๔๒๗. สภาสตรีแห่งชาติฯ ร่วมกับกรมการพัฒนาชุมชน ผนึกกำลังสภาสตรีฯ ร่วมกับชาวชัยนาท ปลูกต้นไม้บน “เขาขยาย” ต่อยอดโครงการ “รวมพลังสตรีอาสาพัฒนา ปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ” พร้อมมอบถุงยังชีพบรรเทาทุกข์ โควิด-๑๙

อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวชื่นชมพี่น้องประชาชนชาวชัยนาท ยอดเยี่ยมติด ๑ ใน ๙ จังหวัด ไม่มีผู้ติดเชื้อ โควิด-๑๙ ย้ำอย่าการ์ดตกเด็ดขาด

เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๒๑ มิถุนายน ๒๕๖๓ เวลา ๐๗.๐๐ น. นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน (พช.) กระทรวงมหาดไทย และดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ รวมพลังประชาชนปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ โดยมีประชาชนชาวชัยนาท ร่วมกิจกรรม จำนวนมาก ณ พื้นที่บริเวณเขาขยาย ต.เขาท่าพระ อ.เมือง จ.ชัยนาท
จากนั้น เวลา ๑๑.๐๐ น. วันเดียวกัน อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ประธานสภาสตรีแห่งชาติฯ และคณะ ได้เดินทางต่อไปยัง โรงเรียนวัดสิงห์ เพื่อมอบถุงยังชีพจำนวน ๓๐๐ ชุด ให้แก่ประชาชนชาวจังหวัดชัยนาท ที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ตามโครงการ “เติมความสุข บรรเทาความทุกข์ ด้วยการแบ่งปัน” ถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ๓ มิถุนายน ๒๕๖๓ โดยมี นายนที มนตริวัต รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท นายวีระศักดิ์ ศรีโสภา รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท นางบำเพ็ญ ศรีโสภา รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดชัยนาท นางเสริมศรี ศรีวงษ์ญาติดี รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยนาท นายวัฒนา เดียวสุรินทร์ พัฒนาการจังหวัดชัยนาท นายยุทธนา แรกขึ้น นายอำเภอวัดสิงห์ นายรชต ปานสมบูรณ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดสิงห์ นางนภัสกรณ์ ธูปแก้ว ประธานคณะกรรมการพัฒนาสตรี จ.ชัยนาท ผู้แทนจากภาครัฐ เอกชน ร่วมต้อนรับ ณ โรงเรียนวัดสิงห์ อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท

นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า กิจกรรมปลูกป่าครั้งนี้เป็นการต่อยอดโครงการ “รวมพลังสตรีอาสาพัฒนา ปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ” เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา “สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี” ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 1-30 มิ.ย.2563 เป็นการร่วมแสดงพลังสตรีอาสาพัฒนาทุกระดับในการขับเคลื่อนโครงการฯ ในพื้นที่ต่างๆ จำนวน 22 แห่งทั่วประเทศ และมีพื้นที่ เขาขยาย จ.ชัยนาท เป็นพื้นที่ต้นแบบ
อย่างไรก็ตาม กิจกรรมครั้งนี้ เป็นความร่วมมือระหว่างกรมการพัฒนาชุมชน และสภาสตรีฯ เพื่อเฉลิมพระเกียรติ และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ที่ทรงสืบสาน รักษาและต่อยอด พระราชปณิธานแห่งสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

การปลูกต้นไม้ในโครงการนี้ ไม่ได้มีความหมายเพียงการร่วมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเท่านั้น เพราะเป็นการต่อยอดฟื้นฟูและพลิกฟื้นผืนดินของเขาขยาย ให้กลับคืนสภาพเป็นป่าที่สมบูรณ์ เป็นแหล่งเรียนรู้ธรรมชาติ มีพืชพันธุ์ไม้ทั้งประจำถิ่นและพันธุ์ไม้นานาชาติ ที่ระดมกำลังทั้งงบประมาณภาครัฐและเอกชนมาปลูกไว้ที่เขาขยาย และได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน โดยผมได้ริเริ่มโครงการมาตั้งแต่สมัยที่รับราชการในตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท เมื่อพ.ศ. ๒๕๕๗ และน่ายินดีอย่างยิ่ง ที่ประชาชนชาวชัยนาททุกคน รวมถึงภาครัฐ และภาคเอกชน ยังคงสืบสานต่อยอดเพื่อรักษาผืนป่านี้ไว้ให้แก่ลูกหลานและแผ่นดิน

สำหรับ การปลูกต้นไม้ในในสวนเฉลิมพระเกียรติฯ จะมีจำนวน ๑,๐๔๒ ต้น ๑๐ สื่อความหมายถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๑๐ และ ๔๒ คือพระชนมายุของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี จะปลูกต้นไม้สีม่วง ๓ ชนิด คือ ต้นตะแบก ต้นอินทนิล และต้นเสลา ต้องปลูก ๓ ชนิดคือ ปลูกตามวันคล้ายวันพระราชสมภพวันที่ ๓ มิถุนายน ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี” นายสุทธิพงษ์กล่าว

นายสุทธิพงษ์ ยังกล่าวด้วยว่า ตนมีความผูกพันรักใคร่กับคน จังหวัดชัยนาทมายาวนาน ดีใจมีโอกาสมาปลูกต้นไม้เพิ่ม และมามอบถุงยังชีพให้กับตัวแทนของคนจังหวัดชัยนาทที่ได้รับคัดเลือกให้มารับสิ่งของจากผลกระทบของสถานการณ์ระบาดไวรัสโควิด –๑๙ จังหวัดชัยนาท ถือเป็น ๑ ใน ๙ จังหวัดที่ไม่มีผู้ติดเชื้อโควิด-๑๙ เลยถือว่าให้ความร่วมมืออย่างดีกับรัฐบาล แต่ทุกคนอย่าเพิ่งประมาทการ์ดอย่าตก ยังต้องสวมหน้ากากอนามัยดูแลตัวเองใช้ชีวิตด้วยความระมัดระวัง อย่าสร้างความเสี่ยงให้ตัวเองติดเชื้อโควิด อย่าทำให้จังหวัดชัยนาทเสียชื่อเสียงหลุดจาก ๑ ใน ๙ จังหวัดที่ไม่มียอดผู้ติดเชื้อ

นอกจากนั้นต้องรู้จักออกกำลังกาย โดยเฉพาะออกกำลังด้วยการปลูกพืชผักสวนครัว เพื่อสร้างความมั่นคงด้านอาหารให้กับครอบครัวและสังคม โดยแต่ละบ้านควรปลูกผักสวนครัวอย่างน้อย ๑๐ ชนิดประจำบ้าน เช่น กล้วย กะเพรา ตะไคร้ เป็นต้น

อธิบดี พช. ยังเชิญชวนให้คนชัยนาทสวมใส่ผ้าไทยเพื่อเป็นการอนุรักษ์ความเป็นไทยให้คงอยู่ตลอดไป และทำให้คนชุมชนต่างๆ ที่ผลิตผ้าไทยได้มีรายได้ โดยเฉพาะ จ.ชัยนาทมีผ้าไทยเนินขามที่ใช้ใบมะขามใส่ในลายผ้า จนกลายเป็นผ้าประจำถิ่นที่มีชื่อเสียงเพิ่มมาอีก ๑ ชนิด ทำให้ผ้าเนินขามมีราคมสูงขึ้นและทำให้ จ.ชัยนาทมีผ้าไทยที่คนรู้จัก

ด้าน ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีฯ กล่าวว่า สภาสมาคมสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ เข้าใจและตระหนักถึงโรคระบาดที่เกิดขึ้นทั่วโลกในขณะนี้ โดยวิกฤติดังกล่าว ได้ส่งผลให้หลายธุรกิจต้องหยุดดำเนินการ ประชาชนต้องร่วมกันอยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติ ทำให้ประชาชนเดือดร้อนขาดรายได้ สภาสตรีฯ ได้ดำเนินโครงการหลายโครงการ เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบปัญหาของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-๑๙ หนึ่งในนั้นคือการร่วมกับกรมการพัฒนาชุมชน แจกจ่ายถุงยังชีพ ไม่น้อยกว่า ๕,๐๐๐ ชุด ทั่วประเทศ ซึ่งได้เดินทางไปมอบแล้วหลายจังหวัด อาทิ จ.นครปฐม พระนครศรีอยุธยา สมุทรปราการ อุดรธานี หนองคาย สมุทรสาคร ร้อยเอ็ด และในพื้นที่ต่างๆ เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนและเติมกำลังใจให้กันในยามวิกฤติ จนกว่าสถานการณ์ทุกข์ยากของพี่น้องประชาชนจะคลี่คลาย

ขอบคุณภาพข่าว: กรมการพัฒนาชุมชน
ขอบคุณภาพข่าว: สื่อมวลชน
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ คณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติ

๔๒๖. สภาสตรีแห่งชาติฯ ร่วมกับ กรมการพัฒนาชุมชน เยือนร้อยเอ็ดเดินหน้ามอบถุงยังชีพบรรเทาทุกข์ “โครงการเติมความสุข บรรเทาความทุกข์ ด้วยการแบ่งปัน” ถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี

เมื่อวันที่ ๒๐ มิถุนายน ๒๕๖๓ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน (พช.) กระทรวงมหาดไทย และ ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ พร้อมนางรชตภร โตดิลกเวชช์ ประธานคณะกรรมการบริหาร สภาสตรีแห่งชาติฯ ลงพื้นที่มอบถุงยังชีพจำนวน ๕๐๐ ชุด ให้แก่พี่น้องประชาชนชาวจังหวัดร้อยเอ็ด ที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-๑๙ ตามโครงการ “เติมความสุข บรรเทาความทุกข์ ด้วยการแบ่งปัน” ถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ๓ มิถุนายน ๒๕๖๓ ที่หอประชุม ๖๐ พรรษา มหาวชิราลงกรณ์ มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด โดยมี นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด และ นางนงรัตน์ คงเกษม ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดร้อยเอ็ด นางรัชนี พลซื่อ หัวหน้าคณะทำงานขับเคลื่อนกองทุนพัฒนาสตรีจังหวัดร้อยเอ็ด ให้การต้อนรับ และรายงานสภาพความเป็นอยู่ รวมถึงปัญหาของผู้มีรายได้น้อยในพื้นที่
นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า สภาวะของวิกฤตการณ์โควิด-๑๙ ที่ส่งผลกระทบกับการดำเนินชีวิตของผู้คนจำนวนมาก ถือเป็นวิกฤติที่ยากเกินกว่าหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งจะแก้ไขได้อย่างเบ็ดเสร็จและทันท่วงที กรมการพัฒนาชุมชนจึงได้ร่วมมือกับสภาสตรีแห่งชาติฯ จัดทำโครงการ “เติมความสุข บรรเทาความทุกข์ ด้วยการแบ่งปัน” เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการมีส่วนร่วม ในการผ่อนคลายความเดือดร้อนดังกล่าว ให้แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบ ผู้เดือดร้อน ผู้ยากไร้ ที่ต้องได้รับการเยียวยาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-๑๙ ซึ่งขณะนี้ได้เดินทางไปมอบถุงยังชีพแล้วหลายจังหวัด อาทิ จ.นครปฐม พระนครศรีอยุธยา สมุทรปราการ อุดรธานี หนองคาย สมุทรสาคร และในพื้นที่ต่างๆ นอกจากนี้ ยังขอขอบคุณประชาชนชาวจังหวัดร้อยเอ็ด ที่ร่วมมือร่วมใจกันปลูกผักสวนครัว เพื่อสร้างความมั่นคงด้านอาหารและลดค่าใช้จ่ายในท่ามกลางวิกฤตินี้ โดยกรมการพัฒนาชุมชนกำหนดปฏิบัติการ ๙๐ วัน นับจากวันที่ ๑ เมษายน ๒๕๖๓ ถึง ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๓ ร่วมกับพี่น้องทุกครัวเรือนทั้งประเทศ ปลูกผักสวนครัวให้ครบทุกครัวเรือนเพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพิ่มรายได้ให้กับครอบครัว ขณะนี้คืบหน้ากว่า ๙๓ % แล้ว ซึ่งมั่นใจว่าในวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๓ นี้ ทุกพื้นที่ทั่วประเทศจะร่วมปลูกผักสวนครัวครบ ๑๐๐ % อย่างแน่นอน
“จากที่กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ได้ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด รณรงค์ส่งเสริมให้ทุกคนสร้างความมั่นคงทางอาหาร ด้วยการปลูกพืชผักสวนครัว จังหวัดร้อยเอ็ดได้ให้ความร่วมมืออย่างดี ซึ่งการปลูกพืชผักสวนครัวเป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะทำให้ไม่ต้องไปจ่ายเงินซื้อกินในภาวะวิกฤติเช่นนี้ จึงช่วยลดรายจ่าย และเพิ่มรายได้ นอกจากนี้ก็จะทำให้ทุกครัวเรือนมีพืชผักปลอดภัยไว้บริโภค แบ่งปันกันทั้งพืชผักที่ปลูก และเมล็ดพันธุ์ผักที่นำไว้ปลูกต่อ ซึ่งต่อไปก็อาจจะสามารถพัฒนาเป็นวิสาหกิจชุมชนหรือเป็นของฝากได้

นอกจากนี้ ขอเชิญชวนทุกท่านได้สวมใส่ผ้าไทยในทุกวันตาม มติ ครม. เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2563 ส่งเสริมและสนับสนุนการใช้ และสวมใส่ผ้าไทย เพื่อรณรงค์กระตุ้นให้เกิดค่านิยมการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากผ้าทอพื้นถิ่นซึ่งเป็นภูมิปัญญาของคนไทย เพื่อกระจายรายได้สู่ชุมชนอย่างรวดเร็วและทั่วถึง” นายสุทธิพงษ์กล่าว
ดร.วันดี กล่าวว่า สภาสมาคมสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ เป็นองค์กรที่ดำเนินงานกิจกรรมเกี่ยวกับเรื่ององค์กรสตรี โดยมีองค์กรสมาชิกทั่วประเทศ มากกว่า ๒๑๒ องค์กร ซึ่งสภาสตรีฯ เข้าใจและตระหนักถึงโรคระบาดที่เกิดขึ้นทั่วโลกในขณะนี้ โดยจากวิกฤติดังกล่าว ได้ส่งผลให้หลายธุรกิจต้องหยุดดำเนินการ ประชาชนต้องร่วมกันอยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติ ทำให้ประชาชนเดือดร้อนขาดรายได้ สภาสตรีฯ ได้ดำเนินโครงการหลายโครงการ เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบปัญหาของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-๑๙ หนึ่งในนั้นคือการร่วมกับกรมการพัฒนาชุมชน แจกจ่ายถุงยังชีพ ไม่น้อยกว่า ๕,๐๐๐ ถุงทั่วประเทศ เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนและเติมกำลังใจให้กันในยามวิกฤติ จนกว่าสถานการณ์ทุกข์ยากของพี่น้องประชาชนจะคลี่คลาย
ด้านนายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า ขอขอบคุณกรมการพัฒนาชุมชน และสภาสตรีแห่งชาติฯ ที่ได้ร่วมกันจัดทำ โครงการเติมความสุข บรรเทาความทุกข์ ด้วยการแบ่งปัน ซึ่งจังหวัดร้อยเอ็ดพบผู้ป่วยโรคโควิด-๑๙ จำนวน ๓ ราย และรักษาหายกลับบ้านแล้วทั้ง ๓ ราย ทว่าการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-๑๙ ส่งผลกระทบให้ประชาชนในจังหวัดร้อยเอ็ดบางส่วน ได้รับความเดือดร้อนทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และความเป็นอยู่ในการดำรงชีพมากพอสมควร การได้รับมอบถุงยังชีพตามโครงการ “เติมความสุข บรรเทาความทุกข์ ด้วยการแบ่งปัน” ในครั้งนี้ เชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนแก่พี่น้องประชาชนในจังหวัดร้อยเอ็ด ได้ตามวัตถุประสงค์ของโครงการฯ อย่างแน่นอน
หลังจากพิธีมอบถุงยังชีพเสร็จสิ้นแล้ว อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน พร้อมด้วยประธานสภาสตรีแห่งชาติฯ และคณะ ได้เยี่ยมชมนิทรรศการผ้าพื้นถิ่นของจังหวัดร้อยเอ็ด ที่ชาวบ้านและผู้ประกอบการ OTOP นำมาจัดแสดงในงาน

ฝ่ายประชาสัมพันธ์ คณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติฯ

๔๒๕. สภาสตรีแห่งชาติฯ ร่วมกับ กรมการพัฒนาชุมชน เดินหน้าลงพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร มอบถุงยังชีพ “โครงการเติมความสุข บรรเทาทุกข์ ด้วยการแบ่งปัน” ถวายพระราชกุศลองค์ราชินี

วันนี้ (วันพุธที่ ๑๗ มิถุนายน ๒๕๖๓ เวลา ๐๙.๐๐ น.นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน และ ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ พร้อมด้วยนางรชตภร โตดิลกเวชช์ ประธานคณะกรรมการบริหาร สภาสตรีแห่งชาติฯ และ ดร.ลาลีวรรณ กาญจนจารี รองประธานสภาสตรีแห่งชาติฯ นำคณะกรรมการอำนวยการ และคณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ เดินทางไปมอบถุงยังชีพ จำนวน ๓๐๐ ชุด ตามโครงการ “เติมความสุข บรรเทาทุกข์ ด้วยการแบ่งปัน” สภาสตรีแห่งชาติฯ ร่วมกับ กรมการพัฒนาชุมชน ถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ๓ มิถุนายน ๒๕๖๓ ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ อย่างหาที่สุดมิได้ ให้แก่ราษฎรในชุมชนเขตเทศบาลนครอุดรธานี โดยมี นายวีระศักด์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวให้การต้อนรับ พร้อมด้วย นางชุติพร วิจิตร์แสงศรี ประธานสภาสตรีจังหวัดสมุทรสาคร/ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสมุทรสาคร นำ องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติ ให้การต้อนรับ และ ร.ต. ประพันธ์ ถึกสกุล นายอำเภอบ้านแพ้ว กล่าวรายงานสภาพของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโรติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID –๑๙) และเรียนเชิญอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน และ ประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ กล่าวถึงโครงการ “เติมความสุข บรรเทาทุกข์ ด้วยการแบ่งปัน” สภาสตรีแห่งชาติฯ ร่วมกับ กรมการพัฒนาชุมชน และพบปะทักทายประชาชนที่มาร่วมงาน ณ หอประชุมบ้านแพ้ว อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร
นายสุทธิพงศ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่า ได้ร่วมกับสภาสตรีแห่งชาติฯ จัดทำ โครงการเติมความสุข แบ่งเบาความทุกข์ ด้วยการแบ่งปัน ถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ โดยมอบถุงยังชีพแก่พี่น้องที่ประสบภัยจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการมีส่วนร่วม ในการผ่อนคลายความเดือดร้อนดังกล่าว ให้แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบ ผู้เดือดร้อน ผู้ยากไร้ ที่ต้องได้รับการเยียวยาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-๑๙ ซึ่งขณะนี้ได้เดินทางไปมอบถุงยังชีพแล้วหลายจังหวัด อาทิ จังหวัดนครปฐม พระนครศรีอยุธยา สมุทรปราการ และเขตชุมชนในกรุงเทพฯ อาทิ ชุมชนวัดโสมมนัส ชุมชนเคหะห้วยขวาง ชุมชนชาวคลองสามวา เป็นต้น และในพื้นที่ต่างๆ
นอกจากนี้อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ขอเชิญชวนพี่น้องทุกครัวเรือนทั้งประเทศ ร่วมใจกันปลูกผักสวนครัว เพื่อสร้างความมั่นคงด้านอาหารและลดค่าใช้จ่ายในท่ามกลางวิกฤตินี้ และเพิ่มรายได้ให้กับครอบครัว สร้างความมั่นคงด้านอาหารและลดค่าใช้จ่าย ในภาวะวิกฤติโรคโควิด –๑๙ ซึ่งกรมการพัฒนาชุมชน กำหนดปฏิบัติการ ๙๐ วัน นับจากวันที่ ๑ เมษายน ถึง ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๓ โดยมีเป้าหมายลดค่าใช้จ่ายครัวเรือนกว่า ๒๐๐,๐๐๐ บาทต่อปี
ด้าน ดร.วันดี กล่าวว่า สภาสตรีแห่งชาติฯ ร่วมกับกรมการพัฒนาชุมชนและองค์กรสมาชิก จัดโครงการเติมความสุขแบ่งเบาความทุกข์ ด้วยการแบ่งปัน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี วันที่ ๓ มิถุนายน ที่ผ่านมาด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ โดยจัดถุงยังชีพ ไม่น้อยกว่า ๕,๐๐๐ ชุด เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่อยู่บ้าน หยุดเชื้อเพื่อชาติ จากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-๑๙ จากเหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบต่อภาพรวมของเศรษฐกิจ สังคม สุขภาวะ และการดำรงชีวิตของพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อรายได้ของประชาชน สภาสตรีแห่งชาติฯ ขอร่วมเป็นกำลังใจให้พี่น้องทุกคนร่วมกันเดินทางก้าวข้ามวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน
จากนั้น เวลา ๑๐.๓๐ น. นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน และ ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ พร้อมด้วยนางรชตภร โตดิลกเวชช์ ประธานคณะกรรมการบริหาร สภาสตรีแห่งชาติฯ และ ดร.ลาลีวรรณ กาญจนจารี รองประธานสภาสตรีแห่งชาติฯ นำคณะกรรมการอำนวยการ และคณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ร่วม เดินทางจากหอประชุมบ้านแพ้ว อำเภอบ้านแพ้ว ถึงวัดหลักสี่ราษฎร์สโมสร เข้ากราบนมัสการ พระเดชพระคุณพระมงคลพัฒนาภรณ์ เจ้าคณะอำเภอบ้านแพ้ว ร่วมกิจกรรมขยายผลปลูกผักสวนครัว จากวัดสู่ชุมชน ตามหลัก “บวร” สนับสนุนแผนปฎิบัติการ Quick Win ๙๐ วัน “ปลูกผักสวนครัว เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร” เพื่อเป็นการช่วยลดรายจ่าย ในสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และสามารถนำไปเป็นแหล่งอาหารของพระภิกษุสงฆ์ และนักเรียน ณ แปลงสาธิต โรงเรียนวัดหลักสี่พิพัฒน์ราษฎร์อุปถัมภ์ อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร


ขอบคุณ: ภาพ กองประชาสัมพันธ์ กรมการพัฒนาชุมชน
ภาพข่าว:ฝ่ายประชาสัมพันธ์คณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติฯ

๔๒๔. ประธานสภาสตรีแห่งชาติฯนำคณะกรรมการ ทูลเกล้าถวายแจกันดอกไม้และ ลงนามถวายพระพร สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี

วันนี้ (วันอังคารที่ ๑๖ มิถุนายน ๒๕๖๓) เวลา ๐๙.๓๐ น. ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ นำ คณะกรรมการประกอบด้วย ดร.ลาลีวรรณ กาญจนจารี รองประธานสภาสตรีแห่งชาติฯ นางอรุณศรี จงเจียมจิตต์ กรรมการอำนวยการ นางเยาวมาลย์ วัชระเรืองศรี กรรมการอำนวยการ และนางรัศรินทร์ ลัคใหม่กุลวัฒน์ กรรมการบริหาร สภาสตรีแห่งชาติฯ ทูลเกล้าถวายแจกันดอกไม้ เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี และลงนามถวายพระพร ขอให้ทรงมีพระพลานามัยที่แข็งแรง และทรงหายจากพระอาการประชวรโดยเร็ววัน ณ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์


ภาพ: สภาสตรีแห่งชาติฯ และขอบคุณภาพจากกองประชาสัมพันธ์ กรมการพัฒนาชุมชน
ข่าว:ฝ่ายประชาสัมพันธ์ คณะกรรมการบริหาร สภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ฯ

๔๒๓. สภาสตรีแห่งชาติฯ กรมการพัฒนาชุมชน ลงพื้นที่จังหวัดอุดรธานี และจังหวัดหนองคาย มอบถุงยังชีพ “โครงการเติมความสุข บรรเทาทุกข์ ด้วยการแบ่งปัน” ถวายพระราชกุศลองค์ราชินี

เมื่อวันจันทร์ที่ ๑๕ มิถุนายน ๒๕๖๓ เวลา ๐๙.๕๐ น.นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน และ ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ พร้อมด้วยนางรชตภร โตดิลกเวชช์ ประธานคณะกรรมการบริหาร สภาสตรีแห่งชาติฯ และ รองประธานสภาสตรีแห่งชาติฯ นางสุกัญญา ประจวบเหมาะ และ ดร.ลาลีวรรณ กาญจนจารี นำคณะกรรมการอำนวยการ และคณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ เดินทางไปมอบถุงยังชีพ จำนวน ๕๐๐ ชุด ตามโครงการ “เติมความสุข บรรเทาทุกข์ ด้วยการแบ่งปัน” สภาสตรีแห่งชาติฯ ร่วมกับ กรมการพัฒนาชุมชน ถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ๓ มิถุนายน ๒๕๖๓ ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ อย่างหาที่สุดมิได้ ให้แก่ราษฎรในชุมชนเขตเทศบาลนครอุดรธานี โดยมี นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี กล่าวให้การต้อนรับ พร้อมด้วยองค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ ประกอบด้วย นางดาวศิริ อยู่ประเสริฐ นายกก่อตั้งสมาคมแม่ดีเด่นแห่งชาติจังหวัดอุดรธานี และสมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทย อุดรธานี นางกอบแก้ว คงน้อย นายกสมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัดอุดรธานี รศ.ดร.กฤตติกา แสนโภชน์ นายกสมาคมแม่ดีเด่นแห่งชาติจังหวัดอุดรธานี แพทย์หญิงเฉลิมวรรณ ศศิประภา นายกสมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทย อุดรธานี ให้การต้อนรับ และ ดร.อิทธิพนธ์ ตรีวัฒนสุวรรณ นายกเทศมนตรีนครอุดรธานี กล่าวขอบคุณ และเรียนเชิญอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน และ ประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ กล่าวปราศรัยพบปะทักทายประชาชนที่มาร่วมงาน ณ ลานกีฬาโรงเรียนมัธยมเทศบาล ๖ อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี

นายสุทธิพงศ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่า ได้ร่วมกับสภาสตรีแห่งชาติฯ จัดทำ โครงการเติมความสุข แบ่งเบาความทุกข์ ด้วยการแบ่งปัน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ โดยมอบถุงยังชีพแก่พี่น้องที่ประสบภัยจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ และในโอกาสนี้ ยังเชิญชวนทุกครัวเรือนร่วมใจกันปลูกผักสวนครัว สร้างความมั่นคงด้านอาหารและลดค่าใช้จ่าย ในภาวะวิกฤติโรคโควิด –๑๙ ซึ่งกรมการพัฒนาชุมชน กำหนดปฏิบัติการ ๙๐ วัน นับจากวันที่ ๑ เมษายน ถึง ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๓ โดยมีเป้าหมายลดค่าใช้จ่ายครัวเรือนกว่า ๒๐๐,๐๐๐ บาทต่อปี
ด้าน ดร.วันดี กล่าวว่า สภาสตรีแห่งชาติฯ ร่วมกับกรมการพัฒนาชุมชนและองค์กรสมาชิก จัดโครงการเติมความสุขแบ่งเบาความทุกข์ ด้วยการแบ่งปัน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี วันที่ ๓ มิถุนายน ที่ผ่านมาด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ โดยจัดถุงยังชีพ ไม่น้อยกว่า ๕,๐๐๐ ชุด เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่อยู่บ้าน หยุดเชื้อเพื่อชาติ จากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-๑๙ จากเหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบต่อภาพรวมของเศรษฐกิจ สังคม สุขภาวะ และการดำรงชีวิตของพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อรายได้ของประชาชน สภาสตรีฯ ขอร่วมเป็นกำลังใจให้พี่น้องร่วมกันเดินทางก้าวข้ามวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน

จากนั้น เวลา ๑๔.๐๐ น. ในวันเดียวกัน นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน และ ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ พร้อมด้วยนางรชตภร โตดิลกเวชช์ ประธานคณะกรรมการบริหาร สภาสตรีแห่งชาติฯ รองประธานสภาสตรีแห่งชาติฯ จำนวน ๒ ท่าน ประกอบด้วย นางสุกัญญา ประจวบเหมาะ และ ดร.ลาลีวรรณ กาญจนจารี นำคณะกรรมการอำนวยการ และคณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ เดินทางไปมอบถุงยังชีพ จำนวน ๒๐๐ ชุด ตามโครงการ “เติมความสุข บรรเทาทุกข์ ด้วยการแบ่งปัน” ให้กับชาวชุมชนตำบลมีชัย อำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย โดยมีนายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย กล่าวต้อนรับ และนายยุทธนา ศรีตะบุตร กล่าวขอบคุณ และเรียนเชิญอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน และ ประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ กล่าวปราศรัยพบปะทักทายประชาชนที่มาร่วมงาน ณ โรงเรียนกีฬาจังหวัดหนองคาย ตำบลมีชัย อำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย

ฝ่ายประชาสัมพันธ์คณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติฯ

๔๒๒. สภาสตรีแห่งชาติฯ ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการเตรียมการคัดเลือกเยาวสตรีไทยดีเด่น ประจำปี ๒๕๖๓

วันนี้ (๙ มิถุนายน ๒๕๖๓) เวลา ๐๙.๓๐ น. ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ มอบหมายให้ นางรชตภร โตดิลกเวชช์ ประธานคณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติฯ นางศรีวรรณ สายฟ้า รองประธานสภาสตรีแห่งชาติฯท ดร.สมจิตร ศิริเสนา เลขาธิการสภาสตรีแห่งชาติฯ เป็นผู้แทนเข้าร่วมหารือกับกระทรวงศึกษาธิการเพื่อประชุมคัดเลือกเยาวสตรีไทยดีเด่น ประจำปี ๒๕๖๓ โดยมีนายชาญวุฒิ วงศ์เพ็งผู้อำนวยการสำนักบูรณาการกิจการการศึกษา เป็นประธานการประชุม ณ ห้องประชุม ๑ อาคารบ้านพระกรุณานิวาสน์ ถนนสุโขทัย เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร

ฝ่ายประชาสัมพันธ์ คณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติฯ

๔๒๑.คณะรัฐมนตรี มีมติเมื่อวันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๖๓ เห็นชอบมาตรการส่งเสริมและสนับสนุนการใช้และสวมใส่ผ้าไทย โดยการรณรงค์เชิญชวนคนไทยสวมใส่ผ้าไทยอย่างน้อยสัปดาห์ละสองวัน

นายกรัฐมนตรี ชวนคนไทยแต่งกายผ้าไทย สืบสานอัตลักษณ์ให้คงอยู่ อย่างน้อยสัปดาห์ละ ๒ ครั้ง
วันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๖๓ เวลา ๐๘. ๓๐ น. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตร กระทรวงมหาดไทย นำโดย พล.อ.อนุพงศ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นำคณะจัดแสดงนิทรรศการส่งเสริมและผลการดำเนินโครงการสืบสาน อนุรักษ์ศิลป์ผ้าถิ่นไทย ดำรงไว้ในแผ่นดิน อาทินายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาขุมชน (พช.)เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เพื่อจัดแสดงนิทรรศการผ้าไทย และผลการดำเนินงานโครงการ “สืบสาน อนุรักษ์ศิลป์ผ้าถิ่นไทย ดำรงไว้ในแผ่นดิน”พร้อมอุดหนุนผ้าคลุมไหล่แพรวา จากจังหวัดกาฬสินธุ์ จำนวน ๒ ผืน กระเป๋าจักสานจากเตยตานีของจังหวัดตรัง จำนวน ๒ ใบ กระเป๋าใส่เอกสารทำจากผ้าขาวม้า ของจังหวัดอำนาจเจริญอีก ๒ ใบ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวเชิญชวนแต่งกายด้วยชุดผ้าไทย เพื่อเป็นการส่งเสริมและเผยแพร่อัตตลักษณ์ผ้าไทยให้ดำรงคงอยู่ และสนับสนุนการสร้างงาน สร้างรายได้ แก่พี่น้องประชาชนในท้องถิ่นชุมชน ซึ่งเป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากของชุมชนให้มีความเข้มแข็ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการเยี่ยมชมนิทรรศการ พล.อ.ประยุทธ์ นายกฯ ได้อุดหนุนผ้าคลุมไหล่แพรวา จากจังหวัดกาฬสินธุ์ จำนวน ๒ ผืน กระเป๋าจักสานจากเตยตานีของจังหวัดตรัง จำนวน ๒ ใบ กระเป๋าใส่เอกสารทำจากผ้าขาวม้า ของจังหวัดอำนาจเจริญ ๒ ใบ
ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรี ได้มีมติเมื่อวันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๖๓ เห็นชอบมาตรการส่งเสริมและสนับสนุนการใช้และสวมใส่ผ้าไทย โดยการรณรงค์เชิญชวนคนไทยสวมใส่ผ้าไทยอย่างน้อยสัปดาห์ละสองวัน เพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรม อันล้ำค่า รากเหง้าจากภูมิปัญญาของบรรพบุรุษ ที่สะท้อนให้เห็นบริบททางสังคมและวัฒนธรรมของแต่ละพื้นที่ ด้วยการถ่ายทอดหัตถกรรมผ่านผ้าทอจากบรรพชนสู่คนรุ่นปัจจุบัน ด้วยการส่งเสริมและเผยแพร่ ผ้าพื้นถิ่นไทยให้ดำรงคงอยู่ปรากฏเป็นความภาคภูมิใจของคนไทย ประกอบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-๑๙) ทำให้ประเทศไทยอยู่ในภาวะวิกฤติ ส่งผลกระทบในวงกว้างต่อการใช้ชีวิตของประชาชนทั่วประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อรายได้ของผู้ประกอบการผ้าในท้องถิ่นชุมชน ซึ่งเป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก ดังนั้น การรณรงค์กระตุ้นให้เกิดค่านิยมการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำจาก ผ้าทอพื้นเมืองซึ่งเป็นภูมิปัญญาของคนไทยจะก่อให้เกิดรายได้กระจายสู่ชุมชนอย่างรวดเร็วและทั่วถึง
พล.อ.อนุพงศ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทย โดยกรมการพัฒนาชุมชน ได้ประมาณการว่าหากมีคนไทยแต่งกายด้วยผ้าไทยเป็นประจำสัปดาห์ละ ๒ วัน จำนวน ๓๕ ล้านคน จะทำให้มีการซื้อผ้าและใช้ผ้าคนละ ๑๐ เมตร ราคาเมตรละประมาณ ๓๐๐ บาท จะทำให้เกิดความต้องการผ้าไทย จำนวน ๓๕๐ ล้านเมตร คิดเป็นมูลค่า ๑๐๕,๐๐๐ ล้านบาท ซึ่งเม็ดเงินนี้จะกลับคืนสู่ชุมชนก่อให้เกิดการสร้างงานสร้างรายได้ให้พี่น้องประชาชนช่วยให้หลุดพ้นจากความยากจน มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
ด้านนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เปิดเผยว่า วันนี้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ให้ความเห็นชอบมาตรการส่งเสริมและสนับสนุนการใช้และสวมใส่ผ้าไทย ตามที่กระทรวงมหาดไทยโดยกรมการพัฒนาชุมชนนำเสนอ ซึ่งมีสาระสำคัญคือการกำหนดมาตรการส่งเสริมสนับสนุนการใช้และสวมใส่ผ้าไทยเป็นนโยบายของรัฐบาล ในการส่งเสริมให้ข้าราชการ ประชาชน แต่งกายด้วยผ้าไทยตามความเหมาะสมของท้องถิ่นเพิ่มขึ้น หรืออย่างน้อยสัปดาห์ละ ๒ วันทั้งนี้ รวมทั้งให้ทุกกระทรวงพิจารณาจัดทำมาตรการส่งเสริมสนับสนุนการใช้และสวมใส่ผ้าไทย โดยสร้างการรับรู้และความเข้าใจผ่านกิจกรรมและสื่อต่างๆ ตลอดจนการจัดทำแผนรณรงค์การแต่งกายด้วยผ้าไทย และผ้าพื้นเมืองแก่ส่วนราชการในสังกัด และกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ หน่วยงาน องค์กร ภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน

นอกจากนั้น รวมไปถึงจัดให้มีการอนุรักษ์ต่อยอดภูมิปัญญาเกี่ยวกับการแปรรูปผ้าไทย ผลิตเป็นสินค้าต่างๆ เพื่อให้เกิดประโยชน์ในการส่งเสริมเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ และสร้างเศรษฐกิจฐานรากในระดับจังหวัดและชุมชน ช่วยให้ชุมชนมีรายได้จากการขายผ้าไทยในช่วงที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-๑๙รวมถึงยังให้ประกาศยกย่องหน่วยงานองค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนต้นแบบของจังหวัดที่รณรงค์การแต่งกายด้วยผ้าไทย และผ้าพื้นเมืองที่เกิดผลเป็นรูปธรรมอีกด้วย
นายสุทธิพงษ์ กล่าวด้วยว่า มาตรการส่งเสริมและสนับสนุนการใช้และสวมใส่ผ้าไทยดังกล่าว ดำเนินการโดยกรมการพัฒนาชุมชน ร่วมกับสภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ ที่ได้ร่วมกันจัดทำ “โครงการสืบสาน อนุรักษ์ศิลป์ผ้าถิ่นไทย ดำรงไว้ในแผ่นดิน” เพื่อสืบสานพระราชปณิธานสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ ต่อการอนุรักษ์และสืบสานภูมิปัญญาของคนไทย อย่างไรก็ตาม พระองค์ท่านทรงมีพระราชดำริให้นำภูมิปัญญาของราษฎรที่ได้ทอผ้าไว้ใช้กันอยู่มาพัฒนาเป็นอาชีพให้ก่อเกิดรายได้แก่ราษฎร รวมถึงเพื่อสนับสนุนส่งเสริมให้เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพและสร้างรายได้ให้กับกลุ่มสตรีในท้องถิ่น อีกทั้งเชิดชูอัตลักษณ์คุณค่าผ้าท้องถิ่น ให้เกิดกระแสความนิยมการแต่งกายผ้าไทยแก่ประชาชนคนไทยทั่วประเทศ ตลอดจนเป็นการเผยแพร่ภาพลักษณ์ความเป็นไทยสู่สายตาชาวต่างชาติอีกด้วย โดยได้จัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือดำเนินการตามโครงการฯ กับ ๗๕ จังหวัด และหน่วยงานรัฐวิสาหกิจในส่วนกลาง ได้แก่ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) เป็นต้นเรียบร้อยแล้ว
ขณะเดียวกัน ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ระบุว่า การดำเนินโครงการ “สืบสาน อนุรักษ์ศิลป์ผ้าถิ่นไทย ดำรงไว้ในแผ่นดิน” เป็นการสนับสนุนการสร้างอาชีพ สร้างงาน สร้างรายได้ ให้เกิดขึ้นกับผู้ประกอบการในชุมชน อันเป็นกลไกการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากให้มีความมั่นคง สามารถพึ่งพาตนเองได้ และทำให้เกิดการหมุนเวียนในห่วงโซ่ทางเศรษฐกิจระดับประเทศต่อไป ซึ่งผลการดำเนินโครงการ ณ ปัจจุบัน มียอดจำหน่ายประเภทผ้า ซึ่งสามารถสร้างมูลค่าให้กับเศรษฐกิจฐานราก จำนวน ๑๓,๔๖๕,๑๖๖,๗๕๔ บาท เพิ่มขึ้นร้อยละ ๔.๓ เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงระยะเวลาเดียวกันในปี พ.ศ. ๒๕๖๒
“หากข้าราชการ ประชาชน ร่วมมือร่วมใจแต่งกายด้วยผ้าไทยเป็นประจำ จำนวน ๓๕ ล้านคน เฉลี่ยใช้ผ้าคนละ ๑๐ เมตร ราคาเมตรละประมาณ ๓๐๐ บาท ก็จะทำให้เกิดความต้องการผ้าไทยถึง 350 ล้านเมตร และก่อให้เกิดการสร้างรายได้แก่ชุมชนคิดเป็นเงินกว่า ๑๐๕,๐๐๐ ล้านบาท ซึ่งในขณะนี้เฉพาะการดำเนินโครงการ “สืบสาน อนุรักษ์ศิลป์ผ้าถิ่นไทย ดำรงไว้ในแผ่นดิน” นั้นมีผู้ประกอบการที่มีรายได้จากการจำหน่ายผ้า จำนวน ๖๔,๕๓๒ ราย มีผู้ได้รับประโยชน์ จำนวน ๓๖๓,๘๗๖ ราย ดังนั้นการร่วมสวมใส่ผ้าไทย นอกจากจะช่วยร่วมอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทยแล้ว ยังสร้างอาชีพ และสร้างรายได้ นำไปสู่ความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากให้เติบโตได้อย่างมั่นคงอีกด้วย” ดร.วันดีกล่าว

ฝ่ายประชาสัมพันธ์คณะกรรมการบริหาร สภาสตรีแห่งชาติฯ

๔๒๐. อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน และประธานสภาสตรีแห่งชาติฯ ลงพื้นที่จังหวัดอำนาจเจริญ ให้กำลังใจกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี หนุนสืบสานพระราชปณิธาน "สมเด็จพระพันปีหลวง" อนุรักษ์ผ้าไทย

วันที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๖๓ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน (พช.) พร้อมด้วย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ เดินทางลงพื้นที่ เยี่ยมชมกลุ่มแปรรูปผ้าขาวม้านุชบา กลุ่ม OTOP ที่ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แปรรูปจากผ้าขาวม้าทอมือ กิจกรรมส่งเสริมสตรีร่วมใจกันใส่ผ้าทอไทยของคณะทำงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี จังหวัดอำนาจเจริญ โดยมีนายสุธี ทองแย้ม ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ พร้อมนายกเหล่ากาชาดจังหวัด นายธนูศิลป์ ไชยศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัด นางเพ็ญศิริญา ตั้งตระกูลวงศ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท ประชารัฐฯ และ นางประเสริฐ เพ็ญจันทร์ รองประธานคณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี จังหวัดอำนาจเจริญ ให้การต้อนรับ
อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน (พช.) กล่าวว่า สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อการอนุรักษ์และสืบสานภูมิปัญญาของคนไทยโดยเฉพาะผ้าไทยตลอดกว่า ๖๐ ปีที่ผ่านมา เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินตามพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ ไปเยี่ยมเยียนราษฎร พระองค์ท่านจะอุดหนุน แนะนำ สวมใส่และจัดประกวดผ้าไทย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ มีพระราชดำรัสสำคัญที่ว่า “Our Loss is our gain” ขาดทุน คือ กำไร ขาดทุนของเรา คือกำไรของประชาชนทุกคน ซึ่งหมายความว่าพระองค์ท่านทรงอุดหนุนเพื่อช่วยประชาชน เพื่อให้ทุกคนมีกำลังใจในการกลับไปทอผ้า เราทุกคนจึงต้องตระหนักในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน ที่ยังทำให้พวกเรามีอาชีพ มีรายได้ และทำให้พวกเรามีผ้าประจำถิ่น ประจำจังหวัดของพวกเราเอง
ต่อมา สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงห่วงใยในสิ่งที่สมเด็จพระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้ทรงรื้อฟื้นไว้เพื่อต่อลมหายใจของผ้าไทย จึงได้ฝากให้ตระหนักในการส่งเสริมให้ลูกหลานได้มีโอกาสเรียนรู้เรื่องการทอผ้า การย้อมผ้า การปลูกหม่อน เลี้ยงไหม ที่เกี่ยวกับผ้า รวมทั้งการฝึกการทอผ้า จึงขอฝากท่านผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะประธานคณะกรรมการศึกษาของจังหวัด ช่วยหาโอกาสผลักดันให้วิชาเกี่ยวกับผ้าเป็นวิชาเสริมในหลักสูตรของทุกโรงเรียนในจังหวัดอำนาจเจริญ รวมถึงช่วยกันปลูกฝังในเรื่องของการปลูกพืชผักสวนครัว ให้กับคนรุ่นหลังด้วย เพื่อที่จะสามารถช่วยเหลือและพึ่งพาตนเองได้
ผมรู้สึกดีใจที่ได้มาจังหวัดอำนาจเจริญเป็นครั้งที่ ๒ โดยวันนี้ได้มาพร้อมกับ ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ ขอขอบคุณท่านผู้ว่าราชการจังหวัด และทีมงานที่ได้กรุณาเสียสละเวลา ให้ผมได้มีโอกาสได้รับความรู้ และเป็นกำลังใจ ไปกับพี่ ๆ น้อง ๆ กลุ่มทอผ้า กลุ่มพลังสตรีฯ ที่เป็นหลักของครอบครัว และของประเทศชาติ ซึ่งในวันนี้ก็มีข่าวดีด้วย อย่างแรกคือขอเชิญชวนให้ทุกท่านหันมาปลูกพืชผักสวนครัวกัน เพื่อลดค่าใช้จ่าย รวมถึงมีพืชผักที่ปลอดภัยในการรับประทานอาหาร และอีกเรื่องที่มีความสำคัญและต้องขอขอบพระคุณท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยซึ่งเป็นผู้ที่รับเรื่องเพื่อเสนอ ครม. ก็คือ กรมการพัฒนาชุมชนที่ได้รับการสนับสนุนจากสภาสตรีฯ ในการรณรงค์ให้คนสวมใส่ผ้าไทยมากขึ้น รณรงค์ให้ทุกส่วนราชการสวมใส่ผ้าไทย เพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ละ 2 วัน ซึ่งเป้าหมายที่ท่านประธานสภาสตรีฯ ได้กำหนดไว้ให้สวมใส่ทุกวันจึงเป็นผลสำเร็จ รวมถึงการเผยแพร่ทางแผ่นพับ โบรชัวร์ ป้ายการประชาสัมพันธ์ เพื่อให้คนรู้จักผ้าไทยกันมากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นจะมีการรวบรวม เรื่องราวของผ้าไทยทุกจังหวัด ทั้งเรื่องลายผ้ารวมถึงการทอผ้า การทำแบบนี้มุ่งหวังให้พวกเรามีรายได้เพิ่มขึ้น แต่ก็ต้องเริ่มที่ตัวเราเองก่อน ทุกวันนี้คนทอผ้าไม่มีมาก เพราะคนรุ่นใหม่ไม่ทอผ้ากัน เพราะฉะนั้นจังหวัดอำนาจเจริญซึ่งเป็นจังหวัดน้องนุชสุดท้องต้องช่วยกัน ให้ลูกหลานได้สืบสานรักษามรดกผ้าไทยเอาไว้ เพราะว่าเป็นความภาคภูมิใจ เป็นภูมิปัญญาที่บรรพบุรุษถ่ายทอดมาให้กับเรา ต้องช่วยกันรักษาสืบทอดไม่ให้หายไปจากประเทศของเรา” อธิบดี พช.กล่าว
ทั้งนี้ กลุ่มแปรรูปผ้าขาวม้านุชบา เป็นหนึ่งในตัวอย่างของกลุ่ม OTOP ที่กรมการพัฒนาชุมชนร่วมส่งเสริมจนมีศักยภาพสามารถปรับตัวให้สอดคล้องต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดยุคใหม่ได้เป็นอย่างดี ด้วยการนำผ้าขาวม้าทอมือชาวบ้านในท้องถิ่นของจังหวัดอำนาจเจริญ ทั้ง ๗ อำเภอ มาแปรรูปเป็นกระเป๋าและของใช้ต่างๆ และตัดเย็บโดยกลุ่มแปรรูปผ้าในจังหวัด แล้วใช้ช่องทางจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ จนสามารถสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับชุมชนคนอำนาจเจริญ เดือนละมากกว่า ๑ ล้านบาท จากการทอผ้ากว่า ๔๐๐,๐๐๐ บาท และรายได้จากการแปรรูปผ้าคือเย็บกระเป๋า ตัดเย็บเสื้อผ้า และของใช้อื่นๆ อีกกว่าเดือนละ 500,000 บาท จนเป็นที่มาของคำว่า “อำนาจเจริญ ผ้าขาวม้าเงินล้าน”

ขอบคุณ : ภาพข่าวกรมกรมการพัฒนาชุมชน
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ คณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติ

๔๑๙. สภาสตรีแห่งชาติฯ ร่วมกับ กรมการพัฒนาชุมชน มอบถุงยังชีพให้ชุมชนวัดโสมนัส เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ๓ มิถุนายน ๒๕๖๓

วันนี้ ( วันอังคารที่ ๓ มิถุนายน ๒๕๖๓) เวลา ๐๙.๓๐ น.นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน และ ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ พร้อมด้วยนางรชตภร โตดิลกเวชช์ ประธานคณะกรรมการบริหาร สภาสตรีแห่งชาติฯ นำคณะกรรมการอำนวยการ และคณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ เดินทางไปมอบถุงยังชีพ จำนวน ๓๐๐ ชุดให้กับพี่น้องประชาชนชาวชุมชนวัดโสมนัส เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ตามโครงการ “เติมความสุข บรรเทาทุกข์ ด้วยการแบ่งปัน”สภาสตรีแห่งชาติฯ ร่วมกับ กรมการพัฒนาชุมชน ถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ๓ มิถุนายน ๒๕๖๓ ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ อย่างหาที่สุดมิได้ โดยมี นายจิตติศักดิ์ พลางกูร ประธานชุมชนวัดโสมนัส ให้การต้อนรับ พร้อมด้วย นางมนวิภา ประชัญคดี นายกสมาคมส่งเสริมบุคลิกสตรี องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ นางรัศรินทร์ ลัคใหม่กุลวัฒน์ เลขานุการสมาคมฯ และคณะกรรมการ สมาคมฯ และนายยุทธนา ป่าไม้ ผู้อำนวยการเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กล่าวรายงานสภาพความเป็นอยู่และปัญหาของประชากรในพื้นที่ ที่ได้รับกระทบจากสถานะการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า ๒๐๑๙ (COVID – ๑๙) รวมถึงการมอบถุงยังชีพให้ผู้ป่วยติดเตียง จำนวน ๑๐ ราย ต่อประธานในพิธี จากนั้น นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน และ ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ กล่าวปราศรัยพบปะทักทายประชาชนที่มาร่วมงาน ณ ชุมชนวัดโสมนัส เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ได้กล่าวให้กำลังใจพี่น้องประชาชนชาวชุมชนวัดโสมนัส เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย และเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ๓ มิถุนายน ๒๕๖๓ กรมการพัฒนาชุมชน ร่วมแสดงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กรมการพัฒนาชุมชน ได้น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มาสู่การปฏิบัติของประชาชนอยู่แล้ว โดยขับเคลื่อนหลักทฤษฎีใหม่ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ประยุกต์สู่ "โคก หนอง นา โมเดล" ในระดับครัวเรือน ระดับกลุ่มอาชีพ ระดับชุมชน ทั้งยังเดินตามแนวคำสอนที่ทรงดำริไว้ว่า ให้ปลูกป่า ๓ อย่าง เพื่อประโยชน์ ๔ อย่าง ได้แก่ ปลูกป่าสำหรับไม้ใช้สอย ปลูกป่าสำหรับไม้ผล ปลูกป่าสำหรับเป็นเชื้อเพลิง ซึ่งทั้ง ๓ อย่างนี้ สามารถนำไม้มาใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้อย่างเพียงพอ และเมื่อทำทั้ง ๓ อย่างแล้ว เราจะได้รับอย่างที่ ๔ นั่นคือ การอนุรักษ์ดินและน้ำ จึงเรียกได้ว่า ได้ทั้งใช้งาน ดำรงชีวิต และอนุรักษ์ไปด้วยพร้อมกันนั่นเอง จึงเชิญชวนพี่น้องทุกครัวเรือนร่วมใจกันปลูกผักสวนครัว สร้างความมั่นคงด้านอาหารและลดค่าใช้จ่าย ทั้งนี้ กรมการพัฒนาชุมชนกำหนดปฏิบัติการ ๙๐ วัน นับจากวันที่ ๑ เมษายน ถึง ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๓ จะร่วมกับพี่น้องทุกครัวเรือนทั้งประเทศ ปลูกผักสวนครัวให้ครบทุกครัวเรือนเพื่อลดค่าใช้จ่ายเฉลี่ย ๕๐ บาท/ครัวเรือน/วันจะสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายครัวเรือนได้กว่า ๒๐๐,๐๐๐ ล้านบาท/ปี
ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ กล่าวว่า สภาสตรีแห่งชาติฯ จัดทำโครงการ “เติมความสุข แบ่งเบาความทุกข์” ด้วยการแบ่งปัน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ๓ มิถุนายน ๒๕๖๓ ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ อย่างหาที่สุดมิได้ เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบปัญหาของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด- ๑๙ โดยตั้งเป้าหมาย มอบแจกจ่ายถุงยังชีพไม่น้อยกว่า ๕,๐๐๐ ทั้งนี้ ได้ดำเนินการเดินทางไปมอบถุงยังชีพให้พี่น้องประชาชนไปแล้วหลายจังหวัด อาทิ ที่จังหวัดนครปฐม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดสมุทรปราการ ที่ชุมชนเคหะห้วยขวาง กรุงเทพฯ ที่ชุมชนบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ และที่ชุมชน จะทะยอยเดินทางไปมอบถุงยังชีพให้พี่น้องประชาชน ในพื้นที่ต่าง ๆ อาทิ จังหวัดอุดรธานี เป็นต้น ตามเป้าหมายที่เรียนไว้ข้างต้นต่อไป

ฝ่ายประชาสัมพันธ์คณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติฯ

๔๑๘. ประธานสภาสตรีแห่งชาติ นำคณะกรรมการ สภาสตรีแห่งชาติ ฯ ลงนามถวายพระพร เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ๓ มิถุนายน ๒๕๖๓

วันนี้ (๓ มิถุนายน ๒๕๖๓ ) เวลา ๐๙.๐๐ น. และ ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ พร้อมด้วย นางรชตภร โตดิลกเวชช์ ประธานคณะกรรมการบริหาร สภาสตรีแห่งชาติฯ และ ดร.ลาลีวรรณ กาญจนจารี รองประธานสภาสตรีแห่งชาติ ฯ นำคณะกรรมการอำนวยการ และคณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ และองค์กรสมาชิก ทูลเกล้าถวายแจกันดอกไม้ เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ และร่วมลงนามถวายพระพรชัยมงคลสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เพื่อแสดงความจงรักภักดี และน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา ๓ มิถุนายน ๒๕๖๓ ณ ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง

ฝ่ายประชาสัมพันธ์ คณะกรรมการบริหาร สภาสตรีแห่งชาติฯ