๙๓๘. นายกสมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ นำคณะกรรมการสมาคม และสมาชิก ตลอดจนภาคีเครือข่าย เข่าร่วมทำบุญตัก โดยมี ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นประธานในพิธี เนื่องในโอกาสวันมาฆบูชา

วันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ เวลา ๘.๓๐น. ที่วัดสมานรัตนาราม อำเมือง ฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา.นายไมตรี ไตรติลานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมด้วย นางจันทรรัตน์ ไตรติลานันท์ นายกสมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ นำคณะกรรมการสมาคมและสมาชิกสมาคมร่วมทำบุญตักบาตรข้าวสาร อาหารแห้ง เนื่องในวันมาฆบูชา โดยมี หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำชุมชน และ พ่อค้าประชาชน เข้าร่วมทำบุญตักบาตร เพื่อสนับสนุนส่งเสริมกิจกรรมในวันสำคัญทางศาสนา โดยกำหนดการปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-๑๙
วันมาฆบูชาเป็นวันสำคัญยิ่งทางพระพุทธศาสนา เพราะเป็นวันที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงโอวาทปาติโมกข์แก่บรรดาพระอรหันต์ จำนวน ๑,๒๕๐ รูป ตรงกับวันเพ็ญ เดือน ๓ โอวาทปาติโมกข์ที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ได้แก่ การไม่ทำบาปทั้งปวง การทำความดีให้ถึงพร้อม และการทำจิตใจให้บริสุทธิ์ หลักธรรมคำสอนดังกล่าว ถือว่าเป็นหัวใจสำคัญของพระพุทธศาสนา จึงเป็นการสมควรอย่างยิ่งที่พุทธศาสนิกชนได้รำลึกถึงพระคุณของพระองค์ ด้วยการสวดมนต์ รักษาศีลและเจริญจิตภาวนา ศึกษาหลักธรรมและปฏิบัติกิจกรรมถวายเป็นพุทธบูชา เพื่อขัดเกลาจิตใจให้เป็นบุคคลที่มีคุณธรรม จริยธรรม สามารถอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข


รายงานข่าว : สมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา

รายงานข่าว :
เรียบเรียงข่าว : ฝ่ายประชาสัมพันธ์ คณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติฯ

๙๓๗. สมาคมศิษย์เก่าอัสสัมชัญศึกษา องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ แสดงกตเวทิตาคุณ ระดมกองทุนมุทิตาจิตคุณครูอาวุโส ประจำปี ๒๕๖๔ โดยโอนเงินผ่านบัญชี มอบเงินจำนวน ๖๐๐,๐๐๐ บาท ให้คุณครูอาวุโส จำนวน ๑๐๒ ท่าน ช่วยเหลือในช่วงสถานการณ์โควิด-๑๙

วันที่ ๒๘ สิงหาคม ๒๕๖๕ เวลา ๑๐.๐๐ น ที่สมาคมศิษย์เก่าอัสสัมชัญศึกษา นางสาวลัดดา วงศ์บุญสิน นายกสมาคมศิษย์เก่าอัสสัมชัญศึกษา พร้อมด้วยกรรมการสมาคมฯ เปิดโอกาสให้ศิษย์เก่าอัสสัมชัญศึกษา และสมาชิกสมาคมฯได้มีส่วนร่วมแสดงกตเวทิตาคุณ ระดมกองทุนจัดมุทิตาจิตคุณครูอาวุโส ประจำปี ๒๕๖๔ มอบให้สมาคมฯดำเนินการโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารมอบเงินจำนวน ๖๐๐,๐๐๐ บาท ให้คุณครูอาวุโส อายุ ตั้งแต่ ๖๐ ปี ถึง ๙๖ ปี จำนวน ๑๐๒ ท่าน( เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-๑๙ จึงไม่สามารถจัดงานมุทิตาจิตคุณครูอาวุโส ประจำปี ๒๕๖๔ ได้ )และคณะกรรมการสมาคมฯ ได้เก็บอีกส่วนหนึ่ง ไว้เป็นค่าช่วยเหลือคุณครูอาวุโสที่เจ็บป่วย รวมถึงร่วมงานสวดอภิธรรมศพคุณครูอาวุโสที่เสียชีวิต เพื่อน้อมระลึกถึงพระคุณครู ที่เคยอบรมสั่งสอนประสิทธิประสาทความรู้แก่ตน

นางสาวลัดดา วงศ์บุญสิน กล่าวว่า “สมาคมศิษย์เก่าอัสสัมชัญศึกษา ได้จัดงานจัดมุทิตาจิตคุณครูอาวุโส เป็นประจำทุกปี เพื่อน้อมระลึกถึงพระคุณครู โดยเปิดโอกาสให้ศิษย์เก่าได้มีส่วนร่วมแสดงกตเวทิตาคุณด้วยการระดมทุนกรรมการสมาคม สมาชิก และศิษย์เก่าอัสสัมชัญศึกษา จัดตั้งเป็น " กองทุนสมาคมศิษย์เก่าอัสสัมชัญศึกษา” สำหรับใช้ในการดูแลครูอาจารย์สูงอายุหลังเกษียณ โดยจัดโครงการเดินทางเยี่ยมคุณครูอาวุโส และช่วยเหลือคุณครูอาวุโสที่เจ็บป่วย รวมถึงร่วมงานสวดอภิธรรมศพคุณครูอาวุโสที่เสียชีวิต
สำหรับ ในปี ๒๕๖๔ เนื่องจากสถานการณ์โควิด-๑๙ แพร่ระบาด สมาคมฯจึงไม่สามารถจัดงานมุทิตาจิตได้ จึงมีโครงการเชิญชวนให้ ศิษย์เก่าอัสสัมชัญศึกษา ส่งกำลังใจให้คุณครูอาวุโส ด้วยการโอนเงินผ่านบัญชี กิจกรรมสาธารณะประโยชน์ สมาคมศิษย์เก่าอัสสัมชัญศึกษา เพื่อเป็นกำลังใจให้กับคุณครูอาวุโส โดยทางสมาคมฯ ได้ทำการรวบรวม และ จัดสรรให้คุณครูอาวุโสทุกท่าน เป็น จำนวนทั้งหมด ๑๐๒ ท่าน ตามรายละเอียดที่แจ้งไปแล้ว” นางสาวลัดดา วงศ์บุญสิน กล่าวทิ้งท้าย

รายงานข่าว : สมาคมศิษย์เก่าอัสสัมชัญศึกษา องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ
เรียบเรียงข่าว : ฝ่ายประชาสัมพันธ์ คณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติฯ

๙๓๖.สมาคมสตรีนครเชียงใหม่ องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ ร่วมกับเหล่ากาชาดและภาคีเครือข่ายในจังหวัดเชียงใหม่มอบทุนการศึกษาให้บุตรข้าราชการ เจ้าหน้าที่และสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน จำนวน ๑๒๐ ทุนทุนละ ๒,๐๐๐ บาท เป็นเงิน ๒๔๐,๐๐๐บาท สร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้เยาวชน

วันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ เวลา ๐๙.๐๐ น. ที่บริเวณลานหน้ากองร้อยอาสารักษาดินแดน จังหวัดเชียงใหม่ ที่ ๑ นางสาววรัญญา เลิศวรกิจพิพัฒน์ นายกสมาคมสตรีนครเชียงใหม่องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ กรรมการอำนวยการสภาสตรีแห่งชาติฯ นำคณะกรรมการและสมาชิกสมาคมฯ เข้าร่วมงานวันคล้ายวันสถาปนากองอาสารักษาดินแดน ครอบรอบ ๖๘ ปี โดยมีนายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้บังคับการกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานในพิธี ทั้งนี้นางสาววรัญญา เลิศวรกิจพิพัฒน์ นายกสมาคมสตรีนครเชียงใหม่ ได้ร่วมกับ มมท.ชม. เหล่ากาชาดจังหวัดเชียงใหม่ และหน่วยงานต่างๆ ในจังหวัดเชียงใหม่ มอบทุนการศึกษาจำนวน ๑๒๐ ทุน ทุนละ ๒,๐๐๐ บาท เป็นเงิน ๒๔๐,๐๐๐บาท เพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสทางการศึกษาให้แก่เด็กและเยาวชน อีกทั้งเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับสมาชิก และครอบครัวของกองอาสารักษาดินแดน
นางสาววรัญญา เลิศวรกิจพิพัฒน์ กล่าวว่า “เนื่องจากวิกฤตการณ์โควิด-๑๙ ได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อธุรกิจเกือบทุกภาคส่วน สมาคมสตรีนครเชียงใหม่ ยังคงเดินหน้าสนับสนุนการศึกษาให้เยาวชนอย่างต่อเนื่อง เพราะมองว่าการให้โอกาสทางการศึกษา เป็นการส่งเสริมช่วยเหลืออย่างยั่งยืนให้กับเยาวชนและครอบครัว จึงร่วมกับ มมท.ชม. เหล่ากาชาดจังหวัดเชียงใหม่ และหน่วยงานต่างๆ ในจังหวัดเชียงใหม่ มอบทุนการศึกษา ให้กับบุตรหลานให้แก่บุตรของข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน เพื่อเยาวชนเติบโตอย่างมีคุณภาพ โดยเฉพาะด้านการศึกษา และอยากเห็นน้อง ๆ มีการศึกษาที่ดี มีอนาคตที่ดี สามารถนำความรู้มาพัฒนาชุมชนบ้านเมืองในเชียงใหม่ และประเทศชาติให้เจริญรุ่งเรืองสืบไป” นางสาววรัญญา กล่าวทิ้งท้าย

รายงานข่าว : สมาคมสตรีนครเชียงใหม่
เรียบเรียงข่าว : ฝ่ายประชาสัมพันธ์ คณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติฯ

๙๓๕. สภาสตรีแห่งชาติฯ มอบกระเช้าดอกไม้ร่วมเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสครบรอบ ๘๐ ปี วันเกิดของท่านคิมจองอิล อดีตผู้นำที่ยิ่งใหญ่ บิดาของท่านคิมจองอึน ผู้นำคนปัจจุบันของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี (เกาหลีเหนือ)

วันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ เวลา ๑๐.๐๐ น. ดร.วันดี กุญชรยาคงจุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ มอบหมายให้ นางศิริรัตน์ ธํารงธีระกุล กรรมการอำนวยการ และ ประธานฝ่ายวิเทศสัมพันธ์ สภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ เข้าพบ นายคิม เช พง (H.E. Mr. Kim Je Bong) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี (เกาหลีเหนือ) ประจำประเทศไทย เพื่อ มอบกระเช้าดอกไม้ ในนามสภาสตรีแห่งชาติฯ ร่วมเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาส ครบรอบ 80 ปีของท่าน คิม จอง อิล อดีตผู้นำที่ยิ่งใหญ่ บิดาของท่านคิมจองอึน ผู้นำคนปัจจุบัน ณ สถานฑูตสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี (เกาหลีเหนือ) ประจำประเทศไทย


เรียบเรียงข่าว : ฝ่ายประชาสัมพันธ์ คณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติฯ

๙๓๔. สมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทย-ปทุมนนท์ องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ เดินหน้าโครงการ “สธวท.-ปทุมนนท์ ปันน้ำใจ ร่วมสู้ภัย โควิด ๑๙”มอบข้าวสาร ๑,๐๐๐ กิโล และสิ่งของจำเป็นป้องกันภัยโควิด ๑๙ จำนวน ๒๖,๐๐๐ บาทให้บ้านราชาวดีหญิงจังหวัดนนทบุรี

วันที่ ๒๖ สิงหาคม ๒๕๖๔ เวลา ๑๑.๐๐ น.ที่บ้านราชาวดีหญิงจังหวัดนนทบุรี นาง สุกัญญา นิยมมาลัย นายกสมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทย-ปทุมนนท์ พร้อมที่ปรึกษาสมาคมฯ นางเบญจมาศ ชาญประดิษฐ์ และคณะกรรมการ เดินหน้ารวมพลังทำความดีต่อเนื่อง ตามโครงการ “สธวท.-ปทุมนนท์ ปันน้ำใจ ร่วมสู้ภัย โควิด ๑๙” โดยมอบ ข้าวสารจำนวน ๑,๐๐๐ กิโล และแมสหน้ากากอนามัย เจลล้างมือ แว่นตาเฟซชิว รวมมูลค่าเป็นเงินจำนวน ๒๖,๐๐๐ บาท ให้กับบ้านราชาวดีหญิงจังหวัดนนทบุรี โดยมี ประธานมูลนิธิ นางศิริรัตน์ อายุวัฒน์ และคณะกรรมการมูลนิธิ เป็นผู้รับมอบ เพื่อนำไปมอบและแจกจ่ายให้ สมาชิกหญิงบ้านราชาวดีต่อไป



รายงานข่าว : สมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทย-ปทุมนนท์
องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ
เรียบเรียงข่าว : ฝ่ายประชาสัมพันธ์ คณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติฯ

๙๓๓. สมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทย-ปทุมนนท์ องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ เดินหน้า โครงการ “สธวท.-ปทุมนนท์ ปันน้ำใจ ร่วมสู้ภัย โควิด ๑๙”มอบอาหารกล่อง เครื่องดื่ม จำนวน ๒๐,๐๐๐ บาท ให้บุคลากรทางการแพทย์ .โรงพยาบาลทรวงอกจังหวัดนนทบุรี

วันที่ ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔ เวลา ๐๙.๐๐ น. ที่โรงพยาบาลทรวงอก จังหวัดนนทบุรี นางสุกัญญา นิยมมาลัย นายกสมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทย-ปทุมนนท์ พร้อมด้วยคณะที่ปรึกษาของสมาคมประกอบด้วย นางเบญจมาศ ชาญประดิษฐ์ นางละออ ตั้งคารวคุณ นางประเทือง คูสกุล และคณะกรรมการ รวมพลังทำความดี อาหารกล่องจากใจ ตามโครงการ “สธวท.-ปทุมนนท์ ปันน้ำใจ ร่วมสู้ภัยโควิด-19 “ มอบอาหารกล่อง จำนวน ๒๐๐ กล่อง และเครื่องดื่ม กาแฟ -ชา นมเย็น จำนวน ๒๐๐ ถ้วย รวมมูลค่าเป็นเงินจำนวน ๒๐,๐๐๐ บาท เพื่อเป็นขวัญและ กำลังใจให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่ รวมถึงจิตอาสาที่ปฎิบัติหน้าที่ดูแลป้องกัน โควิด ๑๙


รายงานข่าว : สมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทย-ปทุมนนท์
องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ
เรียบเรียงข่าว : ฝ่ายประชาสัมพันธ์ คณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติฯ

๙๓๒. สมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทย-ปทุมนนท์ องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ จัดทำโครงการ “สธวท.-ปทุมนนท์ ปันน้ำใจ ร่วมสู้ภัย โควิด ๑๙” มอบ อุปกรณ์ป้องกันการแพทย์ มูลค่า ๔๐,๐๐๐ บาท ให้คณะแพทย์ศาสตร์ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ

วันที่ ๑๖ กรกฏาคม ๒๕๖๔ เวลา ๑๐.๐๐ น.ที่คณะแพทย์ศาสตร์ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ นางสุกัญญา นิยมมาลัย นายกสมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทย-ปทุมนนท์ พร้อมด้วยคณะที่ปรึกษาของสมาคมประกอบด้วย นางรัชนี วัชรีย์วงศ์ ณ อยุธยา นางเบญจมาศ ชาญประดิษฐ์ นางละออ ตั้งคารวคุณ นางประเทือง คูสกุล นางศรีสะอาด ชั้นสามารถ และคณะกรรมการ เดินทางไปมอบอุปกรณ์ป้องกันการแพทย์ ประกอบด้วยหน้ากากอนามัย แว่นตาเฟซชิว ชุดขาตั้งเครื่องวัดอุณหภูมิ และเครื่องพ่นแอลกอฮอล์ ตามโครงการ “สทวธ.-ปทุมนนท์ ปันน้ำใจ ร่วมสู้ภัย โควิด ๑๙” มูลค่า ๔๐,๐๐๐บาท โดยมี รศ.นพ. ดิลก ภิยโยทัย คณบดีคณะแพทย์ศาสตร์ ให้เกียรติเป็นผู้รับมอบ เพื่อนำไปแจกจ่ายให้บุคลากรทางการแพทย์และผู้ที่เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ต่อไป

รายงานข่าว : สมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทย-ปทุมนนท์
องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ
เรียบเรียงข่าว : ฝ่ายประชาสัมพันธ์ คณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติฯ

๙๓๑. สมาคมกองทุนสวัสดิการเพื่อสตรี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สมาคมสตรีศรีอยุธยา องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ นำคณะกรรมการ และสมาชิก ภาคีเครือข่าย ร่วมปฎิบัติธรรม และ มอบเงิน จำนวน ๑๐,๐๐๐ บาท สนับสนุนการจัดปฏิบัติธรรม เนื่องในวันมาฆบูชา ประจำปี ๒๕๖๕

วันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ เวลา ๑๐.๐๐ น.ที่ศาลามหาสติปัฏฐาน อุทยานพุทธธรรมสิกขา กรมยุทธศึกษาทหารบก นางพรทิพย์ ตั้งกีรติ นายกสมาคมกองทุนสวัสดิการเพื่อสตรี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นางมุกดา ธิษณ์ธนาการ นายกสมาคมสตรี มอบเงินศรีอยุธยา มอบเงิน จำนวน ๑๐,๐๐๐ บาท (หนึ่งหมื่นบาทถ้วน) เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติธรรม โดยมี พล.ต.ดิเรก ดีประเสริฐ รองเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก เป็นผู้รับมอบ และ เป็นประธานพิธีเปิดกิจกรรมการปฏิบัติธรรม เนื่องในวันมาฆบูชา ประจำปี ๒๕๖๕ และมีผู้เข้าร่วมปฏิบัติธรรม จากหลายภาคส่วน ทั้งส่วนข้าราชการทหาร พลเรือน และภาคเอกชน สมาคมกองทุนสวัสดิการเพื่อสตรี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สมาคมสตรีศรีอยุธยา องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯเข้าร่วมปฏิบัติธรรมจำนวน ๒ คืน ๓ วัน ตั้งแต่วันที่ ๑๔ - ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ ณ ศาลามหาสติปัฏฐาน อุทยานพุทธธรรมสิกขา ยศ.ทบ.

รายงานข่าว : สมาคมกองทุนสวัสดิการเพื่อสตรี จังหวัดพระนครศรีอยุธยาการ นายกสมาคมสตรีศรีอยุธยา
เรียบเรียงข่าว : ฝ่ายประชาสัมพันธ์คณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติฯ

๙๓๐. สภาสตรีแห่งชาติฯเข้าร่วมพิธีมอบรางวัลแก่เด็กและเยาวชนดีเด่น เด็กและเยาวชนที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติประจำปี ๒๘๖๕ ณ หอประชุมคุรุสภา กระทรวงศึกษาธิการ

วันจันทร์ที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ เวลา ๐๙.๐๐ น. ที่ หอประชุมคุรุสภา กระทรวงศึกษาธิการ ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติ มอบหมายให้ นางศรีวรรณ สายฟ้า รองประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ เป็นผู้แทนเข้าร่วมพิธีมอบรางวัลแก่เด็กและเยาวชนดีเด่น เด็กและเยาวชนที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติประจำปี ๒๘๖๕ โดยมี นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เป็นประธานพิธีมอบโล่รางวัลแก่เด็กและเยาวชนดีเด่น เด็กและเยาวชนนำชื่อเสียงมาสู่ประเทศ ประจำปี ๒๕๖๕ ในส่วนกลางจำนวน ๑๙๕ คน ณ ห้องประชุมบุณยเกตุ หอประชุมคุรุสภา กระทรวงศึกษาธิการ และสำหรับเด็กและเยาวชนดีเด่นนำชื่อเสียงมาสู่ประเทศ ในส่วนภูมิภาค ได้มอบหมายสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดจัดกิจกรรมการมอบโล่รางวัล โดยเรียนเชิญผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นผู้มอบ เพื่อลดการเดินทางลดการแออัด ทั้งนี้ ในการจัดกิจกรรมดังกล่าวให้เป็นไปตามมาตรการและข้อกำหนดของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดแต่ละพื้นที่
สำหรับในส่วนสภาสตรีแห่งชาติฯเยาวชนไทยดีเด่นที่ได้ผ่านการคัดเลือก จำนวน ๑๖ คน ในวันนี้ ได้นำเด็ก ในส่วนกลาง จำนวน ๓ คน ส่วนอีก ๑๓ คน อยู่ในพื้นที่ ส่วนภูมิภาคกระทรวงศึกษาธิการได้มอบหมายให้สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดจัดกิจกรรมการมอบโล่รางวัล โดยเรียนเชิญผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นผู้มอบให้เด็กและเยาวชนที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ เพื่อส่งเสริมสนับสนุนให้เด็กและเยาวชนได้ทำความดีในด้านต่างๆ เป็นแบบอย่างที่ดีแก่เด็กและเยาวชนในอนาคต เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ กระตุ้นให้เด็กและเยาวชนตระหนักถึงบทบาทของตนตลอดจนปลูกฝังให้เยาวชนมีส่วนร่วมในสังคม มีความสามัคคี เป็นกำลังสำคัญของชาติสืบไป

เรียบเรียงข่าว : ฝ่ายประชาสัมพันธ์คณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติฯ



๙๒๙. "เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ" ทรงถ่ายทอดองค์ความรู้เรื่องการพัฒนาผ้าไทยจากสีย้อมธรรมชาติเพื่อความยั่งยืน ในงานเสวนาวิชาการ "การส่งเสริมและพัฒนาภาพลักษณ์ผ้าไทยสู่สากล" ที่จังหวัดมหาสารคาม

วันที่ ๒๙ มกราคม ๒๕๖๕ ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม อ.เมืองมหาสารคาม จ.มหาสารคาม สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จเป็นองค์ประธานงานเสวนาวิชาการ “หนังสือแนวโน้มและทิศทางผ้าไทยและเครื่องแต่งกายด้วยผ้าไทยเล่มที่ ๒ (Thai Textiles Trendbook Autumn/Winter 2022-2023)” โดยมี นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์และนายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย นายสมคิด จันทมฤก อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายชาย นครชัย อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศศิธร จันทมฤก ประธานชมรมแม่บ้านพัฒนาชุมชน นายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม นางพรศรี ตรงศิริ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดมหาสารคาม รองศาสตราจารย์ ดร.ประกาศ ศรีวิไล อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ข้าราชการ นิสิต กลุ่มทอผ้า และประชาชน เฝ้ารับเสด็จ

โอกาสนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงบรรยายในหัวข้อ “การส่งเสริมการพัฒนาภาพลักษณ์ผ้าไทยสู่สากล” โดยมี นายกุลวิทย์ เลาสุขศรี บรรณาธิการบริหารนิตยสารโว้ก ประเทศไทย (VOGUE THAILAND) และนายวิชระวิชญ์ อัครสันติสุข ดีไซเนอร์ชื่อดังเจ้าของแบรนด์wishrawish ผู้สนองงานผ้าไทยใส่ให้สนุกร่วมบรรยาย

จากนั้น เสด็จทอดพระเนตรนิทรรศการและการแสดงผลิตภัณฑ์ผ้าไทยและงานหัตกรรมชุมชนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตามโครงการยกระดับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ภูมิปัญญาผ้าไทยและงานหัตถกรรมชุมชนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อสืบสาน รักษา และต่อยอด พระบรมราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในด้านการรักษาสมบัติทางวัฒนธรรม โดยเฉพาะศิลปหัตถกรรมทอผ้าในแต่ละท้องถิ่น อนุรักษ์ ฟื้นฟู ศิลปวัฒนธรรม ภูมิปัญญาหัตถกรรมไทย ให้ดำรงอยู่ยั่งยืนตลอดไป

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงมีพระดำรัสในงานเสวนาวิชาการ หัวข้อ “การส่งเสริมและพัฒนาภาพลักษณ์ผ้าไทยสู่สากล” เกี่ยวกับเทรนด์บุ๊กเล่มที่ ๒ “Thai Textiles Trend Book Autunm/Winter 2022-2023” ที่นำเสนอกลุ่มโทนสีใน 6 ทิศทางหลัก ซึ่งใช้เป็นแนวทางในการผลิตและพัฒนาผ้าไทยในตลาดยุคปัจจุบัน มีใจความสำคัญโดยสรุปว่า เล่มแรกได้แนะนำเรื่องลวดลายผ้าเป็นหลัก สำหรับเล่มที่ ๒ คอลเล็กชั่น Autumn / Winter 2022-2023 หรือเสื้อผ้าสำหรับฤดูหนาวนี้ เน้นนำเสนอเกี่ยวกับโทนสีและใช้วัสดุย้อมสีจากธรรมชาติ ลดการใช้สีเคมีดีต่อคนและสิ่งแวดล้อม ด้วยวัสดุย้อมสีที่มีในท้องถิ่น โดยเฉพาะคราม ซึ่งเป็นสีย้อมเย็นที่ทั่วโลกใช้อย่างแพร่หลาย เมื่อนำไปผสมผสานกับวัสดุย้อมธรรมชาติต่างๆ เช่น ครั่ง เข ดาวเรือง ประดู่ เปลือกมะพร้าว แก่นขนุน จะได้เฉดสีที่หลากหลาย จำแนกเป็นกลุ่มโทนสี ๖ ทิศทาง ไม่ว่าจะเป็นม่วงแดง น้ำเงินเข้ม เขียว น้ำตาล เหลือง และเทา แล้วกำหนดเป็นสูตรเบอร์สีที่ตรงกับสากล ใช้ทดแทนสีเคมีได้ ซึ่งรวบรวมไว้อย่างพร้อมสรรพในเล่มนี้
นอกจากนี้ ภายในเล่มยังแนะนำ 6 เทคนิคพื้นฐานการผลิตผ้าไทย ได้แก่ ยกดอก ขิด จก ปัก มัดหมี่ ด้น เกาะหรือล้วง และแพตช์เวิร์ก ซึ่งปีนี้เน้น 2 เทคนิคสำคัญคือ แพตช์เวิร์กและการด้น เหมาะกับการผลิตเสื้อผ้าคอลเล็กชั่นฤดูหนาว อย่างแพตช์เวิร์กหรือการนำชิ้นผ้าหลากสีมาเย็บต่อเข้าด้วยกันจะพบในภาคเหนือ โดยเฉพาะชาวเขาเผ่าต่างๆ ที่นิยมทำกันมาก ส่วนการด้นมือพบได้หลายภูมิภาค นำมาใช้ผลิตผ้าห่มบุนวมหรือชุดกีฬา เป็นต้น อุตสาหกรรมสิ่งทอและแฟชั่นก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน เทรนด์บุ๊กเล่มนี้จะสอนเรื่องการลดใช้ทรัพยากร หรือใช้แล้วต้องปลูกทดแทน ใช้วัสดุที่คุ้นเคยอย่างคุ้มค่าที่สุด ภูมิปัญญาไทยเรื่องการย้อมผ้าด้วยสีธรรมชาติจากวัสดุที่มาจากธรรมชาติช่วยแก้ปัญหาได้ แต่ต้องทำอย่างจริงจัง หวังว่าจะเป็นหนังสือที่อ่านแล้วเพลิดเพลินและเป็นประโยชน์กับอุตสาหกรรมสิ่งทอ แฟชั่น และดีไซน์ ก่อนจะมีเทรนด์บุ๊กเล่ม ต่อๆ ไป

ทั้งนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา มีรับสั่งเป็นนิจว่า อยากให้จัดงานยังภูมิภาคเริ่มจาก จ.มหาสารคาม พร้อมกับทรงเน้นย้ำว่าคำศัพท์แฟชั่นต้องพูดบ่อยๆ เพื่อให้นักศึกษาที่ทำงานด้านนี้หรือผู้ประกอบการเข้าใจ ซึมซับ และคุ้นเคยให้มากที่สุด ทั้งหมดสามารถศึกษาเพิ่มเติมได้จากเทรนด์บุ๊กเล่มนี้




สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงตั้งพระทัยแน่วแน่ที่จะอนุรักษ์ศิลปหัตถกรรมผ้าทอในแต่ละท้องถิ่น พร้อมพัฒนาต่อยอดจากภูมิปัญญาดั้งเดิมให้มีความทันสมัยยิ่งขึ้น ด้วยองค์ความรู้ใหม่ซึ่งบรรจุอยู่ใน หนังสือแนวโน้มและทิศทางผ้าไทยและการออกแบบเครื่องแต่งกายด้วยผ้าไทย หรือ "Thai Textiles Trend Book Spring / Summer 2022 เล่มแรก" ที่ทรงมีพระราชดำริให้จัดทำขึ้น และทรงรับหน้าที่เป็นบรรณาธิการบริหาร ทรงค้นคว้าองค์ความรู้ และควบคุมการผลิตทุกขั้นตอนด้วยพระองค์เอง

หนังสือแนวโน้มและทิศทางผ้าไทยฯ เล่มแรก ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ต่อเนื่องมาถึงเล่มที่ 2 ได้แก่ Thai Textiles Trend Book Autumn/Winter 2022-2023






เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ทรงมีพระราชดำรัสในงานเสวนาวิชาการ หัวข้อ “การส่งเสริมและพัฒนาภาพลักษณ์ผ้าไทยสู่สากล” เกี่ยวกับเทรนด์บุ๊กเล่มที่ ๒ ที่นำเสนอ กลุ่มโทนสีใน ๖ ทิศทางหลัก ซึ่งใช้เป็นแนวทางในการผลิตและพัฒนาผ้าไทยในตลาดยุคปัจจุบัน มีใจความสำคัญโดยสรุปว่า

เทรนด์บุ๊กเล่มแรกประสบความสำเร็จมาก ในแง่ของผลตอบรับ อุตสาหกรรมสิ่งทอเกิดควากระปรี้กระเปร่าในการผลิต เกิดกระแสและพลังงานที่ดีในการออกแบบ ถือเป็นการเริ่มต้นพัฒนา ทั้งเรื่องสีและองค์ความรู้ใหม่ๆ รู้สึกปลาบปลื้มที่มีหนังสือวิชาการด้านแฟชั่นอย่างจริงจัง ในการนำไปใช้ทำการเรียนการสอน หรือใช้ประกอบอาชีพ หนังสือเล่มนี้สีสวย ครบรส และจะไม่น่าเบื่ออีกต่อไป

“เล่มแรกได้แนะนำเรื่องลวดลายผ้าเป็นหลัก สำหรับเล่มที่ 2 คอลเลกชั่น Autumn / Winter 2022-2023 หรือเสื้อผ้าสำหรับฤดูหนาวนี้ เน้นนำเสนอเกี่ยวกับโทนสีและใช้วัสดุย้อมสีจากธรรมชาติ ลดการใช้สีเคมี ดีต่อคนและสิ่งแวดล้อม หรือที่เรียกว่า 'Circular Colours' ซึ่งกำลังเป็นแทนด์โลก

พอเรานำมาใช้ จะเรียกว่า Circular Thai ด้วยวัสดุย้อมสีทีมีในท้องถิ่น โดยเฉพาะ คราม ซึ่งเป็นสีย้อมเย็น ที่ทั่วโลกมีการใช้อย่างแพร่หลาย ไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่น อเมริกา อินเดีย เพียงแต่เฉดสีอาจแตกต่างกันไปตามสภาพอากาศหรือภูมิประเทศ

สำหรับบ้านเรา ครามถือเป็นราชาแห่งการย้อม (King of Dye) และเป็นหัวใจของสีย้อมเลยก็ว่าได้ เมื่อนำไปผสมผสานกับวัสดุย้อมธรรมชาติต่างๆ เช่น ผสมกับ ครั่ง, เข, ดาวเรือง, ประดู่, เปลือกมะพร้าว, แก่นขนุน ก็จะได้เฉดสีที่หลากหลาย จำแนกเป็นกลุ่มโทนสี 6 ทิศทาง ไม่ว่าจะเป็น ม่วงแดง น้ำเงินเข้ม เขียว น้ำตาล เหลือง และ เทา แล้วกำหนดเป็นสูตรเบอร์สีที่ตรงกับสากล ใช้ทดแทนสีเคมีได้ ซึ่งรวบรวมไว้อย่างพร้อมสรรพในเล่มนี้”


นอกจากนี้ ภายในเล่มยังแนะนำ ๖ เทคนิคพื้นฐานการผลิตผ้าไทย ได้แก่ ยกดอก ขิด จก ปัก มัดหมี่ ด้น เกาะหรือล้วง และ แพตช์เวิร์ค ซึ่งปีนี้ได้เน้น ๒ เทคนิคสำคัญคือ แพตช์เวิร์ค และ การด้น เหมาะกับการผลิตเสื้อผ้าคอลเลกชั่นฤดูหนาว

งานแพตช์เวิร์คหรือการนำชิ้นผ้าหลากสีมาเย็บต่อเข้าด้วยกัน จะพบในภาคเหนือ โดยเฉพาะชาวเขาเผ่าต่างๆ ที่นิยมทำกันมาก ส่วนการด้นมือพบได้ในหลายภูมิภาค นำมาใช้ในการผลิตผ้าห่มบุนวมหรือชุดกีฬา เป็นต้น

“อุตสาหกรรมสิ่งทอและแฟชั่น เป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน เทรนด์บุ๊กเล่มนี้จะสอนเรื่องการลดใช้ทรัพยากร หรือใช้แล้วต้องปลูกทดแทน ใช้วัสดุที่คุ้นเคยอย่างคุ้มค่าที่สุด เพื่อลดการเกิดของเสีย ซึ่งภูมิปัญญาไทยเรื่องการย้อมผ้าด้วยสีธรรมชาติจากวัสดุที่มาจากธรรมชาติช่วยแก้ปัญหาได้ แต่ต้องทำอย่างจริงจัง หวังว่าจะเป็นหนังสือที่อ่านแล้วเพลิดเพลินและเป็นประโยชน์กับอุตสาหกรรมสิ่งทอ แฟชั่น และดีไซน์ ก่อนจะมีเทรนด์บุ๊กเล่มต่อๆ ไป”

"เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ" ทรงถ่ายทอดองค์ความรู้ผ้าไทยสู่สากลที่มหาสารคามเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ทอดพระเนตรนิทรรศการฯ

ทั้งนี้ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ทรงมีรับสั่งเป็นนิจว่า อยากให้มีการจัดงานยังภูมิภาคเริ่มจากจังหวัดมหาสารคาม พร้อมกับทรงเน้นย้ำว่าคำศัพท์แฟชั่นต้องพูดบ่อยๆ เพื่อให้นักศึกษาที่ทำงานด้านนี้หรือผู้ประกอบการได้เข้าใจ ซึมซับ และคุ้นเคยให้มากที่สุด และทั้งหมดสามารถศึกษาเพิ่มเติมได้จากเทรนด์บุ๊กเล่มนี้


ปรับเปลี่ยนวิธีทำงาน มีการแยกเฉดสีสำหรับการย้อม หรืออย่างลายผ้าบางลายเมื่อมีการชี้แนะแนวทางให้ก็มีการดัดแปลงจากลายดั้งเดิมให้สอดคล้องกับตลาด มีความร่วมสมัยยิ่งขึ้น

สำหรับแบรนด์จุฑาทิพเราเน้นความร่วมสมัย วัยรุ่นใส่ได้ นอกจากนี้ยังคงแนวคิดตั้งแต่เริ่มก่อตั้งแบรนด์เรื่องการใช้สีธรรมชาติในการย้อมเป็นหลัก

ย้อนกลับไปเมื่อราว ๘ ปีก่อนมีไม่กี่รายที่เลือกสกัดสีจากธรรมชาติในการย้อมผ้า และเราก็เป็นหนึ่งตัวอย่างที่เลือกสีธรรมชาติ เพราะมองเห็นว่าดีต่อสุขภาพของคนย้อมผ้าและไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมจากกระบวนการต้มหรือกำจัดทิ้ง ใบไม้หรือเปลือกไม้ที่นำมาย้อมก็นำไปเป็นปุ๋ยได้ด้วย และเท่าที่สังเกตผ้าฝ้ายย้อมสีธรรมชาติเมื่อนำไปวางขายมักได้ผลตอบรับค่อนข้างดี ลูกค้านิยมชมชอบ เป็นผลมาจากการดำเนินตามพระราชดำริของเจ้าฟ้าหญิงสิริวัณณวรีฯ ที่ทรงให้แนวทางเกี่ยวกับการจัดกลุ่มเฉดสี ทำให้เราสามารถพัฒนาได้ตรงกับความต้องการของตลาด

เรื่องสีย้อมธรรมชาตินี้นอกจากเป็นภูมิปัญญาที่สืบทอดมาแล้วยังเกิดจากการหัดสังเกต อย่างสีดำภูมิปัญญาดั้งเดิมได้จากมะเกลือ แต่ยุคนี้มีการทดลองพบว่าเปลือกมะพร้าวหรือใบยูคาลิปตัสก็ให้สีดำได้เช่นกัน เราพยายามปลุกเร้าชุมชนว่าวัตถุดิบมีอยู่รอบตัว เพียงนำมาทดลอง เมื่อได้ผลก็แทบไม่ต้องหาซื้อเลย ถ้ามองให้เป็นโอกาสก็จะมีทางเลือกมากขึ้น"

ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถดาวน์โหลดหนังสือแบบ e-book ได้ทาง เว็บไซต์กรมส่งเสริมวัฒนธรรม และที่ link : Thai Textiles Trend book หรือติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กองมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม โทร.0 2247 0013 ต่อ 4305 และ 4319 - 4321 ในวันและเวลาราชการ

เรียบเรียงข่าว : ฝ่ายประชาสัมพันธ์คณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติฯ