๙๗๘.สมาคมสตรีอาเซียนกาฬสินธุ์ องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ มอบเงินจำนวน ๔,๐๐๐ บาทและสิ่งของช่วยเหลือ ผู้ประสบปัญหาความเดือดร้อนจากการเกิดไฟไหม้ข้านมอดทั้งหลัง ณ บ้านเลขที่ ๖๑ ม.๒ บ้านวังเกาะเหล็ก ต.ลำพาน อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์
วันที่ ๑๘ มกราคม ๒๕๖๕ เวลา ๑๐.๐๐ น. นางธิดา ชูโชติ นายกสมาคมสตรีอาเซียนกาฬสินธุ์ และคณะกรรมการประกอบด้วย นางวัชราภรณ์ กิตติพยุงและนางนิรันดร์ ส่งสุข ร่วมกับสภาวัฒนธรรมอำเภอเมือง ได้มอบเงินจำนวน ๔,๐๐๐ บาทและสิ่งของช่วยเหลือ นางไพศรี บรรณสาร ซึ่งประสบปัญหาความเดือดร้อนจากการเกิดไฟไหม้ข้านมอดทั้งหลัง ณ บ้านเลขที่ ๖๑ ม.๒ บ้านวังเกาะเหล็ก ต.ลำพาน อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์
รายงาน : สมาคมสตรีอาเซียนกาฬสินธุ์ องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ
เรียบเรียงข่าว : ฝ่ายประชาสัมพันธ์คณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติฯ
๙๗๘. สมาคมสตรีอาเซียนกาฬสินธุ์ องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯร่วมกับชมรมสตรีอาเซียนเทศบาลนครขอนแก่น และชมรมสตรีอาเซียนชุมแพ จัดโครงการเยี่ยมผู้สูงวัยใส่ใจสุขภาพ และมอบทุนการศึกษาครั้งที่ ๑๒
วันที่ ๘ มีนาคม ๒๕๖๕ เวลา ๑๐.๐๐ น. นางธิดา ชูโชติ นายกสมาคมสมาคมสตรีอาเซียนกาฬสินธุ์ องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ ร่วมกับชมรมสตรีอาเซียนเทศบาลนครขอนแก่น และชมรมสตรีอาเซียนชุมแพ จัดกิจกรรมโครงการเยี่ยมผู้สูงวัยใส่ใจสุขภาพครั้งที่ ๑๒ เนื่องในโอกาสวันสตรีสากล (๘ มีนาคม ๒๕๖๕) โดยมีนายวัชชพล คำอ้อ ปลัดอาวุโส รักษาการแทนนายอำเภอเขาสวนกวาง เป็นประธานในพิธี มอบทุนการศึกษา จำนวน ๑๕ ทุน และมอบรถจักรยานจำนวน ๑๕ คัน ให้กับนักเรียนที่เรียนดีแต่ยากจน และ มอบผ้าห่มให้กับผู้สูงอายุ จำนวน ๑๒๐ ราย มอบถุงยังชีพ ผ้าห่มให้กับผู้ยากไร้ จำนวน ๑๙ ครอบครัว ณ ที่ว่าการอำเภอเขาสวนกวาง จังหวัดขอนแก่น
รายงาน : สมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัดอุดรธานี องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ
เรียบเรียงข่าว : ฝ่ายประชาสัมพันธ์คณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติฯ
๙๗๗.สมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัดอุดรธานีองค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ ส่งเสริมการใช้ผ้าไทยและปลูกฝั่งเยาวชนเรียนรู้วิถีชีวิตปัญญาท้องถิ่นในโอกาสได้รับเชิญจากโรงเรียนอนุบาลอุดรธานี ร่วมประเมินสถานศึกษาระดับก่อนประถมศึกษาโรงเรียนขนาดใหญ่ในจังหวัดอุดรธานี
วันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ เวลา ๐๙.๐๐ น. นางกอบแก้ว คงน้อย นายกสมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัดอุดรธานี องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ และกรรมการมูลนิธิโรงเรียนอนุบาลอุดรธานี ได้รับเชิญเข้าร่วมรับการประเมินสถานศึกษา เพื่อรับรางวัลพระราชทาน ระดับก่อนประถมศึกษาโรงเรียนขนาดใหญ่ กับกรรมการมูลนิธิโรงเรียนอนุบาลอุดรธานี โดยสมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัดอุดรธานี องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ สนับสนุนส่งเสริมภาพลักษณ์ความเป็นไทย ผ่านวิถีแบบไทย ด้วยการแต่งกายแบบผ้าไทย ผ้าไทยประจำจังหวัด เพื่อสร้างการรับรู้ความเป็นเอกลักษณ์ของพื้นที่ ในด้านเอกลักษณ์วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิตและภูมิปัญญาท้องถิ่น ปลูกฝังความภาคภูมิใจในความเป็นไทย เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีแก่เด็ก เยาวชน ได้ตระหนักถึงความสำคัญในการอนุรักษ์ ฟื้นฟู สนับสนุน และสืบสานเอกลักษณ์ประจำชาติ วิถีชีวิตชุมชน โดยเชื่อมั่นในพลังสตรี ร่วมกันขับเคลื่อนกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของจังหวัดอุดรธานีอีกด้วย ที่ห้องประชุมโรงเรียนอนุบาลอุดรธานี อ.เมือง จ.อุดรธานี
รายงาน : สมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัดอุดรธานี องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ
เรียบเรียงข่าว : ฝ่ายประชาสัมพันธ์คณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติฯ
๙๗๖. ประธานสภาสตรีแห่งชาติฯ เข้าร่วมงานวันสตรีสากล ประจำปี ๒๕๖๕ ภายใต้แนวคิด"เสริมพลังสตรี ร่วมตัดสินใจ ลดผลกระทบภัยพิบัติจากธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม" จัดโดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
วันนี้ (๘ มีนาคม ๒๕๖๕) เวลา ๑๓.๐๐ น.ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ได้รับเชิญเป็นเกียรติร่วมงานวันสตรีสากลประจำปี ๒๕๖๕ โดยมี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดงานวันสตรีสากล ประจำปี ๒๕๖๕ ภายใต้แนวคิด "เสริมพลังสตรี ร่วมตัดสินใจ ลดผลกระทบภัยพิบัติจากธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม" พร้อมมอบโล่ประกาศเกียรติคุณแก่สตรี บุคคล และหน่วยงานองค์กรดีเด่น จากทั่วประเทศ จำนวน ๑๖ สาขา รวมจำนวน ๕๗ รางวัล และนายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) กล่าวรายงาน ทั้งนี้ การจัดงานในรูปแบบ New Normal ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด - ๑๙ โดยมีการถ่ายทอดสดผ่านระบบ Live streaming เพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้มีส่วนร่วมในการรับรู้และตระหนักถึงความสำคัญของพลังสตรีไทย ณ ห้องประชุม ชั้น ๒ อาคาร กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวง พม. สะพานขาว กรุงเทพฯ
พลเอก ประยุทธ์ กล่าวว่า องค์การสหประชาชาติได้กำหนดให้วันที่ ๘ มีนาคมของทุกปีเป็นวันสตรีสากล เพื่อให้ประชาชนทุกประเทศได้ตระหนักถึงความสำคัญของสตรี และให้เกียรติ เคารพในสิทธิอันชอบธรรมในการดำรงชีวิตอย่างมีศักดิ์ศรีและคุณค่าความเป็นมนุษย์อย่างเท่าเทียมกัน สำหรับประเทศไทยได้จัดงานวันสตรีสากลอย่างต่อเนื่องทุกปี ตั้งแต่ปี ๒๕๓๒ เป็นต้นมา รวมระยะเวลา ๓๓ ปี โดยงานวันสตรีสากล ประจำปี ๒๕๖๕ ภายใต้แนวคิด “เสริมพลังสตรี ร่วมตัดสินใจ ลดผลกระทบภัยพิบัติจากธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม” ประเทศไทยได้ให้ความสำคัญสูงสุดกับการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ด้วยความร่วมมือกับทุกประเทศและทุกภาคส่วน ซึ่งสตรีถือเป็นผู้ที่มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนสังคมไปสู่ความเสมอภาคและ การลดผลกระทบภัยพิบัติจากธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ รัฐบาลจึงได้กำหนดเรื่องการส่งเสริมบทบาทสตรี และความเสมอภาคระหว่างเพศในการสร้างสรรค์สังคมไว้ในยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๑ – ๒๕๘๐) ซึ่งจำเป็นต้องต้องอาศัยความร่วมมือ ร่วมใจของทุกภาคส่วนในสังคมที่จะปรับเปลี่ยนมุมมองวิธีคิดและเจตคติของคนในสังคม และควรเริ่มปลูกฝังตั้งแต่วัยเยาว์ ผ่านการอบรมเลี้ยงดู ตลอดจนการปลูกฝังผ่านการเรียนรู้ในระบบการศึกษา เป็นพื้นฐานสำคัญในการสร้างความเข้มแข็งให้แก่สังคม
ดร.วันดี กล่าวว่า “ขอแสดงความชื่นชมและยินดีกับสตรี บุคคล หน่วยงาน และองค์กรเครือข่ายที่ได้รับรางวัล จากทั่วประเทศ จำนวน ๑๖ สาขา รวมจำนวน ๕๗ รางวัล เนื่องในโอกาสวันสตรีสากล ประจำปี ๒๕๖๕ ซึ่งเป็นรางวัลที่ยกย่องศักยภาพของสตรีที่ประสบความสำเร็จ และเชื่อมั่นในพลังสตรีมีส่วนร่วมพัฒนาสังคมในทุกมิติ ในการร่วมกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เข้มแข็ง มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น” ดร.วันดี กล่าวทิ้งท้าย
ภาพ/ข่าว : ฝ่ายประชาสัมพันธ์คณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติฯ
๙๗๕. สมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัดร้อยเอ็ด องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ ร่วมพิธีเปิดงาน “สืบสานมรดกผ้ายกเมืองร้อยเอ็ด” และเยี่ยมชมนิทรรศการ โดยมี นายภูสิต สมจิตต์ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานในพิธี
วันเสาร์ที่ ๕ มีนาคม ๒๕๖๕ เวลา ๑๑.๓๐ น.นายภูสิต สมจิตต์ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานในพิธีงาน ”สืบสานมรดก ผ้ายกเมืองร้อยเอ็ด” โดยนางดนิตา สมจิตต์ นายกสมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมด้วยสมาชิกสมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัดร้อยเอ็ด และภาคีเครือข่ายเข้าร่วมพิธี และเยี่ยมชมนิทรรศการ”สืบสานมรดก ผ้ายกเมืองร้อยเอ็ด” และมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ปลัดจังหวัดร้อยเอ็ด หัวหน้าสำนักงานจังหวัดร้อยเอ็ด หัวหน้าส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้าร่วมในพิธี อย่างพร้อมเพรียง ทั้งนี้ การจัดงานดังกล่าว ได้ปฎิบัติตามแนวทางด้านสาธารณสุขเพื่อการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-๑๙) ณ บริเวณหอโหวด ๑๐๑ สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ร้อยเอ็ด และเกาะกลางบึงพลาญชัย อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด
รายงานข่าว : สมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัดร้อยเอ็ด
เรียบเรียงข่าว : ฝ่ายประชาสัมพันธ์คณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติฯ
๙๗๔. สมาคมสตรีนครเชียงใหม่ องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติ ฯ ร่วมกับ โรงพยาบาลเซ็นทรัลเชียงใหม่ เมโมเรียล จัดโครงการพระราชดำริ หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ บริการรักษาประชาชนและมอบอาคารเรียน ถุงยังชีพ มอบแว่นตาให้ผู้สูงอายุ อบรมส่งเสริมอาชีพเป็นต้น รวม ๑๔ กิจกรรม
วันที่ ๖ มีนาคม 2565 เวลา ๐๙.๐๐ - ๑๔.๐๐ น. นางสาววรัญญา เลิศวรกิจพิพัฒน์ นายกสมาคมสตรีนครเชียงใหม่ องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ กรรมการอำนวยการสภาสตรีแห่งชาติฯ พร้อมด้วยกรรมการ สมาชิก และภาคีเครือข่าย จัดโครงการพระราชดำริ หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ และช่วยเหลือผู้ยากไร้ ณ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านหนองแขม ตำบลเมืองนะ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อสนองโครงการตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหา วชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เพื่อช่วยเหลือราษฎรยากไร้ในเขตทุรกันดาร โดยส่งเสริมให้ชุมชนพัฒนาทักษะการดูแลสุขภาพอนามัยของตนเอง ส่งเสริมให้นักเรียนมีคุณภาพชีวิต และสิ่งแวดล้อมที่ดี ชุมชนสามารถพึ่งพาตนเองได้ตามแนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยได้รับเกียรติจากนายสงัด บูรณพัฒนโชติ นายอำเภอเชียงดาว เป็นประธานในพิธีกล่าวต้อนรับและเปิดโครงการพระราชดำริฯ นางสาววรัญญา เลิศวรกิจพิพัฒน์ นายกสมาคมสตรีนครเชียงใหม่กล่าววัตถุประสงค์ในการจัดโครงการพระราชดำริฯ นายเจริญ สีวาโย พัฒนาการจังหวัดเชียงใหม่ พันตำรวจโท ณภัทร ชะวาลา ผู้บังคับกองร้อย ตชด.๓๓๕ องค์กรพันธมิตร พนักงานเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกภาคส่วน ประชาชนในชุมชน และพื้นที่ใกล้เคียง ให้เกียรติร่วมในพิธีเปิดโครงการพระราชดำริฯ
ทั้งนี้โครงการพระราชดำริ หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ และช่วยเหลือผู้ยากไร้ ได้จัดให้มีกิจกรรมดังนี้
1. มอบอาคารเรียน ยุวศึกษา ๒๐๒๒
2. หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ บริการตรวจรักษาประชาชน
3. แจกถุงยังชีพ ให้แก่ราษฎรที่ยากไร้ จำนวน ๒๐๐ ครอบครัว
4. แจกแว่นสายตาสำหรับผู้สูงอายุ จำนวน ๒๐๐ คน
5. มอบอุปกรณ์กีฬาให้แก่โรงเรียนในเขตพื้นที่การศึกษา ๙ โรงเรียน
6. มอบเมล็ดพันธุ์ผักให้แก่โรงเรียนในเขตพื้นที่การศึกษา ๘ โรงเรียน
7. มอบสิ่งของให้หน่วยเคลื่อนที่เร็วดับไฟป่าเทศบาลเมืองนะ และเทศบาลทุ่งข้าวพวง
8. ถวายเครื่องอุปโภค บริโภค พระภิกษุสงฆ์ในพื้นที่ ๙ ชุด
9. มอบชุดกันหนาว ชุดนักเรียน ถุงเท้านักเรียน รองเท้าบู๊ท ฯลฯ สำหรับเด็กและเยาวชน
10. มอบเครื่องเล่นพัฒนาการเด็กตามวัย ๑ ชุด
11. กิจกรรม ส่งเสริมสุขภาพ ฟ้อนเจิง ล้านนา
12. กิจกรรมส่งเสริมอาชีพ สตรีแบ่งปันรัก ปลูกผักเพื่อคนบ้านเฮา
13. กิจกรรมส่งเสริมอาชีพ ฝึกอบรม การทำสบู่ / แชมพู จากสมุนไพร Organic
14. กิจกรรมพัฒนาคุณภาพชีวิต บริการตัดผมเด็กนักเรียน
โดยดำเนินการตามมาตรการและข้อกำหนดในการควบคุมโรคโควิด – 19 อย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยของผู้เข้าร่วมงานทุกคน
รวมงบประมาณ ๔๕๘,๐๐๐ บาท
รายงานข่าว : สมาคมสตรีนครเชียงใหม่ องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติ ฯ
เรียบเรียงข่าว : ฝ่ายประชาสัมพันธ์ คณะกรรมการบริหารสถาสตรีแห่งชาติ
๙๗๓. สามองค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ ในจังหวัดอุดรธานี เดินทางไปกราบขอพร พญานาคราชปู่ศรีสุทโธ และองค์แม่ศรีปทุมมานาคราชเทวี สถานที่ศักด์สิทธ์ และเต็มไปด้วยการเล่าขาน ตำนานลี้ลับอันโด่งดัง คําชะโนด วัดศิริสุทโธคำชะโนด ตำบลวังทอง อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธาน
วันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ เวลา ๑๓.๐๐ น. นางดาวศิริ อยู่ประเสริฐ ที่ปรึกษา ๓ องค์กร พร้อมด้วยสามองค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ ในจังหวัดอุดรธานี ประกอบด้วย นางกอบแก้ว คงน้อย นายกสมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัดอุดรธานี รศ.ดร.กฤตติกา แสนโภชน์ นายกสมาคมแม่ดีเด่นแห่งชาติ จังหวัดอุดรธานี และพญ.เฉลิมวรรณ ศศิประภา นายกสมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทย อุดรธานี พร้อมคณะกรรมการและภาคีเครือข่ายของ ๓ สมาคม เดินทางไปพญานาคราชปู่ศรีสุทโธ และองค์แม่ศรีปทุมมานาคราชเทวี ที่วัดศิริสุทโธคำชะโนด อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี คำชะโนด ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้คนเคารพนับถือไปกราบขอพรเป็นจำนวนมาก
คำชะโนดมีลักษณะเหมือนเกาะลอยอยู่กลางทุ่งนามีต้นชะโนดสูงใหญ่ขึ้นอยู่บนเกาะเป็นจำนวนมาก มีศาลเจ้าปู่ศรีสุทโธ~เจ้าย่าศรีประทุมมา มีต้นหว้าสูงใหญ่อายุกว่าร้อยปี และมีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่มีน้ำขึ้นมาไม่เคยเหือดแห้ง ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยการเล่าขานตำนานลี้ลับอันโด่งดัง ตั้งอยู่ภายในพื้นที่ วัดศิริสุทโธคำชะโนด ตำบลวังทอง อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านทั้งในจังหวัดอุดรธานีและใกล้เคียงต่างให้ความเคารพและสักการะนับถือเป็นอย่างมาก เป็นสถานที่แห่งความเชื่อเรื่องพญานาค ซึ่งชาวบ้านต่างเชื่อกันว่าที่นี่เป็นที่อยู่อาศัยของพญานาค และเป็นทางเชื่อมต่อไปยังเมืองบาดาลได้ มีการปกครองรักษาโดยพญานาคราชปู่ศรีสุทโธ และองค์แม่ศรีปทุมมานาคราชเทวี ที่นี่ถูกปกคลุมด้วยผืนป่าต้นชะโนดขนาดใหญ่อยู่ทั่วบริเวณ ในพื้นที่ประมาณ ๒๐ ไร่ ซึ่งแต่ละต้นล้วนมีอายุยาวนาน เป็นต้นไม้ที่แทบจะไม่มีในประเทศไทย ถือว่าที่นี่เป็นแห่งเดียวที่พบและมีประวัติศาสตร์ยาวนานมาจนถึงปัจจุบัน
รายงานข่าว : สมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัดอุดรธานี
เรียบเรียงข่าว : ฝ่ายประชาสัมพันธ์ คณะกรรมการบริหารสถาสตรีแห่งชาติ
๙๗๒. สามองค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ ในจังหวัดอุดรธานี ร่วมทำบุญพิธีเททองพระประธาน ที่วัดป่าสุวรรณาราม(วัดบ้านงอย )ต.กุดสระ อ.เมือง จ.อุดรธานี
วันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ เวลา ๐๙.๐๐ น. นางดาวศิริ อยู่ประเสริฐ ที่ปรึกษา ๓ องค์กรสามองค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ ในจังหวัดอุดรธานี และสามองค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ ในจังหวัดอุดรธานี ประกอบด้วย รศ.ดร.กฤตติกา แสนโภชน์ นายกสมาคมแม่ดีเด่นแห่งชาติ จังหวัดอุดรธานีนางกอบแก้ว คงน้อย นายกสมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัดอุดรธานี พญ.เฉลิมวรรณ ศศิประภา นายกสมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทย อุดรธานี พร้อมคณะกรรมการทั้ง ๓ สมาคม และภาคีเครือข่าย เดินทางไปร่วมทำบุญพิธีเททองพระประธานที่วัดป่าสุวรรณาราม(วัดบ้านงอย )ต.กุดสระ อ.เมือง จ.อุดรธานี
รายงานข่าว : สมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัดอุดรธานี
เรียบเรียงข่าว : ฝ่ายประชาสัมพันธ์ คณะกรรมการบริหารสถาสตรีแห้งชาติ
๙๗๑. สมาคมแม่ดีเด่นแห่งชาติประจำจังหวัดอุบลราชธานี องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯแสดงความยินดีกับ นายพิสดาร ประดา ย้ายมาดำรงตำแหน่ง พัฒนาการจังหวัดอุบลราชธานี
วันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ เวลา ๑๐,๐๐ น.นางเพ็ญพักตร์ ศรีทอง นายกสมาคม นายกสมาคมแม่ดีเด่นแห่งชาติประจำจังหวัดอุบลราชธานี และ คณะกรรมการพัฒนาสตรีจังหวัดอุบลราชธานี ได้เข้าพบเพื่อแสดงความยินดีในโอกาสที่ นายพิสดาร ประดา ย้ายมาดำรงตำแหน่ง พัฒนาการจังหวัดอุบลราชธานี โดยสมาคมแม่ดีเด่นแห่งชาติประจำจังหวัดอุบลราชธานี และ คณะกรรมการพัฒนาสตรีจังหวัดอุบลราชธานี ได้นำเรียนพร้อมทำงานขับเคลื่อนตามนโยบายกระทรวงมหาดไทย และกรมการพัฒนาชุมชน ตามโครงการต่างๆ และหารือในประเด็นที่เกี่ยวข้องต่อไป ณ สำนักงานพัฒนาชุมชน ศาลากลางจังหวัด อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี
รายงานข่าว : สมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัดอุดรธานี
เรียบเรียงข่าว : ฝ่ายประชาสัมพันธ์ คณะกรรมการบริหารสถาสตรีแห้งชาติ
๙๗๐. สามองค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ ในจังหวัดอุดรธานี สร้างบุญใหญ่ ไถ่ชีวิตโค~กระบือ จำนวน ๑๒ ตัว ถวายปัจจัยจำนวน ๓๔,๑๐๐ บาท ตั้งโรงทาน เป็นจำนวน ๔๓,๕๐๐ บาท รวมเงินทั้งสิ้น ๖๓๕,๖๐๐ บาท ถวายเป็นพุทธบูชาเนื่องในวันมาฆะบูชา วัดพระธาตุบังพวน จังหวัดหนองค
วันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ เวลา ๐๙.๐๐ น. นางดาวศิริ อยู่ประเสริฐ ที่ปรึกษา ๓ องค์กรสามองค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ ในจังหวัดอุดรธานี รศ.ดร.กฤตติกา แสนโภชน์ นายกสมาคมแม่ดีเด่นแห่งชาติ จังหวัดอุดรธานีนางกอบแก้ว คงน้อย นายกสมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัดอุดรธานี พญ.เฉลิมวรรณ ศศิประภา นายกสมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทย อุดรธานี พร้อมคณะกรรมการทั้ง ๓ สมาคม และภาคีเครือข่ายประกอบด้วย พระธาตุบังพวน ร่วมกับชมรมตระกูลจึง พล.ต.ท.บุญชอบ~อ.กอบแก้ว คงน้อย พล.ต.ท.ยรรยง~คุณดุจเดือนดารา เวชโอสถสวญ.อด. สม.อด. สธวท.อด. และคณะญาติธรรม ศิษยานุศิษย์ร่วมพิธีไถ่ชีวิตโค~กระบือ ประจำปี ๒๕๖๕ เพื่อเป็นพุทธบูชา เนื่องในวันมาฆะบูชา ขึ้น ๑๕ ค่ำเดือน ๓ จำนวน ๑๑๑ ตัว ที่วัดพระธาตุบังพวน อ.เมือง จ.หนองคาย
การไถ่ชีวิตโค~กระบือ เป็นกุศลอันยิ่งใหญ่ การช่วยเหลือชีวิตคนหรือสัตว์ให้รอดพ้นจากความตาย ไม่ว่าจะเป็นสัตว์เล็กหรือสัตว์ใหญ่ล้วนเป็นการสร้างกุศลที่ดีงามทั้งสิ้น ค-กระบือ เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา แด่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เนื่องในวันวิสาขบูชา ณ ลานบุญ หน้าพระอุโบสถ หลวงพ่อเพชร วัดท่าหลวง พระอารามหลวง อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร
สำหรับพิธีไถ่ชีวิตโค-กระบือ ในวันวิสาขบูชานี้ จัดขึ้นเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดพิจิตร อานิสงส์ของการให้ทานไถ่ชีวิตโค-กระบือ ซึ่งเดิมจะถูกนำไปฆ่า เป็นทานที่ให้ชีวิตความอยู่รอด เป็นส่วนหนึ่งของอายุ หมายถึงความมีอายุยืนยาว ประการหนึ่ง โค-กระบือเหล่านั้น เมื่อจะถูกนำไปเพื่อฆ่า ก็ตื่นตระหนกอยู่ด้วยความกลัว ความทุกข์ กระวนกระวายหาทางเอาชีวิตรอด เมื่อไถ่ชีวิตเขามา ย่อมเป็นการให้ความปลอดจากภัย ห่างจากความกลัว โดยเฉพาะการให้ชีวิตเป็นการทำบุญที่ยิ่งใหญ่ในวันวิสาขบูชา เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา แด่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะถือได้ว่าได้ให้ชีวิตใหม่แก่สัตว์ใหญ่ ซึ่งการไถ่ชีวิตกระบือ ในครั้งนี้ มีกระบือ จำนวน ๑๒ ตัว
(ท่านที่กำลังมีความทุกข์ใจ เจ็บป่วยด้วยโรคภัยไข้เจ็บเบียดเบียน รวมถึงผู้อยากสร้างกุศลอันยิ่งใหญ่เพื่อเสริมดวงชะตาให้มีอายุยืนยาวสุขภาพร่างกายแข็งแรงจึงทำบุญด้วยวิธีไถ่ชีวิตโค~กระบือนั่นเอง)
รายงานข่าว : สมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัดอุดรธานี
เรียบเรียงข่าว : ฝ่ายประชาสัมพันธ์ คณะกรรมการบริหารสถาสตรีแห้งชาติ
