๙๙๔.ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย ประธานสภาสตรีแห่งชาติฯ และนายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ลงพื้นที่ตรวจติดตามการดำเนินงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี และเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการมหกรรมรวมพลคนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี จังหวัดหนองบัวลำภู
๑๙ มีนาคม ๒๕๖๕

วันนี้ ๑๗ มีนาคม ๒๕๖๕ เวลา ๐๙.๐๐ น. ที่โรงแรมณัฐพงษ์แกรนด์ อ.เมืองหนองบัวลำภู จ.หนองบัวลำภู นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์และนายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการมหกรรมรวมพลคนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี จังหวัดหนองบัวลำภู โดยมี นายโสภณ สุวรรณรัตน์ รองหัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย นางศิวพร ฉั่วสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู นายสุวิทย์ จันทร์หวร รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู คุณอธิมุติ กาญจนมณี นายอนุชา พัสถาน ปลัดจังหวัดหนองบัวลำภู นางฐพัชร์รดา ธนินท์จิรานนท์ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดหนองบัวลำภู นายเสฏฐชัย ยุทธเศรษฐสิริ พัฒนาการจังหวัดหนองบัวลำภู นายวุฒิพงษ์ ศิริสถิต นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองบัวลำภู นางอรณัฏฐ์ ถาบุตร ประธานคณะกรรมการพัฒนาสตรีจังหวัดหนองบัวลำภู หัวหน้าส่วนราชการ คณะกรรมการพัฒนาสตรีระดับจังหวัด คณะกรรมการพัฒนาสตรีอำเภอ และสมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี จำนวน ๒๐๐ คน ร่วมในงาน

 

โอกาสนี้ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ พร้อมด้วย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ และคณะ ร่วมรับชมการแสดงชุด “สตรีศรีลุ่มภู เชิดชูวัฒนธรรมไทย” และมินิแฟชั่นโชว์ “เมืองแฟชั่นผ้าทอพื้นเมือง” พร้อมเยี่ยมชมนิทรรศการผ้าทอและการออกแบบชุดผ้าไทยของสมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจังหวัดหนองบัวลำภู

 

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ผู้นำสตรีทุกท่าน ณ ที่นี้มีหัวใจเดียวกัน คือ หัวใจแห่งการเป็นห่วงเป็นใยครอบครัว เพราะสตรีไทยเป็นเสมือนเสาหลักที่รับผิดชอบในการดูแลสมาชิกในครอบครัว โอบเอื้อชีวิตความเป็นอยู่ของบุตรหลาน และที่สำคัญที่สุดคือชีวิตของสามี ซึ่งสังคมไทยเราอยู่ได้เพราะสตรี ซึ่งรัฐบาลมุ่งหวังและฝากความหวังไว้กับสตรีไทยทุกคน จึงเป็นที่มาของการจัดตั้งกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี เพื่อมีเงินทุนหมุนเวียนให้พวกเราที่เป็นสมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีนำไปลงทุนประกอบสัมมาชีพ ก่อให้เกิดรายได้ที่จะเลี้ยงดูครอบครัว พัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในครอบครัว และในขณะเดียวกัน สมาชิกกองทุนฯ มีความรับผิดชอบในการส่งใช้คืนเงินทุนหมุนเวียน ดังเช่น กองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจังหวัดหนองบัวลำภู เป็นลำดับที่ 2 ของผู้ที่มีหนี้เสียน้อยที่สุดของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งมีนัยสำคัญแสดงถึงความมุ่งมั่นของสมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีในการที่จะทำให้กองทุนเกิดความยั่งยืน

 

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวต่อว่า เนื่องในโอกาสมหามงคลที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง จะทรงเจริญพระชนมพรรษา ๙๐ พรรษา ในวันที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๕กระทรวงมหาดไทยร่วมกับสมาคมแม่บ้านมหาดไทย และทุกจังหวัด ขับเคลื่อนกิจกรรมที่เป็นประโยชน์เพื่อเป็นการถวายพระพรด้วยการปฏิบัติบูชา ได้แก่ ๑) รณรงค์ให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่สวมใส่ผ้าไทยเพิ่มจำนวนวันให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งจังหวัดหนองบัวลำภู จากเดิมกำหนด ๔ วัน เพิ่มเป็น ๖ วัน เพื่อสืบสานพระราชปณิธานของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงชุบชีวิตผ้าไทยกลับมาเป็นเครื่องมือในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนอีกครั้งหนึ่ง ด้วยการทำให้ผ้าไทยเป็นที่ต้องการ และเป็นที่นิยมในการสวมใส่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ร่วมกันสวมใส่ผ้าไทยสีฟ้าในทุกวันศุกร์ ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระองค์ท่าน นอกจากนี้ เราโชคดีที่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงมีพระปณิธานอันแน่วแน่ ในการสืบสาน รักษา และต่อยอดพระราชปณิธาน ด้วยการพระราชทานแนวความคิด "โครงการผ้าไทยให้สนุก" เพื่อให้คนทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่เด็กเล็กจนถึงวัยผู้ใหญ่ สามารถรวมใส่ผ้าไทยได้ในทุกโอกาสในชีวิตประจำวัน ซึ่งจังหวัดหนองบัวลำภูโชคดีเป็นเหมือนจังหวัดเมืองหลวงของผ้าไทยอีกจังหวัดหนึ่ง ที่มีศิลปิน มีช่างทอที่มีความสามารถสูงส่ง เช่น ผ้าทอแม่ลำดวน เป็นต้น จึงขอให้ร่วมกันอุดหนุนผ้าไทยทั้งในจังหวัดและจังหวัดอื่น ๆ เพื่อให้เม็ดเงินหมุนเวียนจุนเจือคนไทยด้วยกัน  ๒) ร่วมกับสมาชิกในครอบครัวพัฒนาพื้นที่รอบ ๆ บ้าน ด้วยการจัดทำถังขยะเปียกลดโลกร้อน เพื่อให้มีปุ๋ยอินทรีย์จากขยะเปียก ลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซค์สู่ชั้นบรรยากาศ อันจะช่วยลดภาวะโลกร้อนด้วยมือของพวกเรา พร้อมร่วมกันปลูกผักสวนครัว เพื่อให้มีพืชผักสวนครัวที่ปลอดภัยจากสารพิษมาทำอาหารรับประทาน ทั้งยังประหยัดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนอีกด้วย และ ๓) ร่วมกันขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาความยากจนและความเดือดร้อนทุกเรื่องของพี่น้องประชาชนที่ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยตนเอง เช่น ไม่มีบัตรประชาชน ไม่มีทะเบียนบ้านบ้าน ไม่มีน้ำใช้ ไม่มีไฟฟ้าใช้ บ้านไม่มั่นคงแข็งแรง มีผู้ป่วยเรื้อรัง ลูกหลานติดยาเสพติด เป็นหนี้นอกระบบ หรือแม้แต่เด็กไม่มีทุนการศึกษา และเรื่องความเดือดร้อนอื่น ๆ ภายใต้การขับเคลื่อนศูนย์อำนวยการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (ศจพ.) ภายใต้การนำของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยมี พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานคณะกรรมอนุกรรมการขับเคลื่อนฯ ซึ่งท่านผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอเป็นประธานขับเคลื่อนในระดับจังหวัดและระดับอำเภอ ซึ่งจะสำเร็จได้ต้องอาศัยความร่วมมือของผู้นำสตรีทั้งหลาย ได้กรุณาช่วยกันในการให้การสนับสนุน โดยขอให้ช่วยกันแจ้งที่ท่านผู้ว่าการจังหวัด นายอำเภอ หรือสายด่วน ๑๕๖๗ ศูนย์ดํารงธรรมกระทรวงมหาดไทยโทรฟรีตลอด  ๒๔ ชั่วโมง เพื่อให้ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดและท่านนายอำเภอมีข้อมูลและมอบหมายทีมพี่เลี้ยงไปช่วยวิเคราะห์ช่วยเหลือต่อไป

 

ด้าน ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ และนายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย กล่าวชื่นชมรัฐบาลที่ให้การสนับสนุนบทบาทสตรีให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนต้นทุนต่ำได้อย่างสะดวกสบาย ทำให้สตรีในชนบทมีโอกาสในการประกอบอาชีพหาเลี้ยงครอบครัว สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้ลูกหลาน รวมทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้สตรีไทยได้มีโอกาสบริหารจัดการกลุ่ม ยกระดับคุณภาพการผลิต การตลาดอย่างครบวงจร ที่สำคัญสมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีทั้ง ๑๕ ล้านคนทั่วประเทศ ได้พิสูจน์ตนเองอย่างดียิ่งว่าเป็นผู้มีความรับผิดชอบ จนทำให้การผิดนัดชำระหนี้มีอัตราที่ต่ำมากไม่ถึง ๑๐ % โดยเฉพาะสตรีหนองบัวลำภูมีการผิดนัดชำระหนี้เพียง ๔ % เท่านั้น จึงมั่นใจว่าในอนาคตอันใกล้รัฐบาลจะให้การสนับสนุนเพิ่มทุนหมุนเวียนให้กองทุนพัฒนาบทบาทสตรีเพิ่มมากขึ้นเพื่อให้สตรีได้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็งเพิ่มมากขึ้น

 

ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ และนายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ สมาคมแม่บ้านมหาดไทยได้ร่วมกับเหล่ากาชาดจังหวัดทุกจังหวัดและชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัด จัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ด้วยการสนับสนุนช่วยเหลือให้พี่น้องประชาชนที่เดือดร้อนด้านที่อยู่อาศัยให้มีบ้านที่มั่นคงแข็งแรงทุกครัวเรือน และจัดหารถวีลแชร์ให้กับผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ที่จำเป็นต้องใช้ และครอบครัวไม่สามารถซื้อได้ เพื่อที่จะให้เขาได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งข้อมูลความเดือดร้อนต่าง ๆ เหล่านี้ จำเป็นต้องอาศัยข้อมูลจากทุกภาคส่วน จึงขอให้พวกเราช่วยกันในการที่จะรวมพลังของคนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี แจ้งข้อมูลไปยังท่านผู้ว่าฯ และท่านนายอำเภอ ทำความดีเพื่อสังคม ถวายเป็นพระราชกุศล และเป็นการถวายพระพรแด่พระองค์ท่านในวาระอันเป็นมหามงคลนี้

 

ในช่วงท้าย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอขอบคุณผู้นำสตรีทุกท่านที่ร่วมกันแสดงออกในสิ่งที่ดีงาม ทั้งการรณรงค์ให้ทุกภาคส่วนสวมใส่ผ้าไทย และการตั้งใจประกอบสัมมาชีพ เพื่อมีรายได้เลี้ยงดูครอบครัว และขอให้พวกเราทุกคนได้มั่นใจว่ารัฐบาลจะไม่ทอดทิ้งพี่น้องสตรีที่มีความประพฤติที่ดีงาม ดูแลครอบครัว รับผิดชอบ เสียสละ มีจิตอาสา เพื่อสังคม และขอเชิญชวนให้หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้ให้การสนับสนุนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีของหนองบัวลำภูและจังหวัดต่าง ๆ ด้วยการให้กำลังใจ เข้าไปช่วยพัฒนายกระดับคุณภาพของผลิตภัณฑ์ และที่สำคัญที่สุด ช่วยขยายผล เผยแพร่ สนับสนุน กิจกรรมและผลิตภัณฑ์ของกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีและวิสาหกิจชุมชน OTOP ต่าง ๆ ให้เพิ่มพูนมากขึ้น เพื่อให้พี่น้องคนไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นจากการประกอบสัมมาชีพอย่างยั่งยืน

 

นางอรณัฏฐ์ ถาบุตร ประธานคณะกรรมการพัฒนาสตรีจังหวัดหนองบัวลำภู กล่าวว่า ปัจจุบันจังหวัดหนองบัวลำภู มีสมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ประกอบด้วย สมาชิกประเภทองค์กร จำนวน  ๗๕๔องค์กร คิดเป็นร้อยละ ๑๐๐ สมาชิกประเภทบุคคลธรรมดา จำนวน ๑๔๐,๒๕๔ คน คิดเป็น ร้อยละ ๖๕.๔๘. ของสตรีที่มีคุณสมบัติ มีสมาชิกที่กู้ยืมเงินทุนหมุนเวียนตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๕๖ - ๒๕๖๔  จำนวน ๒,๐๑๖  โครงการ เป็นวงเงิน ๑๖๖,๐๑๔, ๑๖๖,๐๑๔,๔๗๘ ซึ่งปัจจุบันคงเหลือโครงการที่กู้ยืมเงินทุนหมุนเวียน จำนวน 738 โครงการ จำนวนเงิน ๖๗,๔๕๓ ,๒๑๔.๗๐ บาท ซึ่งกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี เป็นแหล่งเงินทุนหมุนเวียนดอกเบี้ยต่ำในการสร้างโอกาสให้สตรีเข้าถึงแหล่งเงินทุนสำหรับการลงทุน เพื่อพัฒนาอาชีพ สร้างงาน สร้างรายได้ และเสริมสร้างความเข้มแข็งทางด้านเศรษฐกิจให้แก่สตรีและองค์กรสตรี รวมถึงเป็นแหล่งเงินทุนเพื่อส่งเสริมสนับสนุนการจัดกิจกรรมในการพัฒนาบทบาทสตรี พัฒนาองค์ความรู้ เสริมสร้างความเข้มแข็งทางด้านสังคมให้แก่สตรี