๓๕๔. กรมการพัฒนาชุมชน รวมพลัง สภาสตรีแห่งชาติฯ จับมือเจ้าเมืองมหาสารคาม รณรงค์สวมใส่ผ้าไทย
๑๑ มกราคม ๒๕๖๓

วันที่ ๑๑ มกราคม ๒๕๖๓  นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน พร้อมด้วย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงขับเคลื่อนรณรงค์การใส่ผ้าไทย กับ นายเกียรติศักดิ์ จันทรา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม นางวริฐา จันทรา ประธานชมรมแม่บ้านจังหวัดมหาสารคาม พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น บริษัท ประชารัฐ จำกัด องค์กรสตรี โดยทุกฝ่ายจะมุ่งมั่นขับเคลื่อนให้พี่น้องประชาชน ชาวจังหวัดมหาสารคาม หันมาใส่ผ้าไทยในทุกวัน  ณ โรงแรมวสุ จังหวัดมหาสารคาม

 

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ กล่าวว่า กรมการพัฒนาชุมชนร่วมกับสภาสตรีขับเคลื่อนโครงการ อนุรักษ์ สืบสาน ศิลป์ผ้าถิ่นไทยดำรงไว้ในแผ่นดิน ทั้งนี้ด้วยพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ของสมเด็จพระพันปีหลวง ที่ทรงมีพระปรีชาชาญ พระวิริยะ พระอุตสาหะ ในการรื้อฟื้นผ้าทอไทย ทั้งผ้าไหม ผ้าฝ้าย ซึ่งเป็นภูมิปัญญาของคนไทย ให้เป็นอาชีพเสริมจากการทำไร่ทำนาในอดีต จนถึงปัจจุบัน ทำให้ผ้าไทยได้รับความนิยมนำมาสวมใส่ ทั้งจากคนไทยและคนต่างชาติ ผ้าทอไทยเป็นภูมิปัญญาของคนท้องถิ่นในแต่ละจังหวัด มีลวดลายเป็นเอกลักษณ์ของตนเอง มีความสวยงาม มีความโดดเด่นของแต่ละกลุ่ม ทำให้การทอผ้ากลายเป็นอาชีพหลักของกลุ่มสตรีในหลายๆ จังหวัด ทั้งนี้สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พระบรมราชินี ยังได้พระราชทานพระราชดำรัสในงานวันสตรีไทย เมื่อวันที่ ๑ สิงหาคม ๒๕๖๒ ว่า พระองค์จะสืบสานพระราชปณิธานของสมเด็จพระพันปีหลวง นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณล้นพ้นต่อปวงชนชาวไทย กรมการพัฒนาชุมชนจึงขอเชิญชวนพี่น้องชาวมหาสารคาม ร่วมกันสืบสาน รักษา ภูมิปัญญาด้านผ้าไทย ด้วยการสวมใส่ผ้าไทยทุกวัน อันจะช่วยทำให้เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียนในชุมชน สร้างความเข้มแข็งแก่ครอบครัวและชุมชน

                                                                                                                                      

ดร.วันดี กล่าวว่า สมเด็จพระพันปีหลวง ได้พระราชทานให้ทุกวันที่ ๑ สิงหาคม เป็นวันสตรีไทย และยังได้พระราชทานดอกกล้วยไม้แคทรียา ควันสิริกิติ์ เป็นดอกไม้ประจำสตรีไทย นอกจากนี้ยังได้พระราชทานหน้าที่ของสตรีไทย ๔ ประการคือ ๑.เป็นแม่บ้านที่ดี ๒.เป็นแม่ที่ดีของลูก ๓.รักษาเอกลักษณ์ วัฒนธรรมไทย ๔.พัฒนาปรับปรุงตนเองอยู่เสมอ ดังนั้นสภาสตรีแห่งชาติฯ จึงได้จัดทำโครงการนี้ขึ้นมาและจับมือกับกรมการพัฒนาชุมชน เพื่อขับเคลื่อนให้คนไทยทั่วประเทศและทั่วโลก หันมาร่วมด้วยช่วยกันใส่ผ้าไทยทุกวัน หากว่าคนไทย ๓๕ ล้านคนร่วมใจกันใส่ผ้าไทย เพียงซื้อผ้าเพิ่มคนละ ๑๐ เมตรละ ๓๐๐ บาท จะเกิดเศรษฐกิจหมุนเวียนในชุมชนกว่า  ๑ แสนล้านบาท

 

นายเกียรติศักดิ์ กล่าวว่า จังหวัดมหาสารคามมีพื้นที่ทำการเกษตรและประชาชนส่วนใหญ่เป็นเกษตรกร นอกจากนี้ยังสามารถปลูกหม่อนเลี้ยงไหม สามารถที่จะพัฒนายกระดับให้เป็นอุตสาหกรรมการผลิตเส้นไหมได้ในอนาคต นอกจากนี้มหาสารคามยังมีการทอผ้าไหม ผ้าฝ้ายมาเป็นเวลาช้านานมีภูมิปัญญาของท้องถิ่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของตนเอง จังหวัดมหาสารคามมีความพร้อมที่จะพัฒนาจังหวัดให้เป็นศูนย์กลางแห่งการผลิตไหมดิบในอนาคตอันใกล้นี้

 

ฝ่ายประชาสัมพันธ์ คณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติฯ

 

 

ดาวน์โหลด