๔. สมาคมสตรีอาเซียนกาฬสินธุ์ องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ ร่วมกับมหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ กระทรวงวัฒนธรรม กรมส่งเสริมวัฒนธรรม สภาวัฒนธรรมอำเภอเมือง จัดงาน “สวยสไตล์ภูษาไทย เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง”
วันที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๖๕ ที่ห้องประชุมแพรวา มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ นางธิดา ชูโชติ นายกสมาคมสตรีอาเซียนกาฬสินธุ์ องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ร่วมกับมหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ กระทรวงวัฒนธรรม กรมส่งเสริมวัฒนธรรม สภาวัฒนธรรมอำเภอเมือง จัดงาน “สวยสไตล์ภูษาไทย เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง” ประกอบด้วยการจัดเสวนาเรื่อง “ผ้าไทยกับคนรุ่นใหม่ในประชาคมอาเซียน” โดยมีผู้ร่วมเสวนา ดังนี้ ประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอเมือง ดร.อุมารินทร์ เลิศสหพันธ์ ประธานองค์กรเครือข่ายวัฒนธรรมบ้านนุ่งซิ่น นางสาวณัชปภา จีระกุลกิจ จากคณะสถาปัตย์ประธานกลุ่มผ้าทอลายมงคลมนตราธิกาญจน์ นางสาวจักรวรรดิวัตร ปรีจำรัส และ นางธิดา ชูโชติ นายกสมาคมสตรีอาเซียนกาฬสินธุ์ ผู้ดำเนินรายการ จากนั้น มีพิธีมอบหนังสือ “๕ ไอเดียนุ่งผ้าไทย” ให้กับมหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ คณะบริหารศาสตร์ โรงเรียนอนุกูลนารี โรงเรียนเทศบาล ๔ เฉลิมพระเกียรติ และการเดินแฟชั่นโชว์จากคณะนักศึกษามหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ที่ได้รับการสอนวิธิการนุ่งซิ่น นางแบบและนายแบบกิตติมศักดิ์โดยคณาจารย์มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์และนางแบบกิตติมศักดิ์ชุด ๔ ภาคจากสมาคมสตรีอาเซียน ดังนี้
ชุดแฟชั่นภาคเหนือ
คุณธิดา ชูโชติ คุณอมรรัตน์ จำนงค์นิตย์ คุณมัณฑนา สุภัควณิช. คุณฉุยฉาย จงสำราญ คุณปิยะมาศ พันธ์รักษ์
ชุดแฟชั่นภาคกลาง
คุณณัชประภา จีระกุลกิจ คุณกุลชญา วรพิรางกูร จ.ส.ต.หญิง นุชจินาถ บุญเตือน. ผศ.ภัครวรินทร์ มานะสิริสิทธิ์
ชุดแฟชั่นภาคอีสาน
ดร.อุมารินทร์ เลิศสหพันธ์ คุณรตนพร ปิ่นเย็น คุณภัททิยา จำเริญพัฒน์ คุณศิริรัตน์ พนมเริงศักดิ์ คุณสุวรรณโชค จิว คุณจักรวรรดิวัตร ปรีจำรัส คุณสุมะลัย เกษมวงษ์
ชุดแฟชั่นภาคใต้
ดร.นิภา อาจริยาภิบาล คุณรมิดา เลิศเจตนารมณ์ ดร.ณัฐวดี รอดภัย
การแสดง แฟชั่นผ้าไทยกับคนรุ่นใหม่ในประชาคมอาเซียน ๔ ภาค ได้รับเกียรติ จากกรมส่งเสริมวัฒนธรรม มอบเกียรติบัตรจากกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ให้กับคณะผู้จัดงาน นางแบบและนายแบบทุกท่านอีกด้วย
รายงาน : สมาคมสตรีอาเซียนกาฬสินธุ์ องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ
เรียบเรียงข่าว : ฝ่ายประชาสัมพันธ์ สภาสตรีแห่งชาติฯ
๓. สองสมาคม องค์กรสมาชิกสภาสมาคมสตรีแห่งชาติฯ ในจังหวัดภูเก็ต จับมือจังหวัดภูเก็ตและหลายภาคส่วน ต้อนรับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธาน ในพิธีแต่งงานตาม โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวเสน่ห์ชุมชนยลวิถีย่านเมืองเก่า "วิวาห์บาบำภูเก็ต" ประจำปี ๒๕๖๕
วันที่ ๓ กันยายน ๒๕๖๕ ที่ ย่านเมืองเก่าภูเก็ต ตำบลตลาดใหญ่ อำเภอเมืองภูเก็ต นางจรรยาวรรณ สุวัณณาคาร กรรมการอำนวยการ และประธานภาคใต้ภาคใต้สภาสมาคมสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์พร้อมด้วย สองสมาคม องค์กรสมาชิกสภาสมาคมสตรีแห่งชาติฯ ในจังหวัดภูเก็ต ประกอบด้วย นางสาว รุ่งรัตน์ ศรีสุข นายกสมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทย-ภูเก็ต นางพรพินิจ พัฒนสุวรรณา นายกสมาคมสตรีภูเก็ต และนางศุภางค์พรรณ ขอศานติวิชัย สตรีไทยดีเด่นภูเก็ตประจำปี ๒๕๖๕ ร่วมกันต้อนรับ นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธาน ในพิธีแต่งงานตาม โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวเสน่ห์ชุมชนชนวิถีย่านเมืองเก่า "วิวาห์บาบำภูเก็ต" .ประจำปี พ.ศ.๒๕๖๕ โดยมีนางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม นายอำนวย พิณสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรมหัวหน้าส่วนราชการในจังหวัดภูเก็ต ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้อง
ถิ่น ผู้นำชุมชน ผู้นำท้องถิ่น พี่น้องชาวจังหวัดภูเก็ต และสื่อมวลชน เข้าร่วม โดยกิจกรรมประกอบด้วย การตั้งขบวนเจ้าบ่าว ณ ลานจอดรถ เคพาร์ค ภูเก็ต ถนนกระบี่ ตำบลตลาดเหนือ อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต จากนั้นกลองยาวนำขบวนเจ้าบ่าวเดินออกจาก ลานจอดรถ เคพาร์ค ถึงบ้านชินประชา ,ประธานจุดธูปเทียนไหว้เทวดาพร้อมกับแขกผู้มีเกียรติและคู่บ่าวสาว ประกอบ พิธีผ่างเต๋ ตามลำดับ อาทิ ยกน้ำชา เรียงลำดับ ความอาวุโส ขั้นตอนการจัดที่นั่ง ผู้ใหญ่ยกน้ำชา วิธีรับยก น้ำชา เป็นต้น เมื่อเสร็จพิธี นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวง วัฒนธรรม ผู้บริหารและแขกผู้มี่เกียรติ ร่วมถ่ายภาพกับคู่บ่าว
นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า กระทรวงวัฒนธรรมได้คัดเลือกงาน “วิวาห์บาบ๋าภูเก็ต” เป็น ๑ ใน ๑๖ งานเทศกาล/ประเพณีที่มีความโดดเด่นในแต่ละจังหวัด ที่สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดร่วมบูรณาการกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน เครือข่ายทางวัฒนธรรมและชุมชนจัดขึ้น เพื่อส่งเสริมและยกระดับงานเทศกาลประเพณีของแต่ละท้องถิ่นให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายไปสู่ระดับชาติและนานาชาติ
สำหรับ “ประเพณีวิวาห์บาบ๋าภูเก็ต” ถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาวภูเก็ต ที่สืบทอดกันมานานกว่า ๑๐๐ ปี ที่ก่อเกิดจากบรรพบุรุษสองเชื้อชาติที่มาพบกันครึ่งทาง ฝ่ายชายคือชาวจีนโพ้นทะเล ที่เข้ามาทำเหมืองแร่ ฝ่ายหญิงคือคนท้องถิ่นบนแผ่นดินภูเก็ต ทั้งคู่ได้ให้กำเนิดลูกครึ่งจีน-คนท้องถิ่น ที่เรียกว่า “บาบ๋า” และถือเป็นคนกลุ่มสำคัญที่ขับเคลื่อนให้เมืองภูเก็ตเจริญรุดหน้ามาจนถึงทุกวันนี้ ทำให้ประเพณีวิวาห์บาบ๋าภูเก็ต มีความโดดเด่นและเหมาะแก่การสืบสานต่อยอด เป็น Soft Power ของไทยในธีมอาคาร อาหาร อาภรณ์ จากความโดดเด่นของบ้านเรือนแบบชิโน-ยูโรเปียน อาหารการกินที่เป็น Gastronomy และเครื่องแต่งกายด้วยชุดพื้นเมืองอันเป็นเอกลักษณ์และความสวยงามของจังหวัดภูเก็ต
นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวอีกว่า กระทรวงวัฒนธรรมมีนโยบายมุ่งขับเคลื่อนการสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันและโมเดลเศรษฐกิจใหม่ BCG ของรัฐบาล พร้อมผลักดัน “Soft Power” ความเป็นไทย เพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจสร้างสรรค์ สร้างรายได้และภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ประเทศอย่างยั่งยืน ด้วยการส่งเสริมการท่องเที่ยวด้วยงานประเพณีและวัฒนธรรมที่เป็นภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่โดดเด่นมาจูงใจ และดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนจังหวัดภูเก็ตและประเทศไทยมากขึ้น และพร้อมสนับสนุนส่งเสริมเผยแพร่ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวเทศกาลประเพณีวิวาห์บาบ๋าภูเก็ต ยกระดับไปสู่ระดับโลก เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนของรายได้ภายในจังหวัดภูเก็ตมากยิ่งขึ้น
ฝ่ายประชาสัมพันธ์สภาสตรีแห่งชาติฯ
๒. สมาคมแม่ดีเด่นแห่งชาติประจำจังหวัดอุบลราชธานี และ สมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทยอุบลราชธานี องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ ร่วมพิธีทอดผ้าป่าสามัคคีบูรณะอาคารและที่พักศูนย์พุทธธรรมสมเด็จพระมหาธีราจารย์ ป่าดงใหญ่วังอ้อ จ.อุบลราชธานี
วันพุธที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๖๕ เวลา ๑๓.๓๐ น.นางเพ็ญพักตร์ ศรีทอง สมาชิกวุฒิสภา นายกสมาคมแม่ดีเด่นแห่งชาติประจำจังหวัดอุบลราชธานีองค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ และประธานคณะกรรมการพัฒนาสตรีจังหวัดอุบลราชธานี นางณัฏฐภัค อติเชษฐ์ธนิศ ที่ปรึกษาสมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทยอุบลราชธานี กรรมการอำนวยการสภาสมาคมสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ พร้อมด้วยคณะกรรมการและสมาชิกของสมาคมแม่ดีเด่นแห่งชาติประจำจังหวัดอุบลราชธานี เข้าร่วมพิธีทอดผ้าป่าสามัคคีเพื่อบูรณะอาคารและที่พักศูนย์พุทธธรรมสมเด็จพระมหาธีราจารย์ ป่าดงใหญ่วังอ้อ จ.อุบลราชธานี โดยมี สมเด็จพระมหาธีราจารย์ กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร กรุงเทพมหานคร ประธานฝ่ายสงฆ์ พระเทพวราจารย์ เจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานี พระพิพัฒน์วชิโรภาส และพระปัญญาวชิรโมลี ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงมหาดไทย พระครูโสภณอาภากร เจ้าคณะอำเภอเขื่องใน พระเถรานุเถระ พระภิกษุสามเณร ได้เมตตาให้ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ประธานฝ่ายฆราวาส พร้อมด้วย ฆราวาส ได้แก่ นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี นายชลธี ยังตรง ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร นายทวีป บุตรโพธิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการระดับจังหวัด ปลัดจังหวัด หัวหน้าสำนักงานจังหวัด พัฒนาการจังหวัด นายอำเภอ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ กลุ่มองค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนผู้มีจิตศรัทธา หรือพลัง "บวร" (บ้าน วัด โรงเรียน ราชการ) ทั้งในจังหวัดอุบลราชธานีและพื้นที่ใกล้เคียง ร่วมถวายการต้อนรับและเข้าร่วมพิธีทอดผ้าป่าสามัคคี เพื่อบูรณะอาคารฝึกอบรมและที่พักผู้เข้าอบรม ณ ศูนย์พุทธธรรมสมเด็จพระมหาธีราจารย์ ป่าดงใหญ่วังอ้อ ตำบลหัวดอน อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี
ในส่วนของข้าราชการในสังกัดกระทรวงมหาดไทย นายสมคิด จันทมฤก อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ได้มอบหมายให้ นายสรสาสน์ สีเพ็ง ผู้ตรวจราชการกรมการพัฒนาชุมชน เขตตรวจราชการที่ ๑๔ พร้อมด้วย นายพิสดาร ประดา พัฒนาการจังหวัดอุบลราชธานี นางสาววิจิตร หลงชิน ผู้อำนวยการกลุ่มงานยุทธศาสตร์การพัฒนาชุมชน นางกนกอร โพธิ์สิงห์ ผู้อำนวยการกลุ่มงานส่งเสริมการพัฒนาชุมชน นางสาวเพลินพิศ สาสาย ผู้อำนวยการกลุ่มงานประสานและสนับสนุนการพัฒนาชุมชน พัฒนาการอำเภอ ตลอดจนนักวิชาการพัฒนาชุมชน ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ในสังกัดสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดอุบลราชธานี ร่วมถวายการต้อนรับและเข้าร่วมพิธีฯ พร้อมกันนี้ ได้ร่วมกับสำนักงานจังหวัดอุบลราชธานี นำเสนอนิทรรศการผลการดำเนินงานและกิจกรรมการขับเคลื่อนภารกิจ MOU ระหว่างฝ่ายสาธารณสงเคราะห์ ของมหาเถรสมาคม โดยเจ้าประคุณสมเด็จพระมหาธีราจารย์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า เจ้าคุณทหารลาดกระบัง และคณะสงฆ์ในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี รวมไปถึงโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิต ตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ "โคก หนอง นา โมเดล" เชื่อมโยงสู่การพัฒนาเขตพัฒนาเศรษฐกิจพอเพียง (SEDZ) อุบลราชธานี ด้วยโมเดลเศรษฐกิจใหม่ (BCG) ด้วย
โอกาสอันเป็นมงคลนี้ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ประธานฝ่ายฆราวาส ได้จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย อาราธนาศีล รับศีลจากประธานฝ่ายสงฆ์ รวมถึงนำกล่าวถวายผ้าป่าสามัคคี และถวายเครื่องไทยธรรมแด่พระสงฆ์ กรวดน้ำ รับพร ก่อนกราบลาพระรัตนตรัย และกราบลาประธานสงฆ์ ตามลำดับ จากนั้น ประธานฝ่ายสงฆ์และประธานฝ่ายฆราวาส ยังได้ชมนิทรรศการและกิจกรรมการขับเคลื่อนภารกิจ MOU ระหว่างฝ่ายสาธารณสงเคราะห์ ของมหาเถรสมาคม โดยเจ้าประคุณสมเด็จพระมหาธีราจารย์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า เจ้าคุณทหารลาดกระบัง และคณะสงฆ์ในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี รวมถึงนิทรรศการผลการดำเนินงานโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิต ตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ "โคก หนอง นา โมเดล" เชื่อมโยงสู่การพัฒนาเขตพัฒนาเศรษฐกิจพอเพียง (SEDZ) อุบลราชธานี ด้วยโมเดลเศรษฐกิจใหม่ (BCG) หลังจากเสร็จพิธีฯ
ศูนย์พัฒนาคุณธรรมป่าดงใหญ่วังอ้อ ริเริ่มก่อตั้งตามพระพรหมวชิรญาณ กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดยานนาวา กรุงเทพมหานคร หรือเจ้าประคุณสมเด็จพระมหาธีราจารย์ ในปัจจุบัน ซึ่งมีชาติภูมิที่อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี ได้ริเริ่มและวางรากฐานการจัดตั้งศูนย์พัฒนาคุณธรรมป่าดงใหญ่วังอ้อ (ศูนย์พุทธธรรมพรหมวชิรญาณป่าดงใหญ่วังอ้อ ปัจจุบัน) ที่จังหวัดอุบลราชธานี ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๖๔ ปัจจุบันเป็นองค์กรสาธารณะประโยชน์ และสำนักปฏิบัติธรรมดีเด่นประจำจังหวัดอุบลราชธานี มีวัตถุประสงค์สำคัญ คือ ๑)เพื่อเป็นศูนย์ฝึกอบรมคุณธรรมจริยธรรม พระภิกษุ สามเณร ข้าราชการ พนักงานบริษัท เด็ก เยาวชน นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไป ๒)เพื่อเป็นสถานที่รองรับโครงการ บ้านเปลี่ยนวิถี ให้การบำบัดรักษาฟื้นฟูจิตใจผู้ติดยาเสพติดในเขตจังหวัดอุบลราชธานี และจังหวัดใกล้เคียงในเขตอีสานตอนล่าง ๓)เพื่อเป็นศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง ฝึกอาชีพ ให้แก่ชุมชน ๔)เพื่ออนุรักษ์เขตพื้นที่ป่า และสัตว์ป่าในเขตอนุรักษ์ ๑,๘๑๐ ไร่ ๕)เพื่อให้เป็นศูนย์ต้นแบบที่ทำงานด้านสังคมแบบบูรณาการ ๖)เพื่อให้เป็นโพธิยาลัยมหาวิชชาลัย หมายถึงแนวทางในการฟื้นฟูหมู่บ้าน ชุมชน สังคม และในขณะนี้ ศูนย์พุทธธรรมสมเด็จพระมหาธีราจารย์ป่าดงใหญ่วังอ้อ ได้รับอนุญาตให้สร้างวัดแล้ว และอยู่ระหว่างดำเนินการขอตั้งวัดให้ถูกต้องตามระเบียบต่อไป
ในการจัดพิธีทอดผ้าป่าสามัคคี เพื่อบูรณะอาคารฝึกอบรมและที่พักผู้เข้าอบรม ศูนย์พุทธธรรมสมเด็จพระมหาธีราจารย์ ป่าดงใหญ่วังอ้อ ตำบลหัวดอน อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี ในครั้งนี้ เป็นอีกภาคีเครือข่ายที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งและเป็นศูนย์ที่ได้รับการรับรองจากทางราชการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และตามหลักวิชาการในการบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด มีหน้าที่สำคัญคือ ๑)ฝึกอบรมคุณธรรม จริยธรรมสำหรับบุคคลทั่วไปทั้งระยะสั้น และระยะยาวที่มาอยู่พักแรม ๒)เป็นศูนย์บำบัดฟื้นฟูจิตใจผู้ติดยาเสพติด ซึ่งเป็นการรับผู้ติดยาเสพติดเข้ามาอยู่ในโครงการบ้านเปลี่ยนวิถีเป็นระยะเวลา ๑๕ วัน ๑ เดือน ๓ เดือน ๔เดือน และ ๖ เดือน ตามสภาพของแต่ละคน ๓)เป็นศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งเป็นศูนย์เรียนรู้และฝึกปฏิบัติสำหรับผู้ที่เข้ามาบำบัดรักษา อยู่ในโครงการบ้านเปลี่ยนวิถี และชาวบ้านที่เข้ามาฝึกอาชีพ และ ๔)ป่าชุมชน ซึ่งเป็นป่าอนุรักษ์ที่มีความสมบูรณ์ ที่ใช้เป็นศูนย์เรียนรู้เกี่ยวกับธรรมชาติและเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์อันเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติบำบัดด้วย โดยในการทอดผ้าป่าสามัคคีในครั้งนี้ มีพี่น้องประชาชนผู้มีจิตศรัทธาร่วมสมทบทุน เป็นเงินทั้งสิ้น ๑,๐๓๕,๗๐๓ บาท (หนึ่งล้านสามหมื่นห้าพันเจ็ดร้อยสามบาทถ้วน) ซึ่งปัจจัยที่ได้รับในครั้งนี้ จะได้นำไปเพื่อบูรณะอาคารฝึกอบรมและที่พักผู้เข้าอบรม กระทรวงมหาดไทยขอร่วมอนุโมทนากับพุทธศาสนิกชนทุกท่านมา ณ โอกาสนี้
รายงานข่าว : สมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทยอุบลราชธานี
เรียบเรียงข่าว : ฝ่ายประชาสัมพันธ์สภาสตรีแห่งชาติฯ
๑. สมาคมผู้นำสตรีพัฒนาชุมชนจังหวัดกาญจนบุรี องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ ร่วมกับ จังหวัดกาญจนบุรี และหลายภาคส่วน ทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน จัดงาน “รวมใจแม่และสตรีไทย ถวายแด่แม่ของแผ่นดิน” โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เป็นประธานเปิดงาน
เฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๙๐พรรษา ๑๒ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
วันนี้ ( ๓๑ สิงหาคม ๒๕๖๕) เวลา ๑๐.๐๐ น. ที่ ศาลา ๖๐ พรรษามหาราช อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี นางกิมไน้ สิริพฤกษา นายกสมาคมผู้นำสตรีพัฒนาชุมชนจังหวัดกาญจนบุรี องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ ในฐานะ ประธานคณะกรรมการพัฒนาสตรีจังหวัดกาญจนบุรีและประธานชมรมแม่ดีเด่นแห่งจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ของการจัดงานฯ และหัวหน้าส่วนราชการ คณะกรรมการพัฒนาสตรีจังหวัด สมาชิกสมาคมผู้นำสตรีพัฒนาชุมชนจังหวัดกาญจนบุรี และสมาชิกชมรมแม่ดีเด่นแห่งชาติประจำจังหวัดกาญจนบุรี เข้าร่วมงานฯ โดยมีนายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เป็นประธานเปิดงานในงาน“รวมใจแม่และสตรีไทย ถวายแด่แม่ของแผ่นดิน” พร้อมด้วย นางรชยา ภูมิสวัสดิ์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดกาญจนบุรี และมี คณะกรรมการ สมาคมผู้นำสตรีพัฒนาชุมชนจังหวัดกาญจนบุรี คณะกรรมการพัฒนาสตรีจังหวัด และชมรมแม่ดีเด่นแห่งชาติประจำจังหวัดกาญจนบุรี เข้าร่วมงานเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๙๐พรรษา ๑๒ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อถวายความจงรักภักดีและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในโอกาสที่พระองค์ผู้ซึ่งคนไทยยกย่องว่าเป็น “แม่ของแผ่นดิน” ทรงมีพระชนมายุครบ ๙๐ พรรษา พร้อมทั้งเพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติแก่แม่ทุกท่านที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นแม่ดีเด่น ประจำปี ๒๕๖๕ ร่วมแสดงความกตัญญูกตเวทีที่ลูกมีต่อแม่และสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัว และเพื่อให้สมาชิกองค์กรสตรีจังหวัดกาญจนบุรี มีความเอื้ออาทรช่วยเหลือซึ่งกันและกัน สร้างความรัก ความสามัคคี และสร้างประโยชน์ร่วมกัน
ทั้งนี้ นางรชยา ภูมิสวัสดิ์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดกาญจนบุรี ได้มอบช่อดอกไม้แสดงความยินดีกับสตรีไทยดีเด่น จำนวน ๒ ราย และแม่ดีเด่นแห่งชาติ จำนวน ๒ ราย พร้อมทั้ง นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้มอบโล่เชิดชูเกียรติแก่แม่ดีเด่น จำนวน ๑๓ รางวัล และสตรีดีเด่นประจำจังหวัดกาญจนบุรี จำนวน ๖๓ รางวัล อีกทั้งกิจกรรมภายในงานประกอบด้วย การแสดงนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๙๐ พรรษา ๑๒ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ การมอบทุนแก่แม่ผู้ยากไร้ ๑๓ ราย เด็กพิการ ๑๓ ราย และเด็กนักเรียนดีแต่ยากจน ๑๓ ราย และการแสดงนิทรรศการเผยแพร่ผลงานและประวัติแม่ดีเด่น อีกด้วย
รายงานข่าว : สมาคมผู้นำสตรีพัฒนาชุมชนจังหวัดกาญจนบุรี องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ
เรียบเรียงข่าว : ฝ่ายประชาสัมพันธ์ สภาสตรีแห่งชาติฯ