สภาสมาคมสตรีแห่งชาติฯ ร่วมพิธีพุทธาภิเษกพระพุทธรูปประจำพระชนมวาร สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
๐๖ ธันวาคม ๒๕๖๑

          เมื่อวันที่ ๖ ธันวาคม ๒๕๖๑ เวลา ๑๔.๓๐ น. สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จเป็นประธานในพิธีจุดเทียนชัยพุทธาภิเษกพระพุทธรูปประจำพระชนมวาร ซึ่งสร้างขึ้น จำนวน ๑๐๐ องค์ ในการนี้ ดร. วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสมาคมสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ พร้อมด้วย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นและที่ปรึกษาประธานสภาสมาคมสตรีแห่งชาติฯ นำกรรมการและสมาชิกร่วมพิธีพุทธาภิเษกพระพุทธรูปประจำพระชนมวาร สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ณ พระอุโบสถวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม

          สำหรับ พระประจำพระชนมวารที่สร้างขึ้นครั้งนี้ เป็นพระพุทธรูปปางถวายเนตร ซึ่งเป็นวันประสูติของสมเด็จพระสังฆราช โดยนำเอาเค้าโครงจากพระพุทธอังคีรส ซึ่งเป็นพระพุทธรูปประธานในพระอุโบสถวัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามเป็นแนวทางในการออกแบบ โดยประทับยืนบนอาสนบัลลังก์ที่ด้านหน้ามีอักษรย่อพระนาม “ออป” ประดิษฐานอยู่ อย่างไรก็ตาม ในพิธีมีพระเถราจารย์ที่มานั่งเจริญจิตภาวนาในครั้งนี้ ประกอบด้วย พระธรรมมังคลาจารย์ (หลวงปู่ประยงค์) วัดโสธรวรารามวรวิหาร จังหวัดฉะเชิงเทรา พระราชพัฒนากร (หลวงพ่อสมชา) วัดปริวาสราชสงคราม กรุงเทพมหานคร พระราชพัฒนสุนทร (หลวงพ่อหมู) วัดทรงธรรมวรวิหาร จังหวัดสมุทรปราการ พระมงคลสุทธิคุณ (หลวงปู่ฟู) วัดบางสมัคร จังหวัดฉะเชิงเทรา พระมงคลวุฒาจารย์ (พลวงพ่อพูน) วัดบ้านแพน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พระมงคลวโรปการ (หลวงพ่อชำนาญ) วัดชินวรารามวรวิหาร จังหวัดปทุมธานี พระรัตนมุนี (หลวงพ่อไพรินทร์) วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดพิษณุโลก พระครูโสภิตวิริยาภรณ์ (หลวงพ่ออิฏฐ์) วัดจุฬามณี จังหวัดสมุทรสงคราม พระครูพิสิฐธรรมคุณ (หลวงพ่อเอียด) วัดโคกแย้ม จังหวัดพัทลุง และ พระครูพิพัฒน์วิทยาคม (หลวงพ่อเจริญ) วัดโนนสว่าง จังหวัดอุดรธานี

          ทั้งนี้ พระประจำพระชนมวาร ที่สร้างขึ้นในครั้งนี้ มี ดร. วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสมาคมสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ และ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นและที่ปรึกษาประธานสภาสมาคมสตรีแห่งชาติฯ เป็นผู้สร้างถวายสมเด็จพระสังฆราช เพื่อประทานแก่ผู้ที่ช่วยเหลือบูรณะวัดราชบพิธเนื่องในโอกาสครบรอบ ๑๕๐ ปีต่อไป