๓๐๖. ประธานสภาสตรีแห่งชาติฯ ร่วมงานแถลงข่าว “สุดยอดเทศกาลช้อปแห่ง ปี OTOP City 2019” ร่วมฉลองปีใหม่ กระตุ้นเศรษฐกิจไทย

เมื่อ ๙ ธันวาคม ๒๕๗๒ เวลา ๑๔.๐๐ น .ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติแห่งชาติ ในฐานะ ประธานชมรมแม่บ้านพัฒนาชุมชน ได้รับเกียรติร่วมงานแถลงข่าว งาน” OTOP City 2019 “ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๑๕-๒๓ ธันวาคม ๒๕๖๒ รวม ๙ วัน ณ อาคารชาเลนเจอร์ ๑-๓ อิมแพ็ค เมืองทองธานี
การแถงข่าว OTOP City 2019 ภายใต้แนวคิด “เทศกาลของขวัญปีใหม่ ของฝากถูกใจ ผลิตภัณฑ์ทั่วไทยรวม สินค้า ๒ หมื่นกว่ารายการ ไว้ใน OTOP City 2019 ได้รับเกียรติจากนายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่ากกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการแถลงข่าวฯ โดยมี นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายประวิช สุขุม เลขานุการร่วมภาคเอกชน คณะทำงานการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและประชารัฐ และคณะผู้บริหารกรมพัฒนาชุมชน รวมทั้งภาคีข่าย ภาครัฐและภาคเอกชน และสื่อมวลชน เข้าร่วมงานแถลงข่าว ณ ศูนย์แถลงข่าวรัฐบาล ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล

นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า การจัดงาน OTOP City 2019 เป็นหนึ่งในงานส่งเสริมการตลาดให้แก่ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ที่รัฐบาลให้ความสำคัญที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากให้เชื่อมโยงเศรษฐกิจมหภาค เป็นการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับประชาชน ลดความเหลื่อมล้ำ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ปี โดยรัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยบูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ทุกภาคส่วน โดยมีกรมการพัฒนาชุมชน เป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อน ซึ่งผลการจัดงาน OTOP City ที่ผ่านมา (๑๓ ครั้ง) สามารถสร้างรายได้จากการจำหน่ายสินค้า OTOP ได้มากกว่า ๑๓,๐๐๐ ล้านบาท ในปีนี้ กรมการพัฒนาชุมชนคาดว่าจะมียอดจำหน่ายในงานครั้งที่ ๑๔ ไม่น้อยกว่า ๑,๔๐๐ ล้านบาท มีผู้เข้าร่วมงานไม่น้อยกว่า 5 แสนคน และมีผู้ผลิตผู้ประกอบการเข้าร่วมงานไม่น้อยกว่า ๓,๕๐๐ ราย โดยกำหนดให้มีพิธีเปิดงานอย่างเป็นทางการในวันจันทร์ที่ ๑๖ ธันวาคม ๒๕๖๒ เวลา ๑๕.๐๐ น. ซึ่งกระทรวงมหาดไทย คาดหวังว่าจะเป็นโอกาสอันดี ที่ประเทศไทยจะได้แสดงให้ชาวไทยและชาวต่างชาติ ได้เห็นถึงความก้าวหน้าในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ OTOP ที่เป็นภูมิปัญญาของคนไทย ทั้งนี้ จากข้อมูลเดือนตุลาคม ๒๕๖๒ มีรายได้จากการจำหน่ายสินค้าชุมชน มากกว่า ๒๓๗,๐๐๐ ล้านบาท ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อชุมชนและประชาชน ฉะนั้น การจัดงานในครั้งนี้ จึงมุ่งหวังว่าจะนำไปสู่การสร้างงาน สร้างรายได้ให้ผู้ผลิตผู้ประกอบการมากยิ่งขึ้น เพื่อความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ตามนโยบายของรัฐบาลต่อไป

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดงานในครั้งนี้ เป็นการจัดงานระดับประเทศ ที่มีความพิเศษและมีกิจกรรมที่หลากหลาย มีสินค้ามากกว่า ๒๐,๐๐๐ รายการ โดยภายในงาน ประกอบด้วยโซนหลัก ได้แก่
๑.นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ภายใต้แนวคิด “จิตอาสา ทำความดีด้วยหัวใจ”
๒. การจัดแสดงและจำหน่ายสินค้า OTOP ๕ ประเภท หรือ OTOP Classic จากทุกจังหวัด มากกว่า ๒,๕๐๐ ราย มีสินค้าให้เลือกมากกว่า ๒๐,๐๐๐ รายการ แบ่งเป็น ๑ ) OTOP ๓-๕ ดาว ๒) OTOP Lady โซนพิเศษเฉพาะผู้หญิง “ช้อปสินค้าครบจบในที่เดียว”๓) OTOP ฮาลาล อาทิ น้ำอินทผลัม พฤกษาฟาร์ม จ.กาญจนบุรี, ไชโป๊วหวาน แม่กิมฮวย จ.ราชบุรี, ขนมข้าวเหนียวมะม่วงฟรีซดราย จ.จันทบุรี,มะพร้าวเคลือบช็อกโกแลต จ.ประจวบคีรีขันธ์ ๔) OTOP เพื่อสุขภาพ ๕) OTOP Premium นำเสนอผลงานศิลปิน OTOP อาทิ งานประดิษฐ์จากดินไทย โดยนางสาวนงลักษณ์ ทรัพย์เจริญ จังหวัดพิษณุโลก, เครื่องเคลือบเวียงกำหลง โดยนายทัน ธิจิตตัง จังหวัดเชียงราย, ผ้าซิ่นตีนจกโบราณ โดยนายโกมล พานิชพันธ์ จังหวัดแพร่ ๖) OTOP Trader ๗) OTOP หน่วยงานภาคี และ ๘) OTOP ชวนชิม
๓. กิจกรรมนิทรรศการกรมฯ และหน่วยงานภาคี ประกอบด้วย OTOP ออนไลน์ และนิทรรศการ การจัดแสดงและจำหน่ายของ ๒๐ หน่วยงานภาคี
๔. กิจกรรมส่งเสริมการขาย ได้แก่ การแสดงศิลปะพื้นบ้าน และมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง, OTOP Story, กิจกรรมคัดเลือกนักขายมืออาชีพ, กิจกรรมจับรางวัลชิงโชค เพียงช้อปครบทุก ๑,๐๐๐ บาท ลุ้นรับรางวัลสร้อยคอทองคำหนัก ๑ สลึง ทุกวัน ๆ ละ ๑๐ เส้น รวม ๙๐ รางวัล วันสุดท้ายลุ้นรับรางวัลใหญ่ สร้อยคอทองคำหนัก ๕ บาท จำนวน ๕ รางวัล มูลค่า ๕๐๐,๐๐๐ บาท
๕. กิจกรรมการบริการ เช่น ธนาคาร/ไปรษณีย์, Health & Spa, สนามเด็กเล่น, บริการขนส่งสินค้า ฯลฯ

สำหรับกิจกรรม Highlight ในปีนี้ ได้แก่ ๑) โซนของขวัญปีใหม่ การจัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP ของขวัญของฝาก จาก ๔๐ จังหวัด ๒) โซนหมู่บ้านท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี พบกับการจำลองชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ๔ ภาค จำนวน ๘ หมู่บ้าน ๓) OTOP Masterpiece นำเสนอผลงานที่มีความโดดเด่น เช่น ผลิตภัณฑ์ย่านลิเภา จังหวัดนครศรีธรรมราช งานไม้แกะสลัก จังหวัดเชียงใหม่ เรือสำเภาจำลอง จังหวัดชลบุรี ดีบุกกำแพงเพชร จังหวัดกำแพงเพชร ๔) ผลิตภัณฑ์ที่ชนะการประกวด Knowledge based OTOP (KBO) ๖)โซนตัดเย็บเสื้อผ้า ให้บริการตัดเย็บเสื้อผ้าสำเร็จรูปในงาน
ทั้งนี้ การสนับสนุนผลิตภัณฑ์จากชุมชนในงาน OTOP City 2019 นอกจากจะได้ของขวัญ ของที่ระลึกจากภูมิปัญญาและฝีมือของคนไทยในราคายุติธรรมแล้ว ยังช่วยสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้แก่พี่น้อง ในชุมชนทั้งระบบ ซึ่งขณะนี้ รัฐบาลได้ดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่านมาตรการส่งเสริมการบริโภคภายในประเทศ ในมาตรการ “ชิม ช้อป ใช้” ทั้ง ๓ เฟส โดยขยายช่องทางการซื้อสินค้าของประชาชนไปสู่ E-Marketplace ผ่านช่องทางของ thailandpostmart.com ซึ่งถือเป็นแหล่งรวมสินค้า OTOP จากชุมชน และผลิตผลทางการเกษตร ในระบบ E-Commerce ที่ใหญ่ที่สุด และยังเป็นการส่งเสริมการจ่ายเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อเป็นการกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นและผู้ประกอบการรายย่อยโดยตรงด้วย จึงขอเชิญชวนให้ทุกคนเลือกซื้อกระเช้าของขวัญและสินค้า OTOP ประเภทต่าง ๆ ทั้งที่ได้เข้าร่วมมาตรการ “ชิม ช้อป ใช้” แล้ว และกำลังจะเข้าร่วมโครงการ เพื่อเพิ่มรายได้ให้แก่พี่น้องประชาชนในชนบท เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนเศรษฐกิจในระดับฐานรากต่อไป

ด้านนายประวิช สุขุม เลขานุการร่วมภาคเอกชน คณะทำงานการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและประชารัฐ กล่าวด้วยว่า ในส่วนของภาคเอกชนก็ได้เข้ามามีส่วนร่วมด้วย ในการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากช่วง ๕ ปีมานี้ ทำให้ได้ทราบถึงศักยภาพของพี่น้องคนไทย ที่มีทั้งภูมิปัญญาและวัตถุดิบในการผลิตสินค้าดี ๆ ซึ่งส่งผลให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจที่ดี ทั้งในแง่การกระจายรายได้อย่างทั่วถึง และด้านการสร้างความมั่นคงให้กับประชาชนฐานราก โดยในงาน OTOP ปีนี้ ทางคณะเศรษฐกิจฐานราก ได้จัดแสดงผลงานของบริษัทประชารัฐรักสามัคคี รวมทั้งจะเชิญชวนนักออกแบบเสื้อผ้าชื่อดังเข้ามาร่วมงาน และขอเชิญชวนทุกท่านมาเลือกของขวัญของฝากจากกระเช้า OTOP หรือจะซื้อไว้เป็นของที่ระลึกก็คุ้มค่ามาก เพราะสินค้ามีแต่ของดีที่มีคุณภาพทั้งนั้น


ขอบคุณข้อมูล
ภาพ/ข่าว :กองประชาสัมพันธ์ กรมการพัฒนาชุมชน
ข่าว: ฝ่ายประชาสัมพันธ์คณะกรรมการบริหาร สภาสตรีแห่งชาติฯ

๓๐๕. พช.จับมือสภาสตรีแห่งชาติฯเดินหน้ารณรงค์ปลุกคนไทยสวมใส่ผ้าไทยในโครงการ "สืบสาน อนุรักษ์ศิลป์ผ้าถิ่นไทย ดำรงไว้ในแผ่นดิน" ร่วมลงนามกับผู้ว่าฯและผู้นำกลุ่มสตรีมาแล้ว 27 จังหวัด เพื่อสืบสานพระราชปณิธานสมเด็จพระพันปีหลวง

เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.ที่หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน(พช.) พร้อมด้วย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ นางรชตพรโตดิลกเวชช์ ประธานคณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติฯ ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงว่าด้วยการประสานความร่วมมือ MOU ตามโครงการ “สืบสานอนุรักษ์ศิลป์ผ้าถิ่นไทยดำรงไว้ในแผ่นดิน” กับ 4 จังหวัดภาคเหนือ ประกอบด้วย เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง และแม่ฮ่องสอน เพื่อสืบสานพระราชปณิธานสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการอนุรักษ์ส่งเสริมและเผยแพร่ผ้าไทยศิลปะอันล้ำค่าของชาติให้ดำรงคงอยู่เป็นความภาคภูมิใจของคนไทย

๓๐๔. สภาสตรีแห่งชาติฯ ชวนชาวเหนือ สวมใส่ผ้าไทยทุกวัน ตามโครงการสืบสาน อนุรักษ์ศิลป์ผ้าถิ่นไทย ดำรงไว้ในแผ่นดิน “แต่งย่องผ้าพื้นเมือง หื้อลือเลืองผ้าถิ่นไทย”

วันที่ 9 ธันวาคม 2562
เวลา 09.00 น.
ณ หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จังหวัดเชียงใหม่

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ และประธานชมรมแม่บ้านพัฒนาชุมชน พร้อมด้วย นางรชตภร โตดิลกเวชช์ ประธานคณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติฯ ร่วมลงนาม บันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) โครงการ สืบสาน อนุรักษ์ศิลป์ผ้าถิ่นไทย ดำรงไว้ในแผ่นดิน” กับ 4 จังหวัดภาคเหนือ ประกอบด้วย จังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง และจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยผู้ร่วมลงนามของจังหวัดเชียงใหม่ประกอบด้วย นายคมสัน สุวรรณอัมพา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นางสุดาภรณ์ สงวนสัตย์ นายกสมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมสตรีศรีล้านนาไทยเชียงใหม่ นายอาทร พิมชะนก พัฒนาการจังหวัดเชียงใหม่ นายอดิศร กำเนิดศิริ รองนายกองค์การบริหารจังหวัดเชียงใหม่ คุณวรัญญา เลิศวรกิจพิพัฒน์ นายกสมาคมสตรีนครเชียงใหม่ และผู้แทนหน่วยงานภาคี รวม 11 หน่วยงาน

๓๐๓. สภาสตรีแห่งชาติฯ ร่วมประชุมคณะอนุกรรมการคัดเลือกอาสาสมัครดีเด่นและองค์การที่มีกิจการทางสังคมดีเด่น ในนามคณะกรรมการส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคมแห่งชาติ ครั้งที่ ๓/๒๕๖๒

วันที่ ๖ ธันวาคม ๒๕๖๒ เวลา ๐๙.๓๐ – ๑๔.๐๐ น. นางรชตภร โตดิลกเวชช์ ประธานคณะกรรมการบริหาร สภาสตรีแห่งชาติฯ มอบหมายให้ นางอรุณศรี จงเจียมจิตต์ กรรมการอำนวยการและกรรมการบริหาร สภาสตรีแห่งชาติฯ สมัยที่ ๒๖ เข้าร่วมประชุมคณะอนุกรรมการคัดเลือกอาสาสมัครดีเด่นและองค์การที่มีกิจการทางสังคมดีเด่น ในนามคณะกรรมการส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคมแห่งชาติ ครั้งที่ ๓/๒๕๖๒ โดยมีพลตรีหญิง คุณหญิง อัสนีย์ เสาวภาพ ประธานที่ปรึกษาคณะกรรมการอำนวยการสภาสังคมสงเคราะห์ฯ เป็นประธานการประชุม และมีหน่วยงานทั้งภาครัฐ และภาคเอกชนที่เกี่ยงข้อง เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุม ชั้น ๖ อาคารกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ คณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติฯ

๓๐๒. นายกสมาคมสตรีนครเชียงใหม่ (องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ) นำคณะกรรมการบริหารสมาคม และสมาชิก ร่วมกับโรงพยาบาลเซ็นทรัลเชียงใหม่ เมโมเรียล ทำกิจกรรม โครงการในพระราชดำริ และช่วยเหลือผู้ยากไร้ ที่ อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่

วันที่ ๒ ธันวาคม ๒๕๖๒ เวลา ๐๙.๐๐ น. นางสาววรัญญา เลิศวรกิจพิพัฒน์ นายกสมาคมสตรีนครเชียงใหม่ (องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ) นำคณะกรรมการบริหารสมาคม และสมาชิก ร่วมกับโรงพยาบาลเซ็นทรัลเชียงใหม่ เมโมเรียล ทำกิจกรรม โครงการในพระราชดำริ และช่วยเหลือผู้ยากไร้ ณ ต.แม่ตื่น อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ โดยมี นายพิสุทธิศักดิ์ ธรรมะวุฒิสุข ปลัดอาวุโส เป็นประธานในพิธีแทนนายอำเภออมก๋อย พร้อมคณะผู้บริหาร และหัวหน้าส่วนราชการ นางเนาวรัตน์ พรหมน้อยพัฒนาการอำเภออมก๋อย นายจำลอง ปันดอน นายกอบต.แม่ตื่น นายชลนที อนุรักษ์กสิกร นายก อบต.ม่อนจอง นายสุรชัย คุณแก้ว ผอ.โรงเรียนแม่ตื่นวิทยาคม พระครูสถิตบุญญาวาส เจ้าคณะตำบลแม่ตื่น-ม่อนจอง พร้อมด้วยครู นักเรียน ประชาชนผู้ยากไร้ จำนวนกว่า ๕๐๐ คน เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ ณ อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่
นางสาววรัญญา เลิศวรกิจพิพัฒน์ นายกสมาคมสตรีนครเชียงใหม่ กล่าวว่าสมาคมสตรีนครเชียงใหม่ เป็นองค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ ร่วมกับโรงพยาบาลเซ็นทรัลเชียงใหม่ เมโมเรียล จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่บริการตรวจรักษาประชาชน จำนวน มากกว่า ๕๐๐ คน ทั้งนี้มีการแจกถุงยังชีพราษฎรครอบครัวยากจน ๒๐๐ ครอบครัว และแจกแว่นสายตาผู้สูงอายุ จำนวน ๒๐๐ คน นอกจากนี้ได้ถวายผ้าห่มสำหรับพระภิกษุสงฆ์ จำนวน ๓๐ รูป โดยมีพระครูสถิตบุญญาวาส เจ้าคณะตำบลแม่ตื่น-ม่อนจอง เป็นตัวแทนพระภิกษุสามเณร ในตำบลแม่ตื่น รับถวาย
นางสาววรัญญา กล่าวเพิ่มเติมว่า ในนามสมาคมสตรีนครเชียงใหม่ ซึ่งเป็นองค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ ได้ จกเสื้อกันหนาวเด็ก-เยาวชนจำนวน ๕๘๕ คน โดยมีตัวแทนครูและนักเรียนจาก ๙ โรงเรียน เป็นพื้นที่รับมอบ ทั้มอบเสื้อกันหนาวพร้อมกางเกงวอร์มให้โรงเรียนแม่ตื่นวิทยาคม ๒๔๐ ชุด พร้อมด้วยผ้าห่ม, ถุงเท้านักเรียน รวมทั้งทีหน่วยวิชาชีพบริการตัดผมเด็กนักเรียน และประชาชนทั่วไป มอบอุปกรณ์กีฬาให้แก่ตัวแทนครูและนักเรียนจาก ๖ โรงเรียนในเขตพื้นที่การศึกษา เลี้ยงอาหารกลางวัน แก่ราษฎร์ที่ยากไร้และมอบทุน โรงเรียนแม่ตื่นวิทยาคม อีกด้วย

ฝ่ายประชาสัมพันธ์ คณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติฯ

๓๐๑. สภาสตรีแห่งชาติฯ ร่วมกิจกรรม “วันพ่อแห่งชาติ” ๕ ธันวาคม ๒๕๖๒ ณ ท้องสนามหลวง

๕ ธันวาคม ๒๕๖๒ เวลา ๐๘.๐๐ น. ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติ สมัยที่ ๒๖ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ มอบหมายให้ นางประยูร เหล่าสายเชื้อ กรรมการอำนวยการสภาสตรีแห่งชาติฯ สมัยที่ ๒๖ ร่วมพิธีวางพานพุ่มและเนื่องในวันพ่อแห่งชาติ พุทธศักราช ๒๕๖๒ และมอบหมายให้นางวิภาศิริ มะกรสาร ประธานฝ่ายศาสนา สภาสตรีแห่งชาติฯ สมัยที่ ๒๖ ร่วม พิธีทำบุญตักบาตรข้าวสาร อาหารแห้งแด่พระสงฆ์และสามเณรจำนวน ๔๘๙ รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดยมี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย นางนราพร จันทร์โอชา ภริยา เป็นประธานในพิธีวางพานพุ่มและถวายบังคม และทำบุญตักบาตร เนื่องในวันพ่อแห่งชาติ พุทธศักราช ๒๕๖๒ และมีประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญ คณะรัฐมนตรี ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน เข้าร่วมในพิธีดังกล่าว ตามลำดับ
จากนั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวถวายราชสดุดีน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ ความว่า เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ ในวันนี้ ข้าพระพุทธเจ้า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี ข้าราชการ และพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า ที่ได้มาชุมนุมกันอย่างพร้อมเพรียง ณ ที่แห่งนี้ ต่างน้อมจิตตั้งมั่นเพื่อร่วมกันแสดงออกถึงความจงรักภักดีและน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันหาสุดมิได้

ฝ่ายประชาสัมพันธ์ คณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติฯ

๓๐๐. นางสาวเบญจมาศ รุจิรวงศ์ ปลื้ม พลังแห่งความสามัคคีทีมร้านเศรษฐกิจ สภาสตรีแห่งชาติฯประจำปี ๒๕๖๒

นางสาวเบญจมาศ รุจิรวงศ์ ในฐานะ ประธานร้านเศรษฐกิจ สภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ประจำปี ๒๕๖๒ กล่าวว่าขอขอบคุณท่านประธานร่วมร้านเศรษฐกิจ สภาสตรีแห่งชาติประจำปี ๒๕๖๒ ประกอบด้วย นางจรรยาวรรณ สุวัณณาคาร นางเบญจมาศ ปริญญาพล นางทิพวรรณ กิตติสถาพร และที่ปรึกษาบุคคลสำคัญ ป้าครูจรรยา เฮงตระกูล นอกจากนี้ ขอขอบคุณคณะกรรมการร้านเศรษฐกิจ ที่สลับมาเข้าเวร ปฎิบัติหน้าที่ ประจำร้านเศรษฐกิจ ด้วยพลังเข้มแข็ง ประกอบด้วย นางพวงทอง อานันทนะสุวงศ์ นางมัจฉรี โอสถานนท์ นางอาภรณ์ ตุลารักษ์ นางมลีวัลย์ จริยากูล นางธาริกา มงคลสุข นางรำไพวรรณ์ หอมไกรลาศ นางยุพดี สัตตะรุจาวงษ์ นางณฐพร ชลายนนาวิน นางกิ่งแก้ว วงษ์สิงห์ นางพรทิพย์ ศรีเพียร นางประภา กิจจะนะ นางนภาสิริ ผาสุกวนิช ดร.สมใจ วิชัยดิษฐ ดร.เจริญศรี ท่วมสุข นางพัชนี เธียรธวัช นางศิริเพ็ญ วิจารณกุล นางเยาวมาลย์ วัชระเรืองศรี นางศรีนวล เสริมสุขสกุลชัย นางปภัสรินทร์ นันทสุรเศรษฐ์
นางสาวเบญจมาศ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอขอบคุณ ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ และ ท่านรชตภร โตดิลกเวชช์ ประธานคณะกรรมการบริหาร ที่ให้ความไว้วางใจทีมงานร้านเศรษฐกิจ และขอบคุณ คณะกรรมการอำนวยการ คณะกรรมการร้านกาชาดทุกฝ่าย องค์กรสมาชิกจากทั่วประเทศ และเครือข่าย ที่ให้การสนับสนุนมอบสินค้ามาจำหน่ายในร้านเศรษฐกิจ และขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่มาสนับสนุนสินค้าอีกด้วย นอกจากนี้ บรรยากาศในร้านกาชาดสภาสตรีแห่งชาติฯ อบอวลด้วยความรักความสามัคคี การแบ่งปัน ของคณะกรรมการทุกคน ช่วยกันจำหน่ายบัตรสอยกัลปพฤกษ์ ตุ๊กตาพวงกุญแจน่ารักซึ่งเป็นจุดเด่นของร้าน และยังเป็นจุดที่ประชาชนต้องมาเช็คอิน ถ่ายรูปที่ซุ้มตุ๊กตาสภาสตรีแห่งชาติ จึงเป็นความปลื้มปิติ ที่ได้มีส่วนร่วมมาทำงานทุกวัน ๑๐ วัน ๑๐ คืน อย่างมีความสุข ที่ร้านกาชาด สภาสตรีแห่งชาติฯ ประจำปี ๒๕๖๒ ภายใต้แนวคิด “เย็นศิระเพราะพระบริบาล เกิดสายธารการให้ที่งดงาม” ระหว่างวันที่ ๑๕ – ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ ระหว่างเวลา ๑๐.๐๐ -๒๒.๐๐ น. ณ สวนลุมพินีกรุงเทพฯ
นางสาวเบญจมาศ รุจิรวงศ์ กล่าวว่าในโอกาสนี้ ขอขอบคุณ
Krispy​ Kreme​ จากคุณอุษณีย์​ มหากิจศิริ
และขอบคุณ นมข้นหวานตรามะลิชนิดหลอด​ จากบริษัทอุตสาหกรรมนมไทย​ จำกัด​โดยคุณสุดถนอม​ กรรณสูต สนับสนุนสินค้า มาให้ร้านเศรษฐกิจ สภาสตรีแห่งชาติฯ จำหน่าย ในราคาพิเศษ เพื่อร่วมทำบุญกับร้านกาชาดสภาสตรีแห่งชาติฯ ประจำปี ๒๕๖๒



ฝ่ายประชาสัมพันธ์ คณะกรรมการบริหาร สภาสตรีแห่งชาติฯ

๒๙๙. นางนันทิยา วงศ์วานิชย์ นายกสมาคมสตรีจังหวัดแม่ฮ่องสอน (องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ)ร่วมมอบผ้าห่ม ยาสามัญประจำบ้าน และเลี้ยงอาหารกลางวัน แก่ราษฎรในพื้นที่อำเภอปางมะผ้าและอ.แม่ลาน้อย ตามโครงการปันน้ำใจเพื่อน้องผู้ด้อยโอกาส

วันที่ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ นางนันทิยา วงศ์วานิชย์ นายกสมาคมสตรีจังหวัดแม่ฮ่องสอน(องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติ) และ พลโทสุรพล ตาปนานนท์ ประธานกรรมการบริษัท ขนส่ง จำกัด พร้อมด้วย พร้อมด้วย นายเพียร ยงหนู ประธานที่ปรึกษาโครงการ ฯ นำคณะสมาชิก กลุ่มพิทักษ์ธรรม(พนักงานการไฟฟ้านครหลวง) และคณะจาก พนักงานการประปานครหลวง ร่วมกันมอบผ้าห่ม ยาสามัญประจำบ้าน และเลี้ยงอาหารกลางวัน แก่ราษฎรที่ยากไร้และประสบภัยหนาว ตามโครงการปันน้ำใจเพื่อน้องผู้ด้อยโอกาส มอบผ้าห่มจำนวน ๑,๒๐๐ ผืน ยาสามัญประจำบ้าน จำนวน ๑,๐๐๐ชุด โดยมีชาวบ้านมารอรับผ้าห่มในครั้งนี้จำนวนกว่า ๕๐๐ คน ณ บ้านห้วยห้อม หมู่ที่ 1 ต.ห้วยห้อม อำเภอแม่ลาน้อย จังหวัดแม่ฮ่องสอน
จากนั้น ในวันที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๖๒ นางนันทิยา วงศ์วานิชย์ นายกสมาคมสตรีจังหวัดแม่ฮ่องสอน พร้อมคณะ ฯ และพลโทสุรพล ตาปนานนท์ ประธานกรรมการบริษัท ขนส่ง จำกัด พร้อมด้วย เดินทางสู่บ้านบ่อไคร้ ต.ปางมะผ้า อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน มอบผ้าห่มจำนวน ๑,๐๐๐ ผืน พร้อมเลี้ยงอาหารกลางวัน แก่ราษฎรที่ยากไร้และประสบภัยหนาว แก่ชาวบ้านที่มารอรับผ้าห่มในครั้งนี้ จำนวนกว่า ๑,๐๐๐ คน เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น ตามโครงการปันน้ำใจเพื่อน้องผู้ด้อยโอกาส
ด้านนายวุฒิไกร ชูธรรมเจริญ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลห้วยห้อม ได้เป็นตัวแทนชาวบ้านกล่าวขอบคุณคณะ ฯสำหรับการแบ่งปันน้ำใจให้กับชาวบ้าน ราษฏรที่ยากไร้ในตำบลห้วยห้อม ในครั้งนี้ โดยทาง อบต.จะได้นำผ้าห่มและยาสามัญประจำบ้านที่ได้รับในครั้งนี้ นำไปแจกจ่ายราษฏรที่ประสบภัยหนาวและยากไร้ต่อไปเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นต่อไป
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ คณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติ

๒๙๘. สมาคมศิษย์เซนต์โยเซฟฯ สุดปลื้ม นำคณะกรรมการ สร้างสีสัน ปฎิบัติหน้าที่ในร้านกาชาดสภาสตรีแห่งชาติฯประจำปี ๒๕๖๒ ด้วยพลังเข้มแข็ง

ดร.กนกวรรณ ว่องวัฒนะสิน นายกสมาคมศิษย์เซนต์โยเซฟ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ นำคณะกรรมการสมาคมฯร่วมกิจกรรมปฎิบัติหน้าที่ในร้านกาชาดสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ วันศุกร์ที่ ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ ตั้งแต่ เวลา ๑๔.๐๐ น.-๑๘.๐๐ น. โดยมีรายนามคณะกรรมการสมาคมฯ ดังนี้
๑. คุณจิราภรณ์ เสาวลักษณ์
๒. คุณยุพดี สัตตะรุจาวงษ์
๓. คุณเมตตา ตันติสัจจธรรม
๔. คุณสิริกัญญา นภาพฤกษชาติ
๕. คุณภาภีม กฤษณามระ
๖. คุณอัญมณี รุ่งศรีทอง
๗. คุณอรนารถ เชิดบุญชาติ
๘. คุณวินรัตน์ สันธนะเกียรติ

ฝ่ายประชาสัมพันธ์ คณะกรรมการบริหาร
สภาสตรีแห่งชาติฯ

๒๙๗. ประธานสภาสตรีแห่งชาติฯ ปลุกชาวร้อยเอ็ด สนับสนุนสวมใส่ผ้าไทยทุกวัน ตามโครงการ “ สืบสาน อนุรักษ์ศิลป์ผ้าถิ่นไทย ดำรงไว้ในแผ่นดิน”

วันที่ ๒ ธันวาคม ๒๕๖๒ เวลา ๑๔.๐๐ น. ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ และนางรชตภร โตดิลกเวชช์ ประธานคณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ลงนาม บันทึกข้อตกลง(MOU) โครงการ “ สืบสาน อนุรักษ์ศิลป์ผ้าถิ่นไทย ดำรงไว้ในแผ่นดิน” กับ นายดำรงค์ สิริวิชย อิ่มวิเศษ รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ดปฏิบัติหน้าที่ผู้ว่าราชการ และนายโชคชัย แก้วป่อง รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ปฏิบัติราชการแทนอธิบดี กรมการพัฒนาชุมชน พร้อมด้วยนางนงรัตน์ คงเกษม ประธานแม่บ้านมหาดไทย/ นายกสมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิง ดร.เกรียงศักดิ์ ศรีสมบัติ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัย ราชภัฏร้อยเอ็ด นายมังกร ยนต์ตระกูล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด นายสมศักดิ์ เศษโฐประธานสันนิบาตเทศบาลจังหวัดร้อยเอ็ด นายบรรจง โฆษิตจิรนันท์ นายกเทศมนตรีเมืองร้อยเอ็ด นางจิราพร เกษมทรัพย์ ประธานชมรมนายกองค์การบริหารส่วนตำบล จังหวัดร้อยเอ็ด ดร.สถาพร มงคลศรีสวัสดิ์ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดร้อยเอ็ด นายธีระชัย แสนภูวา ท้องถิ่นจังหวัดร้อยเอ็ด นายอำนวย ระดาบุตร ประชาสัมพันธ์จังหวัดร้อยเอ็ด นางจวงจิรา สุริยวนากูล นายกสมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทยจังหวัดร้อยเอ็ด ดร.สุมาลัย ศิริพานิช ประธานหอการค้าจังหวัดร้อยเอ็ด นางสมปอง ว่องสัธนพงษ์ ประธานกรรมการพัฒนาสตรีจังหวัดร้อยเอ็ด นางรัชนี พลซื่อ หัวหน้าคณะทำงานขับเคลื่อนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจังหวัดร้อยเอ็ด นายเจนเจตน์ เจนนาวิน นายอำเภอเมืองร้อยเอ็ด นายธนิต พันธ์หินกอง นายอำเภอสุวรรณภูมิ นายอภัย วุฒิโสภากร นายอำเภอเสลภูมินายชรินทร์ ภู่ชัย นายอำเภอธวัชบุรี นายวัลลพ จินดาเงิน นายอำเภอโพนทองนายสุเทพ พิมพ์พิรัตน์ นายอำเภอพนมไพร นายณรงค์ศักดิ์ สบาย นายอำเภอเกษตรวิสัยนายเริงวิทย์ ถนอมแสง นายอำเภออาจสามารถ นายคงคา ชื่นจิต นายอำเภอปทุมรัตต์นายประพันธ์พงษ์ โสภารัตน์ ปลัดอำเภอ (เจ้าพนักงานปกครองชำนาญการพิเศษ) รักษาราชการแทนนายอำเภอจตุรพักตรพิมาน นายสมหวัง วงศ์คำ ปลัดอำเภอ (เจ้าพนักงานปกครองชำนาญการพิเศษ) รักษาราชการแทนนายอำเภอโพธิ์ชัย นายวิธรัช รามัญ นายอำเภอหนองพอก นางละอองเพชร พุฒิพัฒน์พาณิชย์ปลัดอำเภอ (เจ้าพนักงานปกครองชำนาญการพิเศษ) รักษาราชการแทนนายอำเภอศรีสมเด็จ ว่าที่ร้อยตรีอานพ ศรีบุญลือ นายอำเภอจังหาร นายเอกโอสถ รักเอียด นายอำเภอทุ่งเขาหลวง นายวิเชียร สุดาทิพย์ นายอำเภอเชียงขวัญ นายอภิชาติ อารีย์พัฒนไพบูลย์ นายอำเภอเมืองสรวง ว่าที่ร้อยตรีอดุลเดช หมี่นวิชาชัย ปลัดอำเภอ (เจ้าพนักงานปกครองชำนาญการพิเศษ) รักษาราชการแทนนายอำเภอโพนทราย นายวีระพงษ์ โคตรพงษ์ นายอำเภอเมยวดี ร้อยตำรวจเอกหญิง อรุณี อินทรมณี นายอำเภอหนองฮี นางสาวศันสนีย์ ทาสม ผู้ตรวจราชการกรมการพัฒนาชุมชน นางนวลจันทร์ ศรีมงคล หัวหน้ากลุ่มงานส่งเสริมการพัฒนาชุมชน รักษาราชการแทนพัฒนาการจังหวัดร้อยเอ็ด ร่วมลงนาม การรณรงค์ให้คนไทยทั้งประเทศร่วมมือร่วมใจกันใส่ผ้าทอไทย เพื่อช่วยกันสร้างความเข้มแข็งแก่เศรษฐกิจฐานราก ลดความเหลื่อมล้ำ กระจายรายได้ให้แก่ชุมชน รักษาเอกลัษณ์ทางวัฒนธรรม และรักษาภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยมีกลุ่มองค์กรสตรี กลุ่มอาชีพทอผ้า ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ของจังหวัดร้อยเอ็ด เข้าร่วมจำนวน ๔๐๐ คน ทั้งนี้ มีผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ประเภทผ้าเครื่องแต่งกาย ได้มาจัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ผ้าไหมอันลือชื่อของจังหวัดร้อยเอ็ด มากกว่า ๑๓ ราย เป็นการกระตุ้นให้เกิดการทอผ้า และสร้างรายได้ให้กับชุมชน โดยจัดกิจกรรม ณ ห้องประดับเพชร โรงแรมเพชรรัชต์การ์เด้นอำเภอเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด
ดร.วันดี กล่าวว่า ด้วยพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระพันปีหลวง ต่อปวงสตรีและปวงชนชาวไทย ที่ได้ทรงมีพระวิริยะ พระปรีชาชาญ พลิกฟื้นผ้าทอไทยทั้งผ้าไหม ผ้าฝ้าย ให้ผ้าไทยเป็นที่นิยมในสังคมจวบจนปัจจุบัน ได้สร้างงาน สร้างอาชีพทอผ้าแก่สตรีทั่วทุกภูมิภาค หากว่าคนไทยครึ่งประเทศ จำนวน 35 ล้านคน ได้ร่วมกันใส่ผ้าไทยทุกวัน เฉลี่ยซื้อผ้าไทยเพียง 10 เมตรต่อคน จะก่อให้เกิดความต้องการผ้าไทยถึง 350 ล้านเมตร ในราคาเมตรละ 300 บาท จะเกิดการซื้อขายกว่า 100,000 ล้านบาท เป็นการสร้างงาน สร้างความเข้มแข็งแก่เศรษฐกิจฐานราก ยกระดับคุณภาพชีวิตจากระดับครอบครัวถึงชุมชนอย่างยั่งยืน
ดร.วันดี ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการอนุรักษ์ รณรงค์การสวมใส่ผ้าไทยในทุกๆวันกับกรมการพัฒนาชุมชนและขยายผลไปยังทุกจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อกระตุ้นการใส่ผ้าไทยในทุกพื้นที่ เพื่อสร้างความเข้มแข็งแก่เศรษฐกิจครัวเรือนและชุมชน จะนำมาซึ่งความสามารถในการพึ่งตนเองและเป็นกำลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก เพื่อให้คนในจังหวัดร้อยเอ็ด มีคนที่สามารถทอผ้าได้เป็นจำนวนนับหมื่นคน ดังนั้นถ้าทุกคนได้ร่วมมือร่วมใจกันใส่ผ้าไทย แต่ละคนจะได้ซื้อผ้าไทย ส่งผลให้กลุ่มทอผ้าได้มีรายได้จากการทอผ้า ทำให้ครอบครัวอบอุ่น สร้างชุมชนเข้มแข็ง และพึ่งตนเองได้ อย่างยั่งยืน
นายดำรงค์ กล่าวแสดงเจตนารมณ์โครงการ สืบสาน อนุรักษ์ศิลป์ผ้าถิ่นไทย ดำรงไว้ในแผ่นดิน” ว่าจังหวัดร้อยเอ็ดมีประชากรกว่า ๑.๔ ล้านคน กว่า ๘๘% มีอาชีพเกษตรกร และพร้อมจะร่วมขับเคลื่อนการสวมใส่ผ้าไทยในทุกพื้นที่ และจะถือเป็นวาระสำคัญของจังหวัดอีกด้วย
นางนงรัตน์ กล่าวว่า จังหวัดร้อยเอ็ดมีการทอผ้าที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเองได้แก่ลายสาเกต ที่เป็นชื่อเดิมของเมืองร้อยเอ็ด และจะสนับสนุนการใส่ผ้าไทยและเผยแพร่ภูมิปัญญาการทอผ้าไทยที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของชาวร้อยเอ็ด
ในการนี้ มีนางนวลจันทร์ ศรีมงคล หัวหน้ากลุ่มงานส่งเสริมการพัฒนาชุมชน รักษาราชการแทนพัฒนาการจังหวัดร้อยเอ็ด หัวหน้าส่วนราชการ หัวหน้ากลุ่ม/หัวหน้าฝ่าย พัฒนาการอำเภอ และเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนจังหวัดร้อยเอ็ด ร่วมพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) โครงการ “สืบสานอนุรักษ์ศิลป์ผ้าถิ่นไทย ดำรงไว้ในแผ่นดิน” จังหวัดร้อยเอ็ด
จังหวัดร้อยเอ็ด เป็นดินแดนแห่งวัฒนธรรม เป็นแหล่งผลิตข้าวหอมมะลิ ขึ้นชื่อของประเทศไทย ในพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ และมีแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ได้แก่ พระมหาเจดีย์ชัยมงคล วัดเจดีย์ชัยมงคล อำเภอหนองพอก เจดีย์หินทราย มีบึงพลาญชัย สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ร้อยเอ็ด ที่ใหญ่สวยและสมบูรณ์ที่สุดของ ประเทศไทย อยู่ใจกลางเมืองร้อยเอ็ด และยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ เช่น ผาหมอกมิวาย จุดชมทิวทัศน์พระอาทิตย์ตกดินที่สวยงามน้าตกถ้ำโสดา มีผลิตภัณฑ์ และสินค้า OTOP โดดเด่นที่น่าสนใจ ได้แก่ ข้าวหอมมะลิ ผ้าไหมสาเกต ถั่วป่านทอง และอีกมากมาย นอกจากนี้ยังมีวัฒนธรรมประเพณีที่มีชื่อเสียง ได้แก่ ประเพณีสมมาน้ำ คืนเพ็งเส็งประทีป และประเพณีบุญผะเหวด โดยผ้าที่เป็นอัตลักษณ์ของจังหวัด คือ ผ้าสาเกต ผ้าไหมลายสาเกต หมายถึง ผ้าไหมที่ประกอบด้วยลายผ้าที่เป็นอัตลักษณ์ในการทอผ้าไหมของจังหวัดร้อยเอ็ดที่ได้นำเอาลายมัดหมี่พื้นบ้าน 5 ลายที่นิยมทอในกลุ่มชนที่อยู่ในเมืองร้อยเอ็ด มาทอต่อกันในผ้าผืนเดียวกันเปรียบเสมือนเป็นการหลอมรวมความสามัคคีของชาวร้อยเอ็ดให้เป็นหนึ่งเดียว โดยแต่ละลายจะทอคั่นด้วยผ้าสีพื้นสีดอกอินทนิลบก (สีชมพูอมม่วง) ซึ่งเป็นดอกไม้ประจำจังหวัดร้อยเอ็ด ลายมัดหมี่พื้นบ้าน 5 ลายที่ประกอบในผ้าสาเกต ได้แก่ ลายโคมเจ็ด ลายนาคน้อย ลายคองเอี้ย ลายหมากจับ ลายค้ำเพา ลวดลายทั้ง 5 ลายนี้ ได้นำมาประยุกต์ไว้ในผ้าผืนเดียวกันและได้มีการประกาศชื่อลายนี้คือ ลายสาเกต เป็นผ้าเอกลักษณ์ประจำจังหวัดร้อยเอ็ด มายาวนาน

ฝ่ายประชาสัมพันธ์คณะกรรมการบริหาร
สภาสตรีแห่งชาติฯ