๑๘๒. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานผ้าพระกฐินให้ สภาสมาคมสตรีแห่งชาติฯ ถวายผ้ากฐินพระราชทานประจำปี ๒๕๖๕ ณ วัดกลางมิ่งเมือง อ.เมืองร้อยเอ็ด จ.ร้อยเอ็ด

วันศุกร์ที่ ๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๕ เวลา ๑๐.๐๐ น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานผ้าพระกฐินให้ สภาสมาคมสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ ถวายผ้ากฐินพระราชทานประจำปี ๒๕๖๕ เพื่อน้อมนำมาถวายพระสงฆ์จำพรรษาการถ้วนไตรมาส ณ วัดกลางมิ่งเมือง อ.เมืองร้อยเอ็ด จ.ร้อยเอ็ด (พระอารามหลวง) และเพื่อเป็นการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา โดยมีพระครูกิตติคุณวัฒน์ เจ้าอาวาสวัดกลางมิ่งเมือง (พระอารามหลวง) เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นางสาวสุกัญญา ประจวบเหมาะ ประธานสภาสมาคมสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ เป็นประธานในพิธีถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน ประจำปี ๒๕๖๕ พร้อมด้วย นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ อุบาสก อุบาสิกา และพุทธศาสนิกชนชาวจังหวัดร้อยเอ็ด และคณะกรรมการอำนวยการ คณะกรรมการบริหาร องค์กรสมาชิก และสมาชิกสมทบ สภาสมาคมสตรีแห่งชาติฯเข้าร่วมพิธี ยอดทำบุญกฐินพระราชทาน รวมทั้งสิ้น จำนวน ๑,๗๗๗,๗๘๙ บาท (หนึ่งล้านห้าแสนเจ็ดหมื่นเจ็ดพันเจ็ดร้อยแปดสิบเก้าบาทถ้วน) ณ วัดกลางมิ่งเมือง(พระอารามหลวง) อ.เมืองร้อยเอ็ด จ.ร้อยเอ็ด

วัดกลางมิ่งเมือง เดิมชื่อวัดกลาง เนื่องจากตั้งอยู่ใจกลางเมืองร้อยเอ็ด บนถนนเจริญพาณิชย์ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด โดยเป็นวัดเก่าแก่ สันนิษฐานว่าสร้างก่อนตั้งเมืองร้อยเอ็ด ในขณะนั้นอยู่ในการปกครองของขอม เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูป "พระพุทธมิ่งเมืองมงคล” ประจำจังหวัดร้อยเอ็ด สร้างขึ้นในสมัยอยุธยา ๒๐๘๔ พระอุโบสถสร้างขึ้นต้น รัชกาลที่ ๓ เป็นศิลปะแบบล้านช้างขนาดใหญ่ที่สุดและแปลกที่สุด
ในสมัยของนายวิญญู อังคณารักษ์เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ดได้ขอพระราชทานยกวัดราษฎร์ขึ้นเป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ ตั้งแต่วันที่ ๒๖ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๐๘
ในอดีตเคยใช้วัดกลางมิ่งเมืองเป็นสถานที่ประกอบพิธีถือน้ำ พิพัฒน์สัตยา ส่วนในปัจจุบัน เป็นสถานที่ศึกษาปริยัติธรรมและสถานที่สอบธรรมสถานชื่อโรงเรียนสุนทรธรรมปริยัติ สังกัด สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โดยโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกธรรมและบาลี เปิดสอนเมื่อ พ.ศ.๒๔๑๓ และโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญ ฝึกสอนเมื่อ พ.ศ.๒๕๑๔

สถาปัตยกรรมอาคารภายในวัดมี อุโบสถที่สร้างในสมัยอยุธยาตอนปลาย กว้าง ๑๒.๕๐ เมตร ยาว ๒๐ เมตร บริเวณผนังรอบอุโบสถมีลวดลายภาพวาด แสดงถึงพุทธ ประวัติ สวยงาม และมีค่าทางศิลปะ โดยภายในพระอุโบสถแห่งนี้ ประดิษฐานปูชนียวัตถุ ซึ่งเป็นพระประธานในอุโบสถมีนามว่า พระพุทธมิ่งเมือง นอกจากนี้ก็ยังมีอาคารสถาปัตยกรรมอื่นๆภายในวัดอีก เช่น ศาลาการเปรียญ กว้าง ๑๕ เมตร ยาว ๒๗ เมตร เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๑ กุฏิสงฆ์จำนวน ๙ หลัง เป็นอาคารครึ่งตึกครึ่งไม้ ๒ หลัง และตึก ๗ หลัง และวิหารกว้าง ๖ เมตร ยาว ๓๕ เมตร สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๖เป็นอาคารคอนกรีต เป็นต้น



ข่าว : ฝ่ายประชาสัมพันธ์ สภาสมาคมสตรีแห่งชาติฯ

๑๘๐. ประธานสภาสมาคมสตรีแห่งชาติฯ นำคณะกรรมการ วางพวงมาลาถวายราชสักการะพระบรมราชานุสรณ์รัชกาลที่ ๕ เนื่องในวันปิยมหาราช วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ราชวรวิหาร

วันที ๒๓ ตุลาคม ๒๖๖๕ เวลา ๐๘.๐๐ น. ที่พระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ราชวรวิหาร นางสาวสุกัญญา ประจวบเหมาะ ประธานสภาสมาคมสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ และคณะกรรมการอำนวยการ คณะกรรมการบริหาร องค์กรสมาชิก พร้อมด้วยนางสาวเบญจมาศ รุจิรวงศ์ ประธานสมาชิกสมทบสภาสตรีแห่งชาติ และสมาชิกสมทบ วางพวงมาลาถวายราชสักการะพระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันปิยมหาราช ๒๓ ตุลาคม ๒๕๖๕ ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ


ฝ่ายประชาสัมพันธ์สภาสมาคมสตรีแห่งชาติฯ
ข่าว: ดร.อรุณศรี จงเจียมจิตต์

๑๗๙. ประธานสภาสมาคมสตรีแห่งชาติ ฯ เข้าร่วมพิธีบำเพ็ญกุศลเพื่ออุทิศให้แก่ หม่อมงามจิตต์ บุรฉัตร บุคคลสำคัญของโลก

วันอังคารที่ ๑๘ ตุลาคม ๒๕๖๕  เวลา ๑๐.๐๐ น. นางสาวสุกัญญา ประจวบเหมาะ ประธานสภาสมาคมสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ เข้าร่วมพิธีบำเพ็ญกุศลเพื่ออุทิศให้แก่ หม่อมงามจิตต์ บุรฉัตร บุคคลสำคัญของโลก ในวันคล้ายวันถึงอนิจกรรมของหม่อมงามจิตต์ฯ และเพื่อระลึกถึงคุณงามความดีและเผยแพร่เกียรติคุณผลงานของหม่อมงามจิตต์ฯ ที่มีต่อประเทศชาติและชาวโลก  โดย พระคุณเจ้า พระธรรมวชิรญาน ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสฯ กรุณารับเป็นประธานในพิธีสงฆ์ฯ ณ ที่ ห้องบำเพ็ญกุศลชั้น ๒ อาคารปิยะสมบัติกุล  เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร

เรียบเรียงข่าว : ฝ่ายประชาสัมพันธ์ สภาสมาคมสตรีแห่งชาติฯ
ข่าว : ดร.อรุณศรี จงเจียมจิตต์

๑๗๘. ประธานสภาสมาคมสตรีแห่งชาติฯ นำคณะกรรมการมอบมอบถุงยังชีพ ให้กับกลุ่มเปราะบาง และมอบวีลแชร์ให้กับผู้บกพร่องในการเคลื่อนไหว ณ ที่ว่าการอำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม และเยี่ยมชมกิจการของบริษัท เค พีฟู้ดส์ จำกัด เพื่อศึกษากิจกรรมให้โอกาสผู้ต้องขังเข้าทำงา

วันพุธที่ ๑๙ ตุลาคม ๒๕๖๕ เวลา ๐๙.๐๐ น. นางสาวสุกัญญา ประจวบเหมาะ ประธานสภาสมาคมสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ เป็นประธาน ในพิธีมอบถุงยังชีพ จำนวน ๓๐ ชุด ให้กับกลุ่มเปราะบางและมอบวีลแชร์ จำนวน ๘ คัน ให้กับผู้บกพร่องในการเคลื่อนไหว โดยมี นายอารุช เอมโอฐ นายอำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ให้การต้อนรับ และมี นางสาวศิริพร โรจนสุกาญจน พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครปฐม พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการอำเภอนครชัยศรี คณะกรรมการอำนวยการ คณะกรรมการบริหาร องค์กรสมาชิก สมาชิก และแขกผู้มีเกียรติ เข้าร่วมในพิธี ณ ที่ว่าการอำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม
นางสาวสุกัญญา กล่าวว่า “ด้วยสภาสมาคมสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ มีความห่วงใยจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด - 19 ซึ่งยังคงส่งผลกระทบในวงกว้าง รวมทั้งสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่หลายจังหวัดจึงมีความห่วงใยประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งได้รับความเดือดร้อนและความยากลำบากจากสถานการณ์ดังกล่าว โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางที่มีความเสี่ยงสูงที่กำลังประสบปัญหาเดือดร้อนและความยากลำบากจากการดำรงชีวิต จึงจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน วันนี้ สภาสมาคมสตรีแห่งชาติฯ จึงได้มามอบถุงยังชีพซึ่งเป็นของใช้จำเป็นในการดำรงชีวิต จำนวน ๓๐ ถุง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น และมอบรถเข็นนั่ง (วีลแชร์) ให้กับผู้บกพร่องในการเคลื่อนไหว จำนวน ๘ คัน ในพื้นที่อำเภอ นครชัยศรี จำนวน ๕ คัน และอีกจำนวน ๓ คัน จะนำไปมอบให้ช่วงบ่ายของวันนี้ ซึ่งสภาสมาคมสตรีแห่งชาติฯ จะมีมอบทุนการศึกษา โครงการ “๙๑๐ ทุนการศึกษาแก่นักเรียนที่ขาดแคลน” ครั้งที่ ๒ ให้เยาวชนในพื้นที่ภาคกลาง จำนวน ๗ จังหวัด จำนวน ๙๑ ทุนการศึกษา

จากนั้นในวันเดียวกัน (เวลา ๑๐.๓๐ น.) นางสาวสุกัญญา ประจวบเหมาะ ประธานสภาสมาคมสตรีแห่งชาติฯ นำคณะกรรมการฯ เดินทางไป เยี่ยมชมกิจการของบริษัท เค พีฟู้ดส์ จำกัด เพื่อศึกษากิจกรรมให้โอกาสผู้ต้องขังเข้าทำงาน โดยมี นางสาวขวัญจิตร ยั่งยืน กรรมการผู้จัดการ–บริษัท เคพีฟู้ดส์จำกัด และนางสาวณัฏฐ์ปภาณ จันทร์ละมูล กรรมการอำนวยการสภาสมาคมสตรีแห่งชาติฯ ประธานภาคกลางและตะวันออก และนายกสมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทย-นครปฐม (สธวท) และได้รับเกียรติจาก นายขวัญไชย สันติภราภพ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดนครปฐม ให้การต้อนรับ และนำเยี่ยมชมการฝึกทักษะวิชาชีพผู้ต้องขัง ในสถานประกอบการนอกเรือนจำ โดยบริษัท เคพีฟูดส์ จำกัด เปิดพื้นที่โรงงานใหม่ให้ผู้ต้องขังชั้นดีเข้าทำงาน เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้ต้องขัง มีโอกาสในการออกไปฝึกทักษะฝีมือแรงงานในโรงงานอุตสาหกรรมภายนอกเรือนจำ ได้เรียนรู้ และฝึกทักษะการทำงานจากการปฏิบัติงานจริง (On The Job Training) ทำให้เกิดความชำนาญ และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้จริงภายหลังพ้นโทษ เป็นการสร้างโอกาสและคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ผู้ต้องขัง โดยผ่านกระบวนการฝึกวิชาชีพ เพิ่มทักษะความรู้ ความเชี่ยวชาญให้เป็นที่ต้องการของตลาดแรงงาน หรือสามารถประกอบอาชีพอิสระได้ และสามารถกลับมาทำงานที่บริษัท เคพี ฟู้ดส์ หลังออกจากเรือนจำแล้ว โดยมีอาชีพที่รองรับการพ้นโทษรอในอนาคตหลังพ้นโทษ

ฝ่ายประชาสัมพันธ์สภาสมาคมสตรีแห่งชาติฯ
ข่าว : ดร.อรุณศรี จงเจียมจิตต์

๑๗๗. สภาสมาคมสตรีแห่งชาติฯ มอบทุนการศึกษา โครงการ “๙๑๐ ทุนการศึกษาแก่นักเรียนที่ขาดแคลน” ครั้งที่ ๒ ให้เยาวชนในพื้นที่ภาคกลาง ๗ จังหวัด จำนวน ๙๑ ทุนการศึกษา ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม จังหวัดนครปฐม

วันพุธที่ ๑๙ ตุลาคม ๒๕๖๕ เวลา ๑๓.๐๐ น. นางสาวสุกัญญา ประจวบเหมาะ ประธานสภาสมาคมสตรีแห่งชาติ ในบรมราชินูปถัมภ์ เป็นประธานในพิธีมอบทุนการศึกษา โครงการ “๙๑๐ ทุนการศึกษาแก่นักเรียนที่ขาดแคลน” ครั้งที่ ๒ ถวายเป็นพระราชกุศล สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๙๐ พรรษา ในพื้นที่ภาคกลาง จำนวน ๗ จังหวัด จำนวน ๙๑ ทุนการศึกษา เป็นเงินจำนวน ๒๗๓,๐๐๐ บาท ประกอบด้วยจังหวัดกาญจนบุรี นครปฐม เพชรบุรี ราชบุรี สมุทรสาคร สมุทรสงคราม และประจวบคีรีขันธ์ โดยนายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม มอบหมายให้นายชยชัย แสงอินทร์ รอง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม กล่าวให้การรับ และมีนายชัยยุธ มณีรัตน์ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม นายยงยุทธ สวนทอง ปลัดจังหวัดนครปฐม นางสาวศิริพร โรจนสุกาญจน พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครปฐมหัวหน้าส่วนราชการในจังหวัดนครปฐม และนางฐิตินันท์ เจริญอาจ รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครปฐม พร้อมด้วยคณะกรรมการอำนวยการ คณะกรรมการบริหาร องค์กรสมาชิก และสมาชิกสมทบ ภาคีเครือข่าย และผู้สนับสนุนทุนการศึกษาฯ และนายคงกระพัน เวฬุสาโรจน์ ศึกษาธิการจังหวัดนครปฐม เข้าร่วมในพิธี โดยมีนางสาวณัฏฐ์ปภาณ จันทร์ละมูล กรรมการอำนวยการสภาสมาคมสตรีแห่งชาติฯ ประธานภาคกลางและตะวันออก และนายกสมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทย-นครปฐม (สธวท) กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ ของโครงการฯ จากนั้น นางสาวสุกัญญา ประจวบเหมาะ ประธานสภาสมาคมสตรีแห่งชาติฯ และ นายชยชัย แสงอินทร์ รอง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐมและแขกผู้มีเกียรติ หัวหน้าส่วนราชการจังหวัดนครปฐม พร้อมด้วยผู้สนับสนุนทุนการศึกษาโครงการฯ และคณะกรรมการสภาสมาคมสตรีแห่งชาติฯ องค์กรสมาชิก ร่วมกันมอบทุนการศึกษาแก่นักเรียน จากนั้น ประธานสภาสมาคมสตรีแห่งชาติฯ กล่าวให้โอวาทแก่นักเรียนที่ได้รับทุนการศึกษาฯ โดยขอให้เด็กๆ ที่ได้รับทุนการศึกษาทุกคน ซึ่งเป็นทรัพยากรที่คุณค่ายิ่งของประเทศชาติ จงตั้งใจศึกษาเล่าเรียน หมั่นพัฒนาตนเองให้เป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถอยู่เสมอ เป็นเด็กดีของครอบครัว ของชุมชน และของประเทศชาติ และยึดมั่นในสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ณ ห้องประชุมปิ่นเกลียว อาคารศูนย์ภาษา ศูนย์คอมพิวเตอร์ และหอประชุม มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม จังหวัดนครปฐม
สภาสมาคมสตรีแห่งชาติฯ จัดทำ “โครงการ ๙๑๐ ทุนการศึกษาเพื่อนักเรียนที่ขาดแคลน” ถวายเป็นพระราชกุศล สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๙๐ พรรษา ด้วยเล็งเห็นความสำคัญของการมอบโอกาสทางการศึกษาอันเป็นรากฐานที่สำคัญในการพัฒนาเด็กและเยาวชน โดยได้รับเกียรติจากกระทรวงศึกษาธิการ เป็นผู้พิจารณา คัดเลือกเด็กนักเรียนในทุกภูมิภาคเข้ารับทุนการศึกษา ตามเป้าหมาย จำนวน ๙๑๐ ทุน ทุนละ ๓,๐๐๐ บาท ซึ่งก่อนหน้านี้ สภาสมาคมสตรีแห่งชาติฯ ได้ดำเนินการมอบทุน “โครงการ ๙๑๐ ทุนการศึกษา
เพื่อนักเรียนที่ขาดแคลน” ครั้งที่ ๑ ไปแล้ว ในพื้นที่ภาคกลาง จำนวน ๔๖ ทุน เป็นเงิน ๑๓๘,๐๐๐ บาท และจะดำเนินการมอบทุนการศึกษาให้ครบตามเป้าหมาย ของโครงการในพื้นที่ทุกภูมิภาค โดยเน้นที่กลุ่มเปราะบาง จากครอบครัวผู้มีรายได้น้อยและขาดแคลน

ในโอกาสนี้ นางสาวสุกัญญา ประจวบเหมาะ ประธานสภาสมาคมสตรีแห่งชาติฯ ได้ มอบรถเข็นวีลแชร์เพิ่มอีกจำนวน ๓ คันให้ เพื่อร่วมสนับสนุนโครงการ “รถเข็นนั่ง ปันสุข” จังหวัดนครปฐม เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๙๐ พรรษา ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๕ โดยนางฐิตินันท์ เจริญอาจ รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครปฐม เป็นผู้รับมอบ ซึ่งในเช้าของวันนี้ (วันพุธที่ ๑๙ ตุลาคม ๒๕๖๕ เวลา ๐๙.๐๐ น.) ประธานสภาสมาคมสตรีแห่งชาติฯ และคณะกรรมการอำนวยการ คณะกรรมการบริหาร พร้อมทั้งองค์กรสมาชิก และสมาชิกสมทบ ภาคีเครือข่าย ร่วมกันมอบถุงยังชีพ จำนวน ๓๐ ชุด ให้กับกลุ่มเปราะบาง และมอบวีลแชร์ให้กับผู้พิการ จำนวน ๕ คัน ณ ที่ว่าการอำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม อีกด้วย


ฝ่ายประชาสัมพันธ์ สภาสมาคมสตรีแห่งชาติฯ ๖/๒ บ้านพระกรุณานิวาสน์ เขตดุสิต กรุงเทพฯ ๑๐๓๐๐
โทรศัพท์ ๐ ๒๑๑๗ ๙๓๕๓ โทรสาร ๐ ๒๑๑๗ ๙๓๕๔ www.thaiwomen.or.th
ข่าว : ดร.อรุณศรี จงเจียมจิตต์

๑๗๖. ประธานสภาสมาคมสตรีแห่งชาติฯ นำคณะกรรมการและองค์กรสมาชิก ร่วมพิธีทำบุญ ตักบาตรเทโวโรหณะ เนื่องในเทศกาลออกพรรษา ณ ลานหน้าพระอุโบสถวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม

วันอังคาร ที่ ๑๑ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ เวลา ๐๗.๐๐ น. นางสาวสุกัญญา ประจวบเหมาะ ประธานสภาสมาคมสตรีแห่งชาติ นำคณะกรรมการและองค์กรสมาชิก พร้อมด้วยนางวิภาศิริ มะกรสาร ประธานคณะกรรมการฝ่ายศาสนา สภาสมาคมสตรีแห่งชาติฯ นำคณะกรรมการฝ่ายศาสนา เข้าร่วมพิธีทำบุญ ตักบาตรเทโวโรหณะ (ภิกษุสามเณร ๔๐ รูป) เนื่องในเทศกาลออกพรรษา ณ ลานหน้าพระอุโบสถวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม

การตักบาตรเทโวเป็นประเพณีที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน ตักบาตรเทโว หรือเรียกว่า การตักบาตรเทโวโรหณะ ซึ่งคำว่า "เทโว” ย่อมาจาก "เทโวโรหณะ” แปลว่า การเสด็จจากเทวโลก การตักบาตรเทโวจึงเป็นการระลึกถึงวันที่พระพุทธองค์เสด็จกลับจากการโปรดพระพุทธมารดาในเทวโลก ประเพณีการทำบุญกุศลเนื่องในวันออกพรรษานี้ ทุกวัดในประเทศไทย ก็จะมีการจดพิธีการตักบาตรเทโวนี้
ตักบาตรเทโว หรือตักบาตรเทโวโรหณะ เป็นวันที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงจากสวรรค์ ชั้นดาวดึงส์ในเวลาเช้าวันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๑ หลังจากที่พระองค์ทรงจำพรรษาที่นั้นเป็นเวลา ๓ เดือน ความสำคัญของวันเทโวโรหณะ เป็นวันที่มีการทำบุญตักบาตรที่พิเศษวันหนึ่ง กล่าวคือ ในพรรษาหนึ่งพระพุทธเจ้าได้เสด็จไปยังสวรรค์ชั้นดาวดึงส์แสดงพระอภิธรรมโปรด พระมารดา และทรงจำพรรษาที่นั้น พอออกพรรษาก็เสด็จลงจากเทวโลกนั้นมายังโลกมนุษย์ โดยเสด็จลงที่เมืองสังกัสส์ ใกล้เมืองพาราณสี ชาวบ้านชาวเมืองทราบข่าวก็พากันไปทำบุญตักบาตรพระพุทธองค์ที่นั้น และเป็นการรับเสด็จพระพุทธองค์ด้วย กล่าวกันว่า ในวันนี้ได้เกิดเหตุอัศจรรย์ คือ เทวดา มนุษย์ และสัตว์นรก ต่างมองเห็นซึ่งกันและกัน จึงเรียกวันนี้อีกชื่อหนึ่งว่า "วันพระเจ้าเปิดโลก” คือ เปิดให้เห็น กันทั้ง ๓ โลกนั้นเอง
การตักบาตรรับเสด็จพระพุทธเจ้าได้ปฏิบัติสืบเนื่อง ต่อกันมาเป็นประเพณี จนถึงเมืองไทย จึงเรียกประเพณีนี้ ว่า การตักบาตรเทโวโรหณะ เพื่อให้สะดวกในการสื่อความหมายนิยมสั้นๆ ว่า การตักบาตรเทโว ด้วยเหตุนี้ วันเทโวโรหณะจึงเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า วันตักบาตรเทโว และเมื่อถึงวันตักบาตรเทโว พุทธศาสนิกชนนิยมไปทำบุญตักบาตรกันที่วัด โดยแต่ละที่จะเตรียมของไปทำบุญ ในแบบที่อาจจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับที่วัดในแต่ละที่ เช่น เตรียมอาหารในตอนเช้า อาหารที่เตรียมเพื่อตักบาตรเป็นพิเศษในวันนี้ คือ ข้าวต้มมัด และข้าวต้มลูกโยน วัดบางวัดอาจจะจำลองสถานการณ์วันที่ พระพุทธเจ้าเสด็จลงจากเทวโลกชั้นดาวดึงส์ คือ ประชาชนจะนั่งหรือยืนสองฝั่งทางลงจากอุโบสถ หรือศาลา ให้พระสงฆ์เดินเข้าแถวเรียงลำดับรับบาตรตรงกลาง โดยมีมัคนายก เดินอัญเชิญพระพุทธรูปนำหน้าแถวพระสงฆ์ หลักจากตักบาตรแล้ว มีการอาราธนาศีล สมาทานศีล และรักษาศีล ฟังธรรมและทำสมาธิตามโอกาส เพื่อทำให้จิตใจบริสุทธิ์ผ่องใส แผ่เมตตา และกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้กับญาติ ผู้ล่วงลับ และสรรพสัตว์

ฝ่ายประชาสัมพันธ์สภาสมาคมสตรีแห่งชาติฯ
เรียบเรียงข่าว : ดร.อรุณศรี จงเจียมจิตต์

๑๗๕. สภาสมาคมสตรีแห่งชาติฯ ขอเชิญชวนองค์กรสมาชิก บุคคลและภาคีเครือข่าย เข้ารับสมัครบุคคลเข้ารับการสรรหาเป็น “ประธานกรรมการและกรรมการวินิจฉัยการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมระหว่างเพศ” ตั้งแต่บัดนี้ ไปจนถึงวันที่ ๓พฤศจิกายน ๒๕๖๕

ประกาศ กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว ขอประชาสัมพันธ์การรับสมัครบุคคลเข้ารับการสรรหาเป็น “ประธานกรรมการและกรรมการวินิจฉัยการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมระหว่างเพศ”
โดยรับสมัคร ประธานและกรรมการฯ ดังนี้
๑.ประธานกรรมการวินิจฉัยการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมระหว่างเพศ จำนวน ๑ คน
๒..กรรมการวินิจฉัยการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมระหว่างเพศ จำนวน ๑๐ คน
๒.๑ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการคุ้มครองผู้ถูกเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรม
หรือส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศ จำนวน 3 คน
๒.๒ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิทธิมนุษยชน จำนวน ๑ คน
๒.๓ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านนิติศาสตร์ จำนวน ๓ คน
๒.๔ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสังคมศาสตร์ จำนวน ๑ คน
๒.๕ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านจิตวิทยา จำนวน ๑ คน
๒.๖ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านแรงงาน จำนวน ๑ คน
โดยสามารถสมัครได้ ๓ ช่องทางดังนี้
๑.ยื่นใบสมัครด้วยตนเองได้ที่กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัวในวันและเวลาราชการ
๒.ยื่นใบสมัครทางไปรษณีย์
๓.ยื่นใบสมัครทางไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ ที่ genderact@dwf.go.th

โดยสามารถสมัครได้ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๕ ทั้งนี้ท่านสามารถสอบถามโดยตรงได้ที่
กองส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศ โทรศัพท์ - ๒๖๕๘ ๖๗๕๗ โทรสาร ๐ ๒๖๕๙ ๖๗๕๕
ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ genderact@dwf.go.th

เรียบเรียงข่าว : ฝ่ายประชาสัมพันธ์สภาสมาคมสตรีแห่งชาติฯ
ดร.อรุณศรี จงเจียมจิตต์


๑๗๔. สภาสมาคมสตรีแห่งชาติฯ ขอเชิญชวนองค์กรสมาชิก บุคคลและภาคีเครือข่าย สมัครหรือเสนอชื่อ เพื่อเข้ารับการคัดเลือกเป็นบุคคลและองค์กรที่มีผลงานดีเด่นด้านการส่งเสริม ปกป้องและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ประจำปี ๒๕๖๕ ตั้งแต่บัดนี้ไปจนถึงวันที่ ๑๗ ตุลาคม ๒๕๖๕

นางสาวสุกัญญา ประจวบเหมาะ ประธานสภาสมาคมสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมถ์ กล่าวว่า ด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (สำนักงาน กสม.) ขอความร่วมมือสภาสมาคมสตรีแห่งชาติฯ ประชาสัมพันธ์การเสนอชื่อบุคคลและองค์กรที่มีผลงานดีเด่นด้านการส่งเสริม ปกป้อง และคุ้มครองสิทธิมนุษยชน โดยจะมอบรางวัลบุคคลและองค์กรที่มีผลงานดีเด่นด้านการส่งเสริม ปกป้อง และคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ประจำปี ๒๕๖๕ เพื่อยกย่อง เชิดชู และประกาศเกียรติคุณบุคคลและองค์กรที่อุทิศตนปฏิบัติงานด้านสิทธิมนุษยชนให้สังคมได้รับรู้ ตลอดจนเผยแพร่ประวัติ ผลงานให้เป็นแบบอย่างและแรงบันดาลใจแก่บุคคลหรือองค์กรอื่นในสังคม รวมทั้งเพื่อรณรงค์ให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของสิทธิมนุษยชนเพิ่มขึ้น

สภาสมาคมสตรีแห่งชาติฯ จึงขอเชิญชวนบุคคลและองค์กร สมัครหรือเสนอชื่อบุคคล และองค์กร เข้ารับการคัดเลือกเป็นบุคคลและองค์กรที่มีผลงานดีเด่นด้านการส่งเสริม ปกป้องและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ประจำปี ๒๕๖๕ บุคคลและองค์กร ที่ได้รับการคัดเลือก จะได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณ พร้อมด้วยเงินรางวัล รางวัลละ ๒๕,๐๐๐ บาท โดยมีคุณสมบัติ ดังนี้
๑. มีผลงานดีเด่นด้านสิทธิมนุษยชนอย่างใดอย่างหนึ่ง ได้แก่ ผลงานในการส่งเสริม ปกป้อง และคุ้มครองสิทธิมนุษยชน มีความมุ่งมั่นในการทำงาน แม้ต้องเผชิญความเสี่ยง ความยากลำบาก และมีการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง มีการดำเนินงานดีเด่นเป็นรูปธรรม เป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการส่งเสริม ปกป้องและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนต่อชุมชน เป็นแบบอย่างที่ดีต่อบุคคลและองค์กรอื่นในสังคม การดำเนินงานส่งผลต่อภาพรวมของสังคม และสร้างองค์ความรู้ด้านสิทธิมนุษยชนแก่ชุมชนและสังคมอย่างต่อเนื่อง การดำเนินงานด้านการเคารพสิทธิมนุษยชนที่สอดคล้องกับการพัฒนาที่ยั่งยืน
๒. ไม่เคยมีประวัติการละเมิดสิทธิมนุษยชน
๓. ไม่เคยได้รับรางวัลนี้ของสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติมาก่อน

ทั้งนี้ สามารถสมัครหรือเสนอชื่อ ได้ตั้งแต่บัดนี้ไปจนถึงวันที่ ๑๗ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๕ โดยสมัครได้ด้วยตนเอง ที่ กลุ่มงานส่งเสริมสิทธิมนุษยชน สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ชั้น ๖ อาคารรัฐประศาสนภักดี แจ้งวัฒนะ หลักสี่ กรุงเทพฯ หรือ ส่งทางไปรษณีย์ จ่าหน้าซองถึง กลุ่มงานส่งเสริมสิทธิมนุษยชน สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ชั้น ๖ อาคารรัฐประศาสนภักดี แจ้งวัฒนะ หลักสี่ กรุงเทพฯ ๑๐๒๑๐ ( สมัคร/เสนอชื่อบุคคลหรือองค์กรดีเด่น) ถือวันและเวลาต้นทางประทับตราจดหมายเป็นวันที่รับสมัคร และสมัครทางอีเมล์ hrpro62@hotmail.com โดยจัดทำเป็นเอกสาร PDF ภายในเวลา ๒๔.๐๐ น.. ของวันที่ ๑๗ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๕

เรียบเรียงข่าว : ฝ่ายประชาสัมพันธ์สภาสมาคมสตรีแห่งชาติฯ
ดร.อรุณศรี จงเจียมจิตต์