๖๔๒. สภาสตรีแห่งชาติฯ ร่วมกับ กรมการพัฒนาชุมชน มอบทุนการศึกษาแก่เด็กและเยาวชน รวมเป็นเงิน ๕๐๐,๐๐๐ บาท ในกิจกรรมกองทุนพัฒนาเด็กชนบทเคลื่อนที่ และกิจกรรมแบ่งปันความสุข บรรเทาความทุกข์ด้วยการช่วยเหลือและแบ่งปัน ณ จังหวัดตราด
วันจันทร์ที่ ๑ มีนาคม ๒๕๖๔ เวลา ๑๐.๐๐ น. นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย (พช.) พร้อมด้วย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ และประธานชมรมแม่บ้านพัฒนาชุมชน เป็นประธานเปิดกิจกรรมกองทุนพัฒนาเด็กชนบทเคลื่อนที่ (Children Development Fund Mobile : CDF Mobile) และกิจกรรมแบ่งปันความสุข บรรเทาความทุกข์ด้วยการช่วยเหลือและแบ่งปัน พร้อมมอบทุนอุปการะเด็ก พร้อมของใช้จำเป็นสำหรับเด็ก จำนวน ๑๐๐ ทุน ๆ ละ ๑,๕๐๐ บาท เป็นเงิน ๑๕๐,๐๐๐ บาท (หนึ่งแสนห้าหมื่นบาทถ้วน) และของใช้จำเป็นสำหรับเด็ก จำนวน ๑๐๐ ชุด ๆ ละ ๑,๐๐๐ บาท เป็นเงิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท (หนึ่งแสนบาทถ้วน) รวมเป็นเงิน ๒๕๐,๐๐๐ บาท (สองแสนห้าหมื่นบาทถ้วน) และมอบทุนการศึกษาเด็กเรียนดีที่ครอบครัวยากจนและด้อยโอกาส ระดับประถมศึกษา และมัธยมศึกษา ที่มาจากครอบครัวยากจนและด้อยโอกาส สภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ ได้มอบทุนการศึกษา ในโครงการแบ่งปันความสุข บรรเทาความทุกข์ ด้วยการช่วยเหลือและแบ่งบัน รวม ๑๐๐ ทุน โดยแบ่งเป็นทุนการศึกษาระดับประถมศึกษา จำนวน ๕๐ ทุน ๆ ละ ๒,๐๐๐ บาท และระดับมัธยมศึกษาจำนวน ๕๐ ทุน ๆ ละ ๓,๐๐๐ บาท รวมเป็นเงิน ๒๕๐,๐๐๐ บาท (สองแสนห้าหมื่นบาทถ้วน) ในการนี้ นายภิญโญ ประกอบผล ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด นายสุรศักดิ์ อักษรกุล รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายกัฬชัย เทพวรชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดตราด นาวาเอกปฏิรูป อยู่พรหม ผู้บังคับการฐานส่งกำลังบำรุงทหารเรือตราด ทัพเรือภาคที่ ๑ นายวิเชียร ทรัพย์เจริญ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดตราด นายฉันท์ แป้นเพชร นายอำเภอแหลมงอบ นางสาวเบญจมาศ วงษ์สุวรรณ ผู้ตรวจราชการกรมการพัฒนาชุมชน คณะผู้บริหารกรมการพัฒนาชุมชน หัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่จังหวัดตราด คณะข้าราชการ เจ้าหน้าที่กรมการพัฒนาชุมชน และภาคีเครือข่ายในพื้นที่จังหวัดตราด ร่วมในพิธีมอบทุน โดยมีนางสาวนิภา ทองก้อน ผู้อำนวยการสำนักเสริมสร้างความเข้มแข็งชุมชน กล่าวรายงานถึงวัตถุประสงค์การจัดกิจกรรมฯ โอกาสนี้ กรมการพัฒนาชุมชน ร่วมกับ เครือข่ายผู้ประกอบการ OTOP ชวนชิม และ ผู้ประกอบการ OTOP จังหวัดตราด คณะกรรมการพัฒนาชุมชนจังหวัดตราด ร่วมนำอาหารกลางวันมาเลี้ยงเด็ก ผู้ปกครอง และผู้มาร่วม จำนวน ๒๓ ร้านค้า ณ กองบังคับการฐานส่งกำลังบำรุงทหารเรือตราด ทัพเรือภาคที่ ๑ หมู่ที่ ๖ ตำบลคลองใหญ่ อำเภอแหลมงอบ จังหวัดตราด
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่า “สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงห่วงใยลูกหลานชาวไทยอยู่ตลอดเวลา พระองค์ทรงเล็งเห็นถึงปัญหาของพี่น้องคนไทย โดยเฉพาะปัญหาความขาดแคลนของเด็กในชนบทห่างไกล ด้อยโอกาส ให้ได้รับการพัฒนาอย่างทั่วถึงและเหมาะสม กองทุนพัฒนาเด็กชนบทในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ในกิจกรรมกองทุนเด็กพัฒนาชนบทเคลื่อนที่ ในวันนี้ คือการนำเอาความห่วงใย ความยินดี ในการนำเอาสิ่งที่ดี มาสู่เด็กๆ เป็นทุนการศึกษาพร้อมด้วยอุปกรณ์การเรียนการศึกษา นำเงินกองทุนฯ ไปใช้ในการทำกิจกรรมพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กก่อนวัยเรียน อายุแรกเกิดถึง 6 ปี โดยได้มอบทุนช่วยเหลือเด็กเล็กที่ยากจนและด้อยโอกาสในชนบท ทรงมีพระราชประสงค์ มุ่งพัฒนาศักยภาพเด็กและเยาวชนอย่างสมดุลรอบด้าน เพื่อให้เด็กและเยาวชนมีภาวะโภชนาการและสุขภาพดี มีความรู้ทางวิชาการ การงานอาชีพ เป็นพลเมืองที่มีคุณภาพ แต่ต้องรู้จักเรียนรู้ต้องมีร่างกายที่แข็งแรงทักษะทางมือช่วยเหลือตัวเองได้ เช่น ในโรงเรียนถิ่นทุรกันดาน ตำรวจตระเวนชายแดน ส่งเสริมให้เด็กๆ รู้จักเพาะปลูกพืชผักสวนครัว มีความมั่นคงด้านอาหาร ส่งเสริม สร้างเสริมให้เด็กเรียนรู้การปลูกพืชปลูกผักสวนครัวในโรงเรียน เด็กมีความสำคัญต่อประเทศชาติอย่างมาก เด็กในวันนี้คืออนาคตในวันหน้า ตามโครงสร้างทางสังคมที่ประเทศไทย ที่จะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ในวันนี้ขอฝากแง่คิดเรื่องของการศึกษาว่า คุณครู ผู้ปกครอง ต้องส่งเสริมให้ลูกหลานได้พัฒนา ทั้ง 5 ด้าน ได้แก่ ด้านร่างกาย ต้องทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ มีความมั่นคงทางอาหาร มีสุขภาพอนามัยที่ดี มีการออกกำลังกาย ด้านจิตใจ พัฒนาให้เด็กมีความสุข ด้านอารมณ์ ให้เด็กมีภาวะทางอารมณ์ที่ดี อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี อยู่ในธรรมชาติ อยู่อาศัยบ้านเรือนสะอาด สร้างโอกาสให้ได้เรียนรู้อยู่กับทะเล ต้นไม้ แปลงผัก ด้านสติปัญญา ได้รู้จักใช้จินตนาการ จากอ่านหนังสือนิทาน ให้ศึกษาหาความรู้ที่แท้จริงนั้น ไม่ใช่เพียงหาได้ในห้องเรียนหรือตำรา แต่ทุกสิ่งรอบตัวนั้นสามารถเสริมสร้างเด็กได้เป็นอย่างดี ตัวอย่างเช่น การปลูกพืชผักสวนครัว และด้านสังคม ให้เด็กต้องรู้ระเบียบ วินัย รู้จักปฏิบัติตน
ฝากพ่อแม่พี่น้อง ให้ตระหนัก กองทุนการศึกษาต่างๆ เกิดขึ้นเพราะมหากรุณาธิคุณ ทรงห่วงใยลูกๆหลานๆทั่วประเทศ อยากให้ลูกหลานได้มีการศึกษาที่ดี พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงให้ความสำคัญกับการศึกษาทรงตั้งกองทุนเพื่อการศึกษาไว้ทั่วประเทศ ตั้งแต่ประถมจนจบปริญญา และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระราชทาน จัดตั้งมูลนิธิ มูลนิธิร่วมจิตต์น้อมเกล้าฯ เพื่อเยาวชน พี่น้องประชาชนทุกคนที่เห็นความสำคัญ ของการให้การศึกษา และการอบรมคุณธรรมแก่เยาวชน แม้วันนี้ทุนจะมาชั่วครั้งชั่วคราว จะมีช่องทางในการเรียนได้สูงๆ ได้มีโอกาสที่ดีของชีวิต ทุกคนโชคดี ที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ ทรงดูทุกมิติ ด้านการศึกษา การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ทุกคน
ด้าน ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติฯ กล่าวว่า “สภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ มีสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เป็นองค์อุปนายิกา ก่อตั้ง ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๙๙ มีองค์กร สมาชิกทั่วประเทศกว่า ๒๐๐ องค์กร สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงพระราชทานหน้าที่ของสตรีว่า แม่บ้านที่ดี ดูแลบ้านเรือน เป็นแม่ที่ดีของลูก รักษาวัฒนธรรมของแผ่นดิน แต่งกายด้วยผ้าไทยอันเป็นลมหายใจของวัฒนธรรมไทย สร้างรายได้ให้กับชุมชน และการพัฒนาตนเองให้ทันสมัยอยู่เสมอ สำหรับทุนการศึกษาโครงการแบ่งปันความสุข บรรเทาความทุกข์ ด้วยการช่วยเหลือและแบ่งบัน รวม ๑๐๐ ทุน อันเป็นทุนเพื่อขยายโอกาสทางการศึกษาแก่เด็กและเยาวชนในระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา ที่มาจากครอบครัวยากจนและด้อยโอกาส การศึกษาเป็นรากฐานสำคัญของชีวิตมนุษย์ทุกคน ทุนปัญญาถือว่าเป็นทุนอันดับแรกใจนชีวิต เป็นการติดอาวุธ ติดมือติดปัญญาของลูกหลานของเรา ประเทศชาติจะเจริญได้ก็ด้วยความรู้ ด้วยปัญญาของลูกหลาน สิ่งที่ได้มอบให้ในวันนี้ เป็นกำลังใจให้กับเด็กๆ และผู้ปกครอง ในการส่งเสียลูกหลานของเรา การศึกษา มีความรู้ มีอาชีพ เพื่ออนาคตของลูกหลาน กำลังสำคัญสร้างชาติในวันข้างหน้าต่อไป นอกจากนี้ ยังมีทุนสามารถขอทุนไปที่มูลนิธิร่วมจิตน้อมเกล้า ผู้ปกครอง คุณครู สามารถขอทุนการศึกษา เพื่อลูกหลานประชาชนได้ โดยผ่านผู้ว่าราชการาจังหวัด ได้ทุกจังหวัด
ด้าน นายภิญโญ ประกอบผล ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด กล่าวว่า จังหวัดตราดรู้สึกขอบคุณและเป็นเกียรติอย่างสูง ที่ได้มามอบทุนการศึกษา และเยี่ยมจังหวัดตราด ในวันนี้ จังหวัดตราด มีพื้นที่ประมาณ ๑๐,๐๗๖ ตารางกิโลเมตร เป็นจังหวัดชายแดนทางภาคตะวันออกของประเทศไทยติดกับประเทศกัมพูชาโดยมีเขาบรรทัดเป็นพรมแดนธรรมชาติ แบ่งการปกครองออกเป็น ๗ อำเภอ อำเภอเมือง อำเภอเขาสมิง อำเภอแหลมงอบ อำเภอคลองใหญ่ อำเภอบ่อไร่ อำเภอเกาะกูด และอำเภอเกาะช้าง ในโอกาสที่ท่านได้เดินทางมาเยี่ยมเยือนจังหวัดตราด รวมทั้งจัดกิจกรรมกองทุนพัฒนาเด็กชนบทเคลื่อนที่ (Children Development Fund Mobile : CDF Mobile) ในครั้งนี้ รู้สึกขอขอบคุณท่านเป็นอย่างสูงที่ให้การสนับสนุนทุนให้แก่เด็กในพื้นที่จังหวัดตราด แบ่งปันความสุข บรรเทาความสุข อันเป็นการสร้างกำลังใจแก่เด็กในจังหวัดตราด
“กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ขอเชิญร่วมบริจาคสมทบทุนพัฒนาเด็กชนบทในพระบรมราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สามารถติดต่อได้ ณ กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย อาคารรัฐประศาสนภักดี ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๕๐ และส่วนภูมิภาค สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอ และสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัด ทั่วประเทศ หรือตั๋วแลกเงิน เช็ค หรือโอนเงินเข้าบัญชี ธนาคารกรุงไทย สาขาศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ เลขที่บัญชี ๙๕๕-๐-๐๒๘๕๖๙ โดยเงินบริจาคช่วยเหลือเด็กท่านสามารถนำใบเสร็จรับ
เงินไปลดหย่อนภาษีได้” อธิบดี พช. กล่าวทิ้งท้าย
ขอบคุณที่มา : กองประชาสัมพันธ์ กรมการพัฒนาชุมชน
เรียบเรียงข่าว : ฝ่ายประชาสัมพันธ์ คณะบริหารสภาสตรีแห่งชาติฯ

๖๔๑. สมาคมกองทุนสวัสดิการเพื่อสตรี จ.พระนครศรีอยุธยา องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ นำคณะกรรมการ และสมาชิก ร่วมปฎิบัติธรรม กับ กรมยุทธศึกษาทหารบก เนื่องในโอกาสวันมาฆบูชา ประจำปี ๒๕๖๔
วันที่ ๒๓ – ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔ นางพรทิพย์ ตั้งกีรติ นายกสมาคมกองทุนสวัสดิการเพื่อสตรี จ.พระนครศรีอยุธยา องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ นำคณะกรรมการ และสมาชิก ร่วมปฎิบัติธรรม กับ กรมยุทธศึกษาทหารบก เนื่องในโอกาสวันมาฆบูชา ประจำปี ๒๕๖๔ โดยมีคณะผู้บังคับบัญชากรมยุทธศึกษาทหารบก สมาคมแม่บ้านทหารบก สาขา กรมยุทธศึกษาทหารบก กำลังพลและครอบครัว ร่วมปฏิบัติธรรม โดยสมาคมกองทุนสวัสดิการเพื่อสตรี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ขออนุโมทนายอดเงินทำบุญ ๑๐๒,๙๕๕ บาท จากสตรีผู้มีจิตศัทธาทุกท่าน และกองทุนสวัสดิการเพื่อสตรี จ.พระนครศรีอยุธยา รับเป็นเจ้าภาพสร้างห้องสุขาให้พุทธธรรมสิกขาสถาน จำนวนเงิน ๓๐๐,๐๐๐ บาท และในโอกาสสำคัญนี้ พล.ท. วิสันติ สระศรีดา เจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ได้มอบเกียรติบัตรให้กับผู้ร่วมปฎิบัติธรรม เนื่องในวันมาฆบูชา ประจำปี ๒๕๖๔ ณ ศาลามหาสติปัฏฐาน อุทยานพุทธธรรมสิกขา กรมยุทธศึกษาทหารบก
รายงานภาพข่าว : สมาคมกองทุนสวัสดิการเพื่อสตรี จ.พระนครศรีอยุธยา
เรียบเรียงข่าว : ฝ่ายประชาสัมพันธ์ คณะกรรมการบริหาร สภาสตรีแห่งชาติฯ

๖๔๐. สามองค์กรหลัก สมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ ในจังหวัดอุดรธานี จัดเลี้ยงอาหารกลางวัน และจับมือสร้างร้านกาแฟ ปัญญาคาเฟ่ เป็นสถานที่ฝึกฝนอาชีพ สร้างโอกาสพัฒนาคุณภาพชีวิต ให้เยาวชนในจังหวัดอุดรธานีและจังหวัดใกล้เคียง
วันที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔ เวลา ๑๑.๐๐ น. นางกอบแก้ว คงน้อย นายกสมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัดอุดรธานี รศ.ดร.กฤตติกา แสนโภชน์ นายกสมาคมแม่ดีเด่นแห่งชาติจังหวัดอุดรธานี และ พญ.เฉลิมวรรณ ศศิประภา นายกสมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทย อุดรธานี ร่วมกันจัดเลี้ยงอาหารกลางวัน ให้เยาวชน ณ ศูนย์สงเคราะห์บุคคลปัญญาอ่อนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดอุดรธานี
และในโอกาสนี้ สามองค์กรหลัก สมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ ในจังหวัดอุดรธานี ประกอบด้วยสมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัดอุดรธานี สมาคมแม่ดีเด่นแห่งชาติจังหวัดอุดรธานี และสมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทย อุดรธานี ได้ร่วมกันสมทบสร้างร้านกาแฟร้านปัญญาคาเฟ่ เพื่อเป็นสถานที่ฝึกอาชีพให้กับเด็กๆที่ศูนย์ฯให้กับศูนย์สงเคราะห์บุคคลปัญญาอ่อนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดอุดรธานี เป็นจำนวนเงิน ๕๗,๐๐๐ บาท และ คุณพรวิไล แสนประเสริฐ ที่ปรึกษาสมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัดอุดรธานี ร่วมสนับสนุน เพิ่มอีก เป็นจำนวน ๕๐,๐๐๐ บาท รวมเงินสมทบสร้างร้านกาแฟ เป็นเงินทั้งสิ้น ๑๐๗,๐๐๐ บาท โดยมี นายกฤษณา ธีระวุฒิ ศูนย์สงเคราะห์บุคคลปัญญาอ่อนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดอุดรธานี เป็นผู้รับมอบ ณ ศูนย์สงเคราะห์บุคคลปัญญาอ่อนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดอุดรธานี
รายงานภาพข่าว :สมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัดอุดรธานีองค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ
เรียบเรียงข่าว: ฝ่ายประชาสัมพันธ์ คณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติฯ

๖๓๙. สภาสตรีแห่งชาติฯ ร่วมกับ กรมกรมการพัฒนาชุมชน สนองพระปณิธาน สมเด็จเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ จากผ้าพระราชทาน “ลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ” จัดประกวดผ้าลายพระราชทาน สืบสาน อนุรักษ์ ปลุกกระแสผ้าไทยให้ทันสมัยสู่สากล พร้อมดึงรายได้เข้าสู่ชุมชนเศรษฐกิจฐานราก
สภาสตรีแห่งชาติฯ ร่วมกับ กรมกรมการพัฒนาชุมชน สนองพระดำริ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ เชิญชวนคนไทยทั่วประเทศร่วมประกวดผ้าลายพระราชทานลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ
วันศุกร์ ๑๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔ ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ได้รับเกียรติ เข้าร่วมการแถลงข่าวการประกวดผ้าลายพระราชทานลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ โดยมี นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน พร้อมด้วย นายอัครชญ แก้วอาภรณ์ ผู้แทนที่ปรึกษาคณะกรรมการประกวดผ้าลายพระราชทาน ร่วมในการแถลงข่าวการประกวดผ้าลายพระราชทานลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ นอกจากนี้ยังมีบุคลสำคัญ ประกอบด้วย นายชาย นครชัย อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม นายกุลวิทย์ เลาสุขศรี บรรณาธิการบริหารนิตยสารโว้ก นายนิวัติ น้อยผาง รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายสุรศักดิ์ อักษรกุล รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน รวมถึงแขกผู้มีเกียรติ และสื่อมวลชน เข้าร่วมงานแถลงข่าว ณ สุราลัยฮอลล์ ชั้น ๗ ศูนย์การค้าไอคอนสยาม
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่า นับเป็นโชคดีของพวกเราคนไทย ที่มีเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน มีพระเมตตาจากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สืบสานมายังสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงมีพระเมตตาต่อพวกเราอย่างยิ่ง ในการที่จะช่วยสนับสนุนส่งเสริมสิ่งที่สำคัญที่สุดของความเป็นไทย เรื่องหนึ่งคือ เรื่องของวัฒนธรรมการแต่งกาย สนับสนุน ส่งเสริม รื้อฟื้น ชีวิตผ้าไทย มาตั้งแต่พระพันปีหลวง จนนับเนื่องมาถึงปัจจุบัน สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ท่านก็ทรงมีพระดำรัสที่สำคัญ เมื่อวันที่ ๑ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๖๒ วันสตรีไทยแห่งชาติ ว่าจะทรงสืบสาน รักษา ต่อยอด พระราชปณิธานของพระองค์ท่าน สิ่งที่เป็นรูปธรรมชัดเจนคือการฉลองชุดพระองค์ด้วยผ้าไทย สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เป็นหัวใจในการขับเคลื่อนให้ผ้าไทยที่สมเด็จย่าของพระองค์ท่าน ทรงชุบชีวิตขึ้นมา ให้มีอายุที่ยืนยาวชั่วกับชั่วกันคู่กับแผ่นดินไทย พระองค์ทรงมีพระอัจฉริยภาพเรื่องของผ้ามาก ไม่ใช่เพียงแต่เรื่องผ้าไทย พระองค์ทรงพระราชทานหนังสือ THAI TEXTILES TREND BOOK S/S 2022 ให้กระทรวงวัฒนธรรมช่วยพิมพ์ ช่วยเผยแพร่ในหนังสือ จะเห็นได้ชัดว่าทรงเป็นนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่เป็นเลิศ รวมถึงการเสด็จพระราชดำเนินไปทรงงาน ๓ ภาค ของประเทศไทย ภาคใต้ จังหวัดนครศรีธรรมราชภาคเหนือ จังหวัดลำพูน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดสกลนคร โดยพี่น้องประชาชนได้นำผ้ามาจัดแสดง พระองค์ท่านทรงมีพระดำริในการให้คำแนะนำในเรื่องผ้า สะท้อนให้เห็นว่าพระองค์ท่านทรงอุทิศทุ่มเท ความเพียรพยายาม แนะนำติดตามงาน และที่สำคัญคือ ผ้าเป็นสิ่งที่ล่อเลี้ยงชีวิตของพี่น้องประชาชน สร้างอาชีพ สร้างรายได้แก่ครัวเรือน เสริมสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้ยั่งยืน โดยพระองค์ท่านมองเห็นถึงจุดอ่อนของวงการผ้าไทย คือ แบบผ้าเก่า ไม่มีความโดดเด่นตามยุคตามสมัย พระองค์ทรงมีพระอัจฉริยะภาพช่วยฝ่าทางตันออกไปได้ ตามพระดำริ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” ทรงได้แนะนำการประยุกต์พัฒนาลวดลายให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น จะเห็นได้ชัดว่าวงการทอผ้าไทย มีความคึกคักเป็นอย่างมาก ทำให้เกิดการตื่นตัวกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก ต่อลมหายใจของผ้าไทยที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถพระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระองค์ท่านชุบชีวิตมาด้วยยาวิเศษ คือความเพียรพยามความวิริยะอุตสาหะ ความรัก ความเมตตาต่อพสกนิกรชาวไทย จะมีลมหายใจที่แข็งแรงและยาวนานไปสู่รุ่นต่อรุ่น คู่กับผืนแผ่นดินไทยสืบไป
ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ กล่าวว่า สภาสตรีแห่งชาติฯ ก่อตั้งเมื่อปี ๒๔๙๙ เป็นต้นมา กระทั่งถึง วันที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๐๔ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงรับสภาสตรีแห่งชาติไว้ในพระบรมราชินูปถัมภ์ จึงได้ชื่อว่า “สภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์” จวบจนถึงปัจจุบันเพื่อเป็นศูนย์กลางในการส่งเสริมพัฒนาศักยภาพ เชิดชูบทบาทสตรีไทย ดำเนินกิจกรรมเพื่อส่งเสริมสถานภาพของสตรีไทยตามพระราชเสาวนีย์ ๔ ประการ ในวันสตรีไทยในการเป็นแม่ที่ดี เป็นแม่บ้านที่ดี รักษาเอกลักษณ์ไทย และใส่ใจพัฒนาตนเอง ยึดมั่นสืบสานขนบธรรมเนียมประเพณีไทยให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรม ร่วมกับภาคีเครือข่ายองค์กรสตรีกว่า ๒๐๐ องค์กร
สำหรับการได้รับการเลือกตั้งจากองค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ ให้เป็นประธานสภาสมาคมสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ สมัยที่ ๒๕ – ๒๖ จึงเป็นโอกาสที่มีคุณค่าอย่างที่สุด ในการทดแทนพระมหากรุณาธิคุณ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงประกอบพระราชกรณียกิจเพื่อพสกนิกรของพระองค์มาอย่างยาวนาน ด้วยทรงมีพระราชดำริในการอนุรักษ์ สืบสานผ้าไทยมากกว่า ๖๐ ปี สภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ ได้มีโอกาสสนองงานสืบสานพระราชปณิธาน อาทิโครงการตามรอยผ้าไทยลมหายใจแม่ของแผ่นดิน ด้วยต่างสำนักในพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้นอย่างหาที่สุดมิได้ ที่ทำให้พี่น้องสตรีไทยทั้ง ๔ ภาค ล้วนได้มีอาชีพ มีรายได้ และความมั่นคงในชีวิตด้วยผ้าไทย ทำให้ผ้าทุกผืนมีคุณค่าจนเกิดเป็นอาชีพหลักสร้างความมั่นคงต่อตนเองและครอบครัวได้เป็นอย่างดีด้วยความภาคภูมิใจทั้งนี้ต่อมาสภาสตรีฯ ได้ดำเนินโครงการ “สืบสาน อนุรักษ์ศิลป์ ผ้าถิ่นไทย ดำรงไว้ในแผ่นดิน” โดยไม่เน้นที่ความสวยงามเป็นหลักเท่านั้น สิ่งสำคัญคือการต่อยอดในการอนุรักษ์ผ้าพื้นถิ่น ซึ่งได้จับมือกับกรมการพัฒนาชุมชน ลงนาม MOU ร่วมกับ ๗๖ จังหวัดและกรุงเทพมหานคร นอกจากนี้ยังมีสำคัญหลายองค์กร ประกอบด้วย การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาภูมิภาค ในการสวมใส่ผ้าไทย และผลักดันรณรงค์การสวมใส่ผ้าไทย จนเป็นมติคณะรัฐนมตรี เมื่อวันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๖๓ เห็นชอบการส่งเสริมและสนับสนุนให้คนไทยใช้และสวมใส่ผ้าไทยอย่างน้อยสัปดาห์ละสองวัน ทั้งนี้จึงเป็นการกระตุ้นให้ผ้าไทยเป็นที่ต้องการมากขึ้น ส่งผลให้เกิดการสร้างอาชีพ สร้างงาน สร้างรายได้ ให้เกิดขึ้นกับผู้ประกอบการในชุมชน อันเป็นกลไกการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก อันเป็นเป้าหมายที่สภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ ร่วมกับกรมการพัฒนาชุมชน พยายามผลักดันให้ผ้าไทยสามารถเข้าไปอยู่ในชีวิตของคนไทยทุกคนให้ได้
ด้วยพระปรีชาและพระกรุณาธิคุณ ของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ที่ได้ประทานลวดลาย “ผ้ามัดหมี่ลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ” จึงเป็นการสร้างปรากฏการณ์แห่งอนาคตสำหรับการพัฒนาลวดลายและคุณภาพผ้าในยุคใหม่ เพราะโจทย์ใหญ่ของการพัฒนาผ้าไทยวันนี้คือรูปแบบ เรื่องราว ดังนั้นจึงเป็นดังการประทานแรงบันดาลใจของพระองค์ ไปสู่ช่างฝีมือ กลุ่มทอผ้า ทุกกลุ่มทุกภูมิภาค ให้วงการผ้าไทยกลับมามีชีวิตชีวา พัฒนาสืบสานต่อยอดอย่างไม่หยุดยั้ง เกิดความนิยมโดยแพร่หลาย ทั้งนี้ จึงขอเชิญชวนพี่น้องคนไทยทุกคนร่วมกันหันมาสวมใส่ผ้าไทย ส่งเสริมหัตถศิลป์ผ้าไทยด้วยความภาคภูมิใจ ช่วยเศรษฐกิจไทยให้มั่นคง และยั่งยืนตลอดไป
ด้าน นายอัครชญ แก้วอาภรณ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านผ้าไทย กล่าวว่า การแถลงข่าวการประกวดลายผ้าพระราชทานลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ในครั้งนี้ ถือเป็นการ kick off ในการส่งเสริม อนุรักษ์ รักษา สืบสาน และต่อยอด โดยการส่งเสริมศิลปินคนรุ่นใหม่โดยมุ่งเน้นการทำงานทักทอผ้าต้องไม่ลดขั้นตอนในการปฏิบัติงาน ทรงพระราชทานผ้าลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ทรงพระอักษรลายเชิงผ้ารูปหัวใจ สื่อความหมายถึงความรักที่พระองค์มีต่อประชาชนชาวไทยทุกคน = Eternal Love ซึ่งทุกลวดลายเปี่ยมไปด้วยความหมาย การประกวดลายผ้าครั้งนี้ เพื่อต้องการส่งเสริม รักษา ต่อยอด พระราชกรณียกิจสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงตามกติกาที่ได้วางไว้ สุนทรียศาสตร์ มรดกทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาที่ส่งต่อบรรพบุรุษดำเนินต่อเนื่อง สิ่งที่คงอยู่กับโลกปัจจุบันในเรื่อง แนวโน้ม ขับเคลื่อนรูปแบบความต้องการในยุคปัจจุบัน เพื่อต้องการยกระดับ คุณภาพลายผ้าไทย เส้นใย และสร้างศิลปินคนรุ่นใหม่ที่ทำงานเรื่องผ้าโดยไม่จำกัดอายุ มีความถนัด ความชอบในด้านการทอผ้า แต่ขาดเวทีโอกาสในเผยแพร่คุณค่าของตนเอง เวทีนี้จะสร้างคุณค่าแรงบันดาลใจแก่ผู้ที่สนใจในการเข้าร่วมการประกวดครั้งนี้เป็นอย่างมาก และพระองค์ท่านยังทรงเน้นย้ำถึงการทอผ้าต้องไม่มีการลดขั้นตอน ต้องปฏิบัติตามบรรพบุรุษ ทออย่างไร ต้องปฏิบัติตามขั้นตอนนั้นๆ และในการประกวดช่วงปลายเดือนกรกฎาคม พระองค์ท่านจะทรงเสด็จเป็นองค์ประธานตัดสินในระดับประเทศด้วยพระองค์เอง และทรงเชิญพระราชบริพารที่ถวายงานเข้าร่วมเป็นกรรมการตัดสินรอบกิตติมศักดิ์ รวมถึงมีรางวัลพิเศษ the best of the best รางวัล ๑๕ ประเภทผ้า ตามเทคนิค เอกลักษณ์ของผ้าประจำถิ่นของจังหวัดนั้นๆ เป็นแรงกระตุ้นสิ่งสำคัญ นำผ้าที่ชนะเลิศไปตัดเย็บเป็นฉลองพระองค์ ใส่ไปงาน OTOP Midyear ๒๐๒๐ ในเดือนสิงหาคม และมีเหรียญรางวัลแก่ผู้ชนะเลิศ ๓ รางวัลและพระองค์ท่านยังเข้าถึงใจประชาชน ทรงพระราชทานรางวัลชมเชยแก่ผู้เข้าร่วม เพื่อสร้างแรงจูงใจและกระตุ้นแรงบันดาลใจ จึงขอขอบคุณกรมการพัฒนาชุมชน ที่เห็นความสำคัญของการพลิกฟื้นผ้าไทยและสนองแนวพระราชดำริของพระองค์ท่าน ต่อการดำเนินงานประโยชน์ต้องตกอยู่แก่ประชาชนแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าปลาบปลื้มเป็นอย่างมาก
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวเพิ่มเติม เป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างยิ่งกว่ารางวัล ก็คือ การที่พระองค์ท่านพระราชทานเหรียญรางวัลและร่วมฉลองพระองค์ จากผ้าที่ได้รับชนะเลิศ ซึ่งเป็นเกียรติประวัติและมีคุณค่าเป็นอย่างมาก จากลายผ้าพระราชทาน ลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ บนผืนผ้าลายขอ รูปตัว S แบบมาตรฐาน พระองค์ท่าน ทรงพระราชทานพระอนุญาตให้กลุ่มทอผ้าทุกกลุ่ม ทุกเทคนิค รวมถึงสามารถนำไปประยุกต์ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ทำให้ก่อให้เกิดรายได้ แต่ต้องเป็นการทำมือ เช่น ทำสร้อยอัญมณีลายขอ จะเห็นได้ว่า สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญาได้นำเอาสิ่งที่สำคัญ มาเป็นของขวัญอันล้ำค่าให้แก่ปวงประชาชน และรูปหัวใจที่ร้อยเรียงเปรียบเสมือนหัวใจแห่งความรัก ความดูแล เอาใจใส่ที่พระองค์ท่านมอบให้แก่ประชาชน พระองค์ท่านได้พระราชทานแบบ เพื่อมอบให้ชาวบ้านได้นำไปต่อยอดสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและมีรูปแบบที่ทันสมัย เหมาะสมกับยุคปัจจุบัน เพื่อเพิ่มมูลค่า สร้างอาชีพ สร้างรายได้แก่ประชาชนอย่างทั่วถึง และทรงมีความละเอียดอ่อนในเรื่องของการจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญา โดยให้กรมการพัฒนาชุมชน จดทะเบียนลิขสิทธิ์เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นไทยไว้ โดยพระองค์ท่านทรงลงพระนามมอบให้ในวันที่ ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓ เพื่อเป็นการสืบสาน รักษา และต่อยอด อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย ให้ดำรงอยู่ยั่งยืนตลอดไป
ทั้งนี้ กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย จึงขอเชิญชวนผู้ที่สนใจเข้าร่วมการประกวดผ้าลายพระราชทานลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ซึ่งเปิดรับสมัคร ตั้งแต่บัดนี้ – เดือนเมษายน ๒๕๖๔ และประกวดในระดับภูมิภาคในห้วงเดือนพฤษภาคม๒๕๖๔ และประกวดในระดับประเทศในห้วงเดือนกรกฎาคม ๒๕๖๔ โดยสามารถติดต่อได้ที่กรมการพัฒนาชุมชน สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดและอำเภอทุกแห่ง ดังนั้นการประกวดในครั้งนี้ เชื่อมั่นว่า จะเป็นต้นแบบรังสรรค์ผ้าไทยให้เกิดความหลากหลาย สร้างเทคนิคที่โดดเด่น ตามความถนัดของตนเองและสร้างคุณค่าในสังคมควบคู่กับการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทยและสิ่งสำคัญที่สุด คือ ความภาคภูมิใจ โดยเฉพาะระดับประเทศ จะเป็นเกียรติประวัติ โดยได้รับพระราชทานรางวัลจากพระหัตถ์พระองค์ท่าน เพื่อเป็นการสืบสาน รักษา และต่อยอด ภายใต้แนวคิด “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” สืบสานอนุรักษ์ศิลป์ผ้าถิ่นไทย ดำรงไว้ในแผ่นดิน และขอเชิญชวนให้ทุกท่านสวมใส่ผ้าไทยอย่างพร้อมเพียงกัน เพื่อแสดงให้เห็นถึงความจงรักภักดีแก่พระองค์ท่าน และสามารถดูรายละเอียดการประกวด และข้อมูลเกี่ยวกับผ้าลายพระราชทานลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ได้ทางเว็บไซต์กรมการพัฒนาชุมชน www.cdd.go.th
ขอบคุณที่มา: เว็บไซต์กรมการพัฒนาชุมชน www.cdd.go.th กองประชาสัมพันธ์ กรมการพัฒนาชุมชน
เรียบเรียงข่าว : ฝ่ายประชาสัมพันธ์ คณะกรรมการบริหาร สภาสตรีแห่งชาติฯ

๖๓๘. สมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัดอุดรธานี องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติ ฯ สืนสานประเพณีจัดงานวันตรุษจีน เสริมศิริมงคล ให้ชีวิตตลอดปี
วันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔ เวลา ๑๒.๐๐ น. ที่สำนักงานส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัดอุดรธานี นางกอบแก้ว คงน้อย นายกสมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัดอุดรธานี องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ และกรรมการสมาคม จัดงานวันตรุษจีน ร่วมกันสืบสานขนบธรรมเนียมประเพณีจีน จัดเลี้ยงอาหารกลางวัน มีการจับสลากรางวัล และมอบอั่งเปาตามประเพณีจีน และไหว้สักการะสิ่งศักด์สิทธ์ ไหว้บรรพบุรุษ ไหว้เจ้าที่ ตั้งจิตอธิฐานขอพร ให้การทำงานร่วมกันของกรรมการและสมาชิกสมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัดอุดรธานี เป็นไปด้วยความราบรื่น ตามเป้าหมายที่วางไว้ ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวม และต่อครอบครัว สุขภาพแข็งแรงโชคดีตลอดปีใหม่
รายงานภาพข่าว: สมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัดอุดรธานี
เรียบเรียงข่าว : ฝ่ายประชาสัมพันธ์ คณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติฯ

๖๓๗. สมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัดอุดรธานี องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติ ฯ ร่วมกับ ที่ปรึกษาสมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัดอุดรธานี มอบรถเข็นนั่งวิลแชร์ ไม้ค้ำยัน และ ที่นอนลม ให้โรงพยาบาลพิบูลย์รักษ์ จังหวัดอุดรธานี เพื่อมอบให้ผู้ป่วยพิการ และติดเตีย
วันที่ ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔ นางกอบแก้ว คงน้อย นายกสมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัดอุดรธานี องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ และคณะกรรมการสมาคมฯ ร่วมกับนางพอนวิไล แสนประเสิด ที่ปรึกษาสมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัดอุดรธานี และนายธนเทพ วิบูล ที่ปรึกษา สมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัดอุดรธานี ร่วมกันมอบรถเข็นนั่งวิลแชร์ (Wheelchair) เก้าอี้นั่งสุขภัณฑ์ และ มอบไม้ค้ำยัน พร้อมด้วยที่นอนลมสำหรับผู้ป่วยติดเตียง ให้กับโรงพยาบาลพิบูลย์รักษ์ อำเภอพิบูลย์รักษ์ จังหวัดอุดรธานี เพื่อนำไปมอบให้ผู้ป่วย ที่พิการ เดินไม่ได้ และผู้ป่วยที่ติดเตียง ได้นำไป ใช้ในชีวิตประจำวันให้สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น โดยได้รับเกียรติจาก นายมนตรี ใหญ่โสมานัง แพทย์แผนไทยปฏิบัติการ โรงพยาบาลพิบูลย์รักษ์ เป็นผู้รับมอบ ณ สำนักงานสมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัดอุดรธานี
รายงานภาพข่าว: สมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัดอุดรธานี
เรียบเรียงข่าว : ฝ่ายประชาสัมพันธ์ คณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติฯ

๖๓๖. สภาสตรีแห่งชาติฯ เชิญชวน องค์กรสมาชิกและภาคีเครือข่าย เสนอผลงานบุคคล และองค์กร ที่ทำคุณประโยชน์ต่อเด็กและเยาวชน รวมถึงพิจารณาคัดเลือกเด็กและเยาวชนดีเด่นแห่งชาติเข้ารับพระราชทานโล่เกียรติยศและเกียรติบัตร เนื่องในวันเยาวชนแห่งชาติ ประจำปี ๒๕๖๔
สภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ขอเชิญชวนองค์กรสมาชิก และภาคีเครือข่าย สภาสตรีแห่งชาติฯ นำเสนอผลงานเด็กและเยาวชน เนื่องในวันเยาวชนแห่งชาติ ประจำปี ๒๕๖๔ ตามประกาศ ณ วันที่ ๑๙ มกราคม ๒๕๖๔ กรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ประกาศการสรรหาและพิจารณาคัดเลือกเด็กและเยาวชนดีเด่นแห่งชาติ และผู้ทำคุณประโยชน์ต่อเด็กและเยาวชน ประจำปื ๒๕๖๔ จำนวน ๑๑ สาชา โดยแบ่งเป็น ๔ ปะเภท ได้แก่ ประเภทเด็กและเยาวชน ประเภทกลุ่มเด็กและเยาวชน ประเภทบุคคลผู้ทำคุณประโยชน์ต่อเด็กและเยาวชน และประเภทองค์กรที่ทำคุณประโยชน์ต่อเด็กและเยาวชน เพื่อเข้ารับพระราชทานโล่เกียรติยศและเกียรติบัตร เนื่องในโอกาสวันเยาวชนแห่ชาติ ๒๐ กันยายน ๒๕๖๔
สภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ จึงขอเชิญชวน องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ และภาคีเครือข่าย หรือประชาชนทั่วไป นำเสนอผลงาน หรือประชาสัมพันธ์ ให้เป็นที่รับทราบทั่วกัน ทั้งนี้ผู้สนใจ ท่านสามารถดาวน์โหลด การประกาศแบบเสนอประวัติและผลงาน กรอบหลักเกณฑ์ฯ ได้ทางเว็บไซต์ www.dcy.go.th โดยขอให้เจ้าของผลงานศึกษารายละเอียดกรอบหลักเกณฑ์ฯ พร้อมกรอกข้อมูลให้ถูกต้อง ครบถ้วน การส่งผลงานต้องมีหนังสือนำส่งจากหน่วยงาน หรือ องค์กร ของท่านด้วย
การส่งผลงาน สามารถดำเนินการได้ ภายในวันศุกร์ที่ ๓๐ มษายน ๒๕๖๔ ดังนี้
๑. ส่งด้วยตนเอง ที่กลุ่มการพัฒนาศักภาพ กองส่งเสริมการพัฒนาและสวัสดิการเด็กเยาวชน และครอบครัว ชั้น ๑ อาคารดรุณวิถี ภายในบริเวณสถานสงเคราะห์เด็กหญิงบ้านราชวิถี เลขที่ ๒๕ ถนนราชวิถี แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเท กรุงเทพๆ ๑๐๔๐๐ ในวัน และเวลาราชการ
๒. ส่งทางไปรษณีย์ จ่าหน้า กรมกิจการเด็กและยาวชน เลขที่ ๖๑๘/๑ ถนนนิคมมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพฯ ๑๐๔๐๐ (การสรรหาเด็กและเยาวชนดีเด่นแห่งชาติฯ) โดยถือตราประทับไปรษณีย์ต้นทางของทางราชการเป็นสำคัญ กรมกิจการเด็กและเยาวชน จะไม่รับผิดชอบต่อการสูญหายหรือการชำรุดเสียหายที่เกิดจากการขนส่งทางไปรษณีย์
ผู้สนใจสามารถสอบถามโดยตรงที่ กรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ
หมายเลขโทรศัพท์ ๐ ๒๓๐๖ ๘๙๒๕ และ ๐ ๒๓๐๖ ๘๙๐๓ โทรสาร ๐ ๒๓๐๖ ๘๙๒๕
ที่มา: กรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ www.dcy. go.th
เรียบเรียงข้อมูล :ฝ่ายประชาสัมพันธ์คณะกรรมการบริหาร สภาสตรีแห่งชาติฯ

๖๓๕. สมาคมสตรีอาเซียน-กาฬสินธ์ องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ จัดกิจกรรม “ โครงการผู้สูงวัยใส่ใจไม่ไร้ค่า” ออกเยี่ยมเยียน มอบเงินช่วยเหลือ สร้างรอยยิ้ม ให้กำลังใจพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงวัยและผู้ป่วยติดเตียง
วันที่ ๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔ เวลา ๑๐.๐๐ น. นางอุมารินทร์ เลิศสหพันธ์ นายกสมาคมสตรีอาเซียน-กาฬสินธ์ องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ นำคณะกรรมการ และสมาชิก ร่วมจัดกิจกรรมเยี่ยมให้กำลังใจผู้สูงวัย โครงการ “ผู้สูงวัยใส่ใจไม่ไร้ค่า” มอบเงิน จำนวน ๒๐,๐๐๐ บาท และเครื่องอุปโภคบริโภค ของใช้จำเป็นให้ผู้สูงวัย จำนวน ๓ ท่าน ประกอบด้วย คุณยาย ปัน บุญทวี อายุ ๙๐ ปี ผู้ป่วยติดเตียง คุณยาย รัชนี ธารีภูมิ อายุ ๗๔ ปี ฐานะยากจน รับแค่เบี้ยเลี้ยงคนชรา คุณยาย เสาวณีย์ ภูแถวนา อายุ ๗๖ ปี ไม่มีบ้านอยู่อาศัย อาศัยอยู่กับญาติ ในเขตอำเภอเมือ จังหวัดกาฬสินธุ์
นางอุมารินทร์ เลิศสหพันธ์ กล่าวว่าสมาคมสตรีอาเซียน-กาฬสินธ์ ได้จัดกิจกรรมโครงการ “ผู้สูงวัยใส่ใจไม่ไร้ค่า” เยี่ยมบ้านผู้สูงวัยป่วยติดเตียง โดยรวมพลังจิตอาสาของคณะกรรมการและสมาชิก ร่วมกันสนับสนุนเงิน และของใช้จำเป็นของผู้สูงวัย ไปเยี่ยมเยี่ยน ให้กำลังใจ ซึ่งกิจกรรมดังกล่าว สมาคมฯ มีวัตถุประสงค์ชพัฒนาคุณภาพชีวิต ด้านร่างกายและให้กำลังด้านจิตใจ เพราะบางราย ลูกหลานทอดทิ้ง หรือมีความจำเป็นต้องออกไปประกอบอาชีพ จึงทำให้คนชราต้องอยู่บ้านเพียงลำพัง ที่สำคัญการมาเยี่ยมบ้าน นอกจากจะลงไปช่วยให้กำลังใจผู้ป่วยติดเตียงแล้ว ก็จะทำให้สังคมและชุมชนน่าอยู่ ด้วยการช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ดังนั้นการจัดกิจกรรมโครงการ “ผู้สูงวัยใส่ใจไม่ไร้ค่า” แสดงถึงความกตัญญูต่อผู้ใหญ่ ด้วยผู้ชราเมื่อวัยหนุ่ม – สาว เคยทำประโยชน์ให้สังคมส่วนรวมมาก่อน เมื่อเราทำแล้วได้บุญกุศลจากการได้ช่วยเหลือผู้ยากไร้ที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ซึ่งจะช่วยยืดอายุของผู้ป่วยได้ และลดภาระการดูแลจากลูกหลานที่ต้องออกไปทำงานและมีรายได้น้อย
รายงานภาพ/ข่าว : สมาคมสตรีอาเซียน-กาฬสินธ์ องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ
เรียบเรียงข่าว : ฝ่ายประชาสัมพันธ์ คณะกรรมการบริหารสภาสตรีแก่งชาติฯ

๖๓๔.สมาคมกองทุนสวัสดิการเพื่อสตรีฯ องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ พร้อมด้วยคณะกรรมการ และสมาชิก ถวายเครื่องถ่ายเอกสาร จำนวน ๑๗ เครื่อง ให้สำนักงานพัฒนาชุมชน ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในโอกาสน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณในองค์สมเด็จพระสุริโยทัย ครบรอบ ๔๗๓ ป
วันที่ ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔ เวลา ๑๐.๐๐ น. นางพรทิพย์ ตั้งกีรติ นายกสมาคมกองทุนสวัสดิการเพื่อสตรีฯ องค์กรสมาชิก สภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ และกรรมการสมาคม พร้อมด้วยองค์กรสมาชิกในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ร่วมกันมอบเครื่องถ่ายเอกสาร ถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระศรีสุริโยทัย หรือ พระสุริโยทัย วีรสตรีไทยสมัยอยุธยา อัครมเหสีในสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ พระมหากษัตริย์องค์ที่ ๑๕ ของกรุงศรีอยุธยาแห่งราชวงศ์สุพรรณภูมิ และน้อมรำลึกถึงวีรกรรมสมเด็จพระศรีสุริโยทัยวีรสตรี จากการทำยุทธหัตถี กับพระเจ้าแปร ในสงครามพระเจ้าตะเบ็งชเวตี้ เมื่อวันที่ ๓ กุมภาพันธ์ ปีพุทธศักราช ๒๐๙๑ โดยได้รับเกียรติ จากนางสาวนุชนาถ ประทีปธีรานันต์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานรับมอบ เพื่อนำไปมอบให้กับสำนักงานพัฒนาชุมชนจำนวน ๑๖ อำเภอในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และ สำนักงานพัฒนาชุมชน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา รวมจำนวน ๑๗ เครื่อง ณ เจดีย์พระศรีสุริโยทัย จ.พระนครศรีอยุธยา
นางพรทิพย์ ตั้งกีรติ กล่าวว่า เนื่องในวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระสุริโยทัย ที่ทรงเสียสละพระชนม์ชีพปกป้องแผ่นดินไทย สมาคมกองทุนสวัสดิการเพื่อสตรีฯ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ ร่วมน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณในองค์สมเด็จพระสุริโยทัย จึงได้มอบเครื่องถ่ายเอกสารให้กับสำนักงานพัฒนาชุมชนจำนวน ๑๖ อำเภอในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และ สำนักงานพัฒนาชุมชน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา รวมจำนวน ๑๗ เครื่อง เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการปฎิบัติงานของสำนักงานพัฒนาชุมชน ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อีกทั้ง เป็นการสร้างจิตสำนึก ในความรักชาติ รักแผ่นดินอีกด้วย
เครดิตข่าว : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
วันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระสุริโยทัย #สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
รายงานภาพ/ข่าว :สมาคมกองทุนสวัสดิการเพื่อสตรีฯ องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ
เรียบเรียงข่าว : ฝ่ายประชาสัมพันธ์ คณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติฯ

๖๓๓. สมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทย- ปทุมนนท์ องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ “มอบอาหารจากใจ ร่วมป้องกันภัย COVID-๑๙ “ให้บุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่ โรงพยาบาลทรวงอก นนทบุรี
วันที่ ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔ เวลา ๑๑.๐๐ น.นางสุกัญญา นิยมมาลัย นายกสมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทย- ปทุมนนท์ องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ พร้อมด้วยท่านที่ปรึกษาสมาคมฯ ประกอบด้วยนางละออ ตั้งคารวคุณ นางประเทือง คูสกุล นางเบญจมาศ ชาญประดิษฐ์ และคณะกรรมการสมาคมฯ เดินทางไป “มอบอาหารจากใจ ร่วมป้องกันภัย COVID-๑๙” เป็นประเภทอาหารกล่อง และเครื่องดื่ม เพื่อเป็นกำลังใจให้บุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ปฏิบัติหน้าที่ดูแลและป้องกันโรคโควิด-๑๙ ณ.โรงพยาบาลทรวงอก จังหวัดนนทบุรี
นางสุกัญญา นิยมมาลัย กล่าวว่า สมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทย- ปทุมนนท์ องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ พร้อมด้วยท่านที่ปรึกษาสมาคมฯ และกรรมการสมาคมฯ ขอเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่ทุกท่านผู้เสียสละ ทุ่มเทแรงกายแรงใจในการดูแลรักษาผู้ป่วย ตลอดจนยังเป็นกำลังสำคัญในการรักษาผู้ป่วยที่กำลังต่อสู้กับไวรัสโควิด-๑๙ และเราจะก้าวข้ามผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน
ภาพ/ข่าว : สมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทย- ปทุมนนท์ องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์
เรียบเรียงข่าว: ฝ่ายประชาสัมพันธ์คณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์

