สภาสมาคมสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ จัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙ และเสวนาหัวข้อ "สตรีไทย ก้าวไกลด้วยพระบารมี" ภาคใต้
๓๑ สิงหาคม ๒๕๖๑

                   เมื่อวันที่ ๓๑  สิงหาคม  ๒๕๖๑ เวลา ๑๓.๓๐  น.  ดร.วันดี  กุญชรยาคง  จุลเจริญ  ประธานสภาสมาคมสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ถวายสักการะพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙ และเป็นประธานเปิดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙ และเปิดการเสวนาสัญจร  ๕  ภาคในหัวข้อเรื่อง “สตรีไทย ก้าวไกลด้วยพระบารมี” เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๖ พรรษา ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๑ โดยผู้ร่วมงานนิทรรศการ และผู้ร่วมรับฟังการเสวนา ได้ร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีพร้อมเพรียงกัน  จากนั้น นายราชิต  สุดพุ่ม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ให้เกียรติกล่าวต้อนรับ นายกองค์กรสมาชิกในเขตภาคใต้ ของสภาสมาคมสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราขินูปถัมภ์  ซึ่งเป็นภาคีผู้ร่วมจัดงาน  สำหรับการเสวนาหัวข้อเรื่อง “สตรีไทย ก้าวไกลด้วยพระบารมี” ได้รับเกียรติจาก ดร.วันดี กุญชรยาคง  จุลเจริญ ประธานสภาสมาคมสตรีแห่งชาติ
ในพระบรมราชินูปถัมภ์
เป็นผู้นำดำเนินรายการเสวนา โดยมีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ ประกอบด้วย นายนพรัตน์  เรืองปฏิกรณ์ นักวิชาการประมง ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงอ่าวไทยตอนล่าง (สงขลา) ว่าที่ ร้อยโทดิลก ศิริวัลลภ ผู้ดูแลสมาชิกโครงการศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙ จังหวัดนราธิวาส  นายมูหามะสุกรี  มะสะนิง  นายกสมาคมชาวประมงพื้นบ้านจังหวัดปัตตานี  และประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนโอรังปันตัย  นอกจากนี้มีภาคีผู้ร่วมจัดงานทั้งหมด หัวหน้าส่วนราชการในจังหวัดสงขลาผู้แทนอาจารย์และนักเรียน มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา โรงเรียนสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดสงขลา และกรรมการอำนวยการ กรรมการสมาชิกสมทบ และองค์กรสมาชิกในพื้นที่ภาคใต้ของสภาสมาคมสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์  ประชาชน นักศึกษา นักเรียน ในพื้นที่จังหวัดสงขลา และจังหวัดใกล้เคียงในภาคใต้ รวมถึงสื่อมวลชนในท้องถิ่น  เข้าร่วมงานประมาณ  ๑,๒๐๐  คน  ณ  หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา

                   สภาสมาคมสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ได้รับพระราชทานพระราชานุญาตเชิญพระฉายาลักษณ์ภาพพระราชกรณียกิจพร้อมอักษรพระนามาภิไธย ส.ก. และพระราชดำรัสคัดตัดตอนของสมเด็จ
พระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙ มาจัดแสดงนิทรรศการเนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๖ พรรษา ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๑ และเสวนาในหัวข้อเรื่อง “สตรีไทย ก้าวไกลด้วยพระบารมี”  โดยในครั้งนี้ จัดในพื้นที่ภาคใต้เป็นภาคสุดท้ายครบ ๕ ภาค และได้รับพระราชทานพระราชานุญาตให้จัดทำพระฉายาลักษณ์
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาล ๙  เพื่อมอบแก่สตรีไทยและผู้นำองค์กรสมาชิกสภาสมาคมสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ จำนวน ๒๑๑ องค์กรทั่วประเทศ  เพื่อนำไปมอบต่อให้กับสมาชิกในองค์กรและสตรีไทย รวมถึงประชาชนทั่วไป ไว้บูชาเป็นมิ่งขวัญและเป็นสิริมงคลต่อครอบครัวและวงศ์ตระกูลสืบไป 

                     นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙  ได้อัญเชิญภาพพระราชกรณียกิจที่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙ ทรงมุ่งมั่นในการปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการ เพื่อแบ่งเบาพระราชภาระของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร  ในการอุปถัมภ์บำรุงพสกนิกร ให้มีความอยู่ดี กินดี อาทิ พระราชกรณียกิจในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทรงส่งเสริมการทอผ้าแพรวา ผ้าไหมมัดหมี่ให้กลับคืนสู่ความนิยมและสร้างรายได้เสริมที่สำคัญให้แก่ราษฎร พระราชกรณียกิจในภาคกลาง มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ เพื่อสร้างอาชีพแก่ราษฎรและพื่อธำรงรักษาและฟื้นฟูหัตถกรรมแบบไทยโบราณซึ่งกำลังจะเสื่อมสูญไปตามกาลเวลาให้กลับมาแพร่หลาย โครงการฟาร์มตัวอย่างตามพระราชดำริเพื่อยกระดับความเป็นอยู่ของราษฎรให้มีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น พระราชกรณียกิจในภาคตะวันออก ทรงช่วยเหลือราษฎรผู้ยากไร้ให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี รวมถึงราษฎรในประเทศเพื่อนบ้านที่หนีร้อนมาพึ่งเย็นในประเทศไทยกรณีการจัดตั้งศูนย์ราชการุณย์สภากาชาดไทย เขาล้าน อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด และโครงการสมเด็จฯ อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล พระราชกรณียกิจในภาคเหนือโครงการสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูง ตามพระราชดำริ เพื่อราษฎรสามารถดำรงชีพอยู่ในพื้นที่ทำกินเดิมได้อย่างมีความสุขมีอาหารเพียงพอต่อการบริโภคทั้งปีและมีจิตสำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ โครงการคืนช้างสู่ธรรมชาติ พระราชกรณียกิจในภาคใต้โครงการฟื้นฟูทรัพยากรชายฝั่งทะเลอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยการจัดสร้างแหล่งอาศัยสัตว์ทะเล (ปะการังเทียม) เพื่อฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำให้มีความอุดมสมบูรณ์ ทำให้มีแหล่งทำการประมงสำหรับชาวประมงขนาดเล็กเพิ่มขึ้น และการส่งเสริมอาชีพย่านลิเภา เป็นต้น พร้อมกันนี้ยังได้รับพระราชทานพระราชานุญาตให้เชิญภาพฉลองพระองค์ชุดไทยพระราชนิยม ได้แก่ ชุดไทยเรือนต้น ชุดไทยจิตรลดา ชุดไทยอมรินทร์ ชุดไทยบรมพิมาน ชุดไทยจักรี ชุดไทยดุสิต ชุดไทยศิวาลัย และชุดไทยจักรพรรดิ ดอกไม้ในพระนามาภิไธย จำนวน ๔ ชนิด ได้แก่ กล้วยไม้คัทลียาควีนสิริกิติ์ กุหลาบควีนสิริกิติ์  ดอนญ่าควีนสิริกิติ์ และบัวควีนสิริกิติ์ และด้วยพระเกียรติคุณแห่งพระราชกรณียกิจอเนกประการอันเป็นที่ทราบอย่างกว้างขวางทั้งในประเทศและนอกประเทศทั่วโลก จึงมีผู้ขอทูลเกล้าฯ ถวายรางวัลเกียรติยศเพื่อสดุดีพระเกียรติคุณกันเป็นอันมาก ดังตัวอย่างที่เชิญมาจัดแสดงในนิทรรศนี้ ได้แก่ เหรียญเซเรส เหรียญทองเฉลิมพระเกียรติคุณ และรางวัลหลุยส์ ปาสเตอร์ เป็นต้น

                   นอกจากนี้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย ร่วมกับ สภาสมาคมสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์  สนับสนุนให้เยาวชนในพื้นที่ของทุกภาค วาดภาพส่งประกวดภายใต้แนวคิด “ความประทับใจแม่ของแผ่นดิน ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๑”  จัดขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ ตลอดถึงการเสริมสร้างให้เยาวชนมีความตระหนักรู้สำนึกในพระคุณแม่ของแผ่นดิน โดยกลุ่มเป้าหมายเป็นนักเรียน ระดับประถมศึกษา ระดับมัธยมศึกษา ในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และเยาวชน นักศึกษาและนักเรียนทั่วไป รวมถึง โรงเรียน ทั้งภาครัฐและเอกชน สามารถส่งนักเรียนเข้าร่วมวาดภาพและส่งผลงานประกวดได้ทุกภาค

                 สำหรับ เยาวชนที่เข้าร่วมวาดภาพส่งประกวดภายใต้แนวคิด “ความประทับใจแม่ของแผ่นดิน ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๑” เป็นนักศึกษาระดับมหาวิทยาลัย ประกอบด้วย คณะนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา ระดับมัธยมศึกษา และระดับประถมศึกษา ประกอบด้วย โรงเรียนสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดสงขลา รวมผู้เข้าร่วมประกวดการวาดภาพประมาณ ๑๓๐ คน

                 การเสวนาในวันนี้ สภาสมาคมสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ได้สัญจรไปยังทุกภาคชองประเทศไทย ครบ ๕ ภาค ภายใต้แนวคิด  “สตรีไทย ก้าวไกลด้วยพระบารมี”  เป็นการถ่ายทอดประสบการณ์  จากบุคคลที่ได้รับพระมหากรุณาจากพระองค์ท่าน ส่งผลให้ ประชาชนในทุกพื้นที่ทุกภาค มีอาชีพ มีรายได้ และครอบครัวมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยสัญจรไป ๕ ภาคดังนี้  ๑. ภาคกลาง วันอังคารที่ ๗ สิงหาคม ๒๕๖๑ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา  ๒. ภาคเหนือ วันพุธที่ ๑๕ สิงหาคา ๒๕๖๑ จังหวัดเชียงใหม่  ๓. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ วันพฤหัสบดีที่  ๒๓  สิงหาคม  ๒๕๖๑ จังหวัดอุดรธานี  ๔. ภาคตะวันออก อังคารที่ ๒๘ สิงหาคม ๒๕๖๑ จังหวัดตราด   ๕. ภาคใต้ วันศุกร์ที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๖๑ จังหวัดสงขลา รวมองค์กรสมาชิกทั่วประเทศ ๒๑๑  องค์กรของสภาตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ และภาคีเครือข่าย ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ตลอดจนประชาชนทั่วไป นักเรียน นักศึกษา  พร้อมด้วยสื่อมวลชนทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคเข้าร่วมงานประมาณ
๑๐,๐๐๐ คน