๙๒๓.สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงพระกรุณาโปรดฯ ให้ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน และ ประธานสภาสตรีแห่งชาติฯ เข้าเฝ้าฯ ถวายรายงานการพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าและงานหัตถกรรมชุมชนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ วังศุโขทัย
๐๕ พฤษภาคม ๒๕๖๔

วันที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๔ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ยกระดับผ้าไทยอีสาน- สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงพระกรุณาโปรดฯ ให้นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย และ ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ และประธานชมรมแม่บ้านพัฒนาชุมชน เข้าเฝ้าฯ ถวายรายงานการพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าและงานหัตถกรรมชุมชนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ วังศุโขทัย

สืบเนื่องจาก ได้เสด็จไปทอดพระเนตรผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น ในงานสืบสานอนุรักษ์ศิลป์ ผ้าถิ่นไทย ดำรงไว้ในแผ่นดิน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตามโครงการยกระดับผลิตภัณฑ์ภูมิปัญญา OTOP ณ หอประชุมจามจุรี มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร เมื่อวันที่ ๑๔ - ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๓

โดย กรมการพัฒนาชุมชน ร่วมกับสภาสตรีแห่งชาติฯ นำกลุ่มผู้ประกอบการ OTOP ผลิตภัณฑ์จากภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ขึ้นชื่อ ๔๒ ราย ใน ๒๐ จังหวัดทั่วทั้งภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อาทิ กลุ่มชุมชนภูไทดำ กลุ่มไหมสมเด็จ กลุ่มสตรีทอผ้าไหมแพรวาบ้านโพน จากจ.กาฬสินธุ์, กลุ่มทอผ้าไหมแต้มหมี่บ้านหัวฝาย กลุ่มหัตถกรรมคุ้มสุขโข จากจ.ขอนแก่น, กลุ่มทอผ้าย้อมสีธรรมชาติหนองบัวแดง จากจ.ชัยภูมิ, ฅญา บาติก ฉัตรทองไหมไทย จากจ.นครราชสีมา

 

รวมถึงผ้าย้อมครามธรรมชาติสินค้าขึ้นชื่อของ จ.สกลนคร ที่ปัจจุบันมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับทั้งในระดับประเทศและต่างประเทศ ยังมีเครื่องประดับเงิน และทอง จากจ.สุรินทร์, อุบลราชธานี และงานจักสาน จากจ.ยโสธร ร่วมจัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในโครงการดังกล่าว

 

ทรงมีพระปฏิสันถารกับผู้ประกอบการ ที่เฝ้ารับเสด็จฯ และมีพระวินิจฉัยแนะแนวทางการพัฒนากรรมวิธี คุณภาพ ลวดลาย เพื่อนำไปต่อยอดพัฒนาผลิตภัณฑ์แก่ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ด้วยทรงเล็งเห็นถึงการอนุรักษ์หัตถศิลป์อันล้ำค่า ที่สะท้อนถึงบริบททางสังคมและวัฒนธรรมของแต่ละภูมิภาค ควบคู่ไปกับการยกระดับสู่สากล

 

 

 

เดิมในวันที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๔  พระองค์ทรงมีกำหนดการเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎรและกลุ่มสมาชิก OTOP ที่เคยพระราชทานคำแนะนำและแรงบันดาลใจ อันเป็นดั่งการบ้านที่ท้าทายฝีมือไว้ให้แก่กลุ่มผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP แต่เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ จึงเลื่อนการเสด็จพระราชดำเนิน

 

ด้วยพระเมตตา ทรงทอดพระเนตรเห็นถึงความตั้งใจจริงของทุกคน ทุกกลุ่ม ที่ได้ทำผลงานถวายผ่านกรมการพัฒนาชุมชน จึงโปรดให้นำผลงานที่ได้รับการพัฒนาตามพระวินิจฉัยมาให้ทรงตรวจ และให้คำแนะนำ ณ พระตำหนัก วังศุโขทัย

 

โอกาสนี้ นายสุทธิพงษ์ และ ดร.วันดี ถวายรายงานผลงานการพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าและงานหัตถกรรมชุมชน ที่พัฒนาโดยน้อมนำตามพระวินิจฉัยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา จำนวน  ๒๓ ชิ้นงาน จาก ๑๖  จังหวัด

 

 

 

อาทิ ผ้าไหมแพรวา กลุ่มชุมชนภูไทดำ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งสมาชิกในกลุ่มได้รับสนองตามพระราชวินิจฉัย พัฒนาลวดลายเป็น “ลายช่อใหม่” และ “ลายเคอไต่ไม้” ต่อยอดจากแพรวาดั้งเดิม, ผ้าไหมบาติกเขียนมือ กลุ่มฅญาบาติก จ.นครราชสีมา ต่อยอดประยุกต์เป็นผ้าไหมบาติกเขียนมือ “ลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ” เกิดจากการถ่ายทอดองค์ความรู้ให้เยาวชนในชุมชนได้ฝึกทักษะ

 

ผ้าไหมพิมพ์ลายประยุกต์ ฉัตรทองไหมไทย จ.นครราชสีมา พัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยน้อมนำลายผ้าพระราชทาน “ผ้ามัดหมี่ลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ” ประยุกต์ลงบนผืนผ้าไหม ได้รับการยอมรับ ชื่นชมถึงความแปลกใหม่ และสร้างมูลค่าเพิ่มจากเดิมหลายเท่า

 

 

ผ้าหมักโคลนย้อมสีธรรมชาติ กลุ่มทอผ้าบ้านสะง้อ จ.บึงกาฬ รับสนองตามพระราชวินิจฉัยปรับปรุงใน 3 ด้าน ได้แก่ ด้านภาพลักษณ์ พัฒนาตราผลิตภัณฑ์ให้ทันสมัย ด้านการจัดร้านให้มีรูปแบบ เรื่องราวที่เข้ากับผลิตภัณฑ์ จัดแสดงวัตถุดิบที่ใช้ย้อมเพื่อให้ผู้บริโภครู้จักความเป็นมาของผลิตภัณฑ์ และด้านผลิตภัณฑ์ มีการเพิ่มเส้นใยธรรมชาติ ปรับการเดินเส้นตัดเย็บให้เป็นระเบียบเรียบร้อย

ผ้าไหมมัดย้อมซ่อนมัดหมี่ กลุ่มผ้าครามเมืองพุท จ.บุรีรัมย์ ทรงมีพระวินิจฉัยว่าการวางเฉดสีที่มีความเข้ม ส่งผลให้ลายมัดหมี่ไม่คมชัด และขาดจุดเด่น กลุ่มจึงพัฒนาเลือกผ้ามัดหมี่ที่มีลวดลายคมชัดและมัดย้อมด้วยโทนสีสว่าง และใช้เฉดสีที่ตัดกันกับผ้าลวดลายเดิม เพื่อให้ลวดลายเดิมคมชัดยิ่งขึ้น

 

ผ้าไหมมัดหมี่ประยุกต์ ลวดลายแฟชั่น กลุ่มผ้าตุ้มทอง จ.บุรีรัมย์ ทรงชื่นชมว่าสวยงามเป็นผลิตภัณฑ์แนวแฟชั่น และทรงแนะนำควรฟอกย้อมด้วยสีธรรมชาติ กลุ่มจึงพัฒนาการย้อมสีด้วยเปลือกไม้ธรรมชาติ ได้แก่ ต้นประดู่ และต้นไม้พื้นถิ่นอื่นๆ ที่ให้สีติดทนนานยิ่งขึ้น

 

ผ้าไหมยกทอง กลุ่มเฮือนผ้าเฮือนแพร จ.มหาสารคาม ทรงพระวินิจฉัยแนะให้ใช้เส้นเงิน/ทอง ที่นำเข้าจากอินเดีย แทนเส้นเงิน/ทองจากญี่ปุ่น เนื่องจากคุณภาพดีกว่า กลุ่มพัฒนาตามพระราชวินิจฉัย โดยทอมือด้วยไหมไทยพันธุ์พื้นบ้าน ย้อมด้วยสีธรรมชาติ ใช้เส้นเงิน/ทอง จากอินเดีย

 

ผ้าหมี่ขิดสะกิดล้วง ย้อมสีธรรมชาติ กลุ่มฝ้ายแกมไหม จ.อุดรธานี ทรงพระวินิจฉัยให้ใช้สีธรรมชาติในการย้อม ให้มีเฉดสีสันมากกว่าเดิม กลุ่มจึงสร้างสรรค์ลวดลายบนผืนผ้าใช้เส้นใยฝ้ายแกมไหม ย้อมสีธรรมชาติโดยใช้ใบกระถินและขมิ้นเพิ่มความเข้มให้สีผ้า, เข็มขัดเงิน กลุ่มดาเครื่องเงิน และตอกลาย โดยนางณัฎฐา ธนุนาจารย์ จ.สุรินทร์ ทรงพระวินิจฉัยให้ทำเข็มขัดที่เปลี่ยนได้หลายๆ หัว นอกจากความงดงามแล้ว ยังเกิดความหลากหลายในการใช้งาน

ทั้งนี้ ทรงให้ความสนพระทัย ทอดพระเนตรโดยละเอียดทุกผลงาน ด้วยพระปรีชาญาณในด้านศิลปะ การออกแบบ และเข้าพระทัยถึงทิศทางและความเป็นไปของวงการแฟชั่น ทรงพระราชทานแนวทางการพัฒนาต่อยอดที่ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งด้านคุณภาพของสี โทนสี คุณภาพเส้นใย และเทรนด์ที่จะโดดเด่นอยู่ในแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ในอนาคต

รวมถึงวัสดุที่เลือกใช้ ลวดลายและเทคนิคการทอผ้าแบบต่างๆ แก่ประธานสภาสตรีแห่งชาติฯ เพื่อนำไปอธิบายขยายผลสู่ทุกกลุ่มให้สามารถสร้างสรรค์คุณค่า คุณภาพ และความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น ตามพระประสงค์ต่อไป

 

กรมการพัฒนาชุมชน และสภาสตรีแห่งชาติฯ ได้รับพระกรุณาธิคุณ พระราชทานลายผ้า ชื่อลาย “ผ้ามัดหมี่ลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ” ตามพระดำริ “ผ้าไทย ใส่ให้สนุก” จากการเสด็จไปทอดพระเนตรผลิตภัณฑ์ด้านผ้า และงานหัตถกรรม 3 ภูมิภาค และพระราชทานพระอนุญาตให้กลุ่มทอผ้าทุกกลุ่ม ทุกเทคนิค นำไปใช้ทอผ้า ผลิตผ้า เป็นต้นแบบ และพัฒนาต่อยอดตามวิถีอัตลักษณ์ประจำถิ่น ปลุกกระแสความนิยมในผ้าไทยจนได้รับเสียงชื่นชมอย่างกว้างขวาง

 

เพื่อสนองในพระกรุณาธิคุณ และการต่อยอดการพัฒนาผ้าลายพระราชทาน กรมการพัฒนาชุมชน ได้ดำเนินโครงการส่งเสริมภูมิปัญญาและพัฒนาศักยภาพผ้าไทย โดยร่วมบูรณาการกับทีมผู้เชี่ยวชาญด้านผ้าไทย ขับเคลื่อนการอบรมเชิงปฏิบัติการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการด้านผ้าไทย (Coaching) ให้กับกลุ่มช่างฝีมือ ช่างทอ ทั้ง ๔ ภาค และจัดการประกวดผ้าลายพระราชทาน “ผ้าลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ” เพื่อสร้างแรงบันดาลใจแก่ผู้สืบทอดภูมิปัญญาผ้าไทย รวมทั้งสร้างศิลปินช่างทอผ้ารุ่นใหม่

 

 

ทุกๆ ผลงานที่ได้รับการรังสรรค์อย่างประณีตเหล่านี้ จะถูกนำจัดแสดงในนิทรรศการ “ผ้าลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ” ในงาน “ศิลปาชีพ ประทีปไทย OTOP ก้าวไกลด้วยพระบารมี ณ ศูนย์แสดงและจำหน่ายสินค้าอิมแพ็ค เมืองทองธานี ในเดือนส.ค.นี้อีกด้วย เพื่อเป็นเกียรติประวัติแห่งความภาคภูมิใจ และขวัญกำลังใจแก่ผู้ประกวดที่มีความมุ่งมั่นในการที่จะสืบสาน อนุรักษ์ศิลป์ ผ้าถิ่นไทย ดำรงไว้ในแผ่นดินต่อไป

 

ดาวน์โหลด