับคุณภาพชีวิตรายครัวเรือน รวมทั้ง การส่งเสริม สนับสนุน ให้กลุ่มอาชีพสมาชิกกองทุนฯ ที่กู้ยืมเงินไปประกอบอาชีพ โดยเฉพาะกลุ่มอาชีพสมาชิกกองทุนฯ ที่ประกอบอาชีพทอผ้า



ฝ่ายประชาสัมพันธ์คณะกรรมการบริหารสภาตรีแห่งชาติฯ