บทสัมภาษณ์ ประธานสภาสตรี โดยASTVผู้จัดการออนไลน์ " เรียบ ง่าย สไตล์ “วันดี กุญชรยาคง(จุลเจริญ)”"
๑๙ ตุลาคม ๒๕๕๘

ที่มา http://www.manager.co.th/CelebOnline/ViewNews.aspx?NewsID=9580000115782

เรียบ ง่าย สไตล์ “วันดี กุญชรยาคง(จุลเจริญ)”

ASTVผู้จัดการออนไลน์  

18 ตุลาคม 2558 20:10 น.

วันดี กุญชรยาคง ประธานสภาสตรีฯ เจ้าแม่โซลาร์ฟาร์ม

เป็นที่รู้กันว่า สภาสตรีฯ เป็นสังคมของคุณหญิงคุณนาย แต่ตำแหน่งประธานสภาสตรีฯ คนล่าสุดกลับเป็นของ วันดี กุญชรยาคง ภรรยาอดีตผู้ว่าฯ ชัยนาท ที่ในวงสังคมไฮโซอาจจะไม่รู้จักเธอมากนัก แต่ในมุมของนักธุรกิจไม่มีใครไม่รู้จัก “เจ้าแม่โซลาร์ฟาร์ม” ที่เก่งขนาดยูเอ็นยกย่องให้เป็นสตรีที่ประสบความสำเร็จ ในฐานะผู้สร้างพลังงานสะอาด ที่ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงที่ดีแก่มนุษยชาติ ...แม้จะเป็นผู้หญิงเก่งที่เก็บเนื้อเก็บตัว และดูจะเป็นสาวห้าว หากแต่ “วันดี” ก็มีแง่มุมที่งดงามให้เราได้ติดตาม

วันดี กุญชรยาคง เป็นมหาเศรษฐีไทยร่ำรวยอันดับที่ 49 เมื่อปี 2556 ด้วยทรัพย์สิน 9.36 พันล้านบาท แต่เธอกลับเก็บเนื้อเก็บตัวใช้ชีวิตธรรมดาที่สุด โดยทำหน้าที่เป็นภรรยาของ สุทธิพงษ์ จุลเจริญ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เรียนจบจากกรุงเทพการบัญชี แต่ไม่เคยทำบัญชีเป็นอาชีพ เพราะมองว่าเป็นงานที่ไม่มีอะไรท้าทาย จึงไปเรียนต่อกฎหมาย และผันตัวมาทำงานขายแผงโซลาร์เซลล์ให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย สำหรับพื้นที่ห่างไกลที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ ถึงช่วงปี 2548 จึงตัดสินใจลาออกจากงานประจำ และหันไปทำเพื่อธุรกิจผลิตกระแสไฟฟ้าพลังงานสะอาดตามความฝัน       

       ด้วยความเป็นผู้หญิงหัวคิดสมัยใหม่ ทำให้เธอชอบพูดถึงสิ่งที่ทำอยู่ในปัจจุบัน มากกว่าจะมานั่งพูดถึงเล่าย้อนอดีตที่ผ่านมา จึงไม่แปลกที่น้อยคนนักจะรู้จักตัวตนของเธอ “พี่ชอบที่จะใช้ชีวิตเรียบๆ เป็นชีวิตที่มีความสุข บ้านเราก็มีผู้ใหญ่อีกหลายท่านที่ทำตัว Low Profile ก็ประสบความสำเร็จได้เช่นกัน การเป็นแบบนี้ทำให้พี่มีชีวิตที่ง่ายขึ้น โดยเฉพาะ เวลาคิด วางแผนทำงานเป็นอิสระ เพราะไม่มีใครสนใจเรามาก” แม้จะไม่ชอบทำตัวเป็นข่าว แต่ด้วยความรู้-ความสามารถที่โดดเด่น บวกกับผลงานในฐานะภริยาผู้ว่าราชการจังหวัด ที่ต้องปฏิบัติภารกิจสนับสนุนกลุ่มแม่บ้าน, ช่วยเหลือผู้ประสบภัย, ผู้ด้อยโอกาสแล้ว เข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ของภาครัฐและเอกชน ที่จัดขึ้นในวาระพิเศษในแต่ละจังหวัดที่สามีดูแล ส่งผลให้ชื่อเสียงของ "วันดี" เริ่มกลายเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป

วันดี ยังพูดถึงหลักการดำเนินชีวิตส่วนตัวว่า แม้งานจะหนักแค่ไหน ก็ไม่ลืมที่จะดูแลชีวิตทั้งในเรื่องครอบครัวและส่วนตัวเป็นอย่างดีในทุกๆ ด้าน “ครอบครัวเราเป็นครอบครัวธรรมดาๆ มีลูกสาว 2 คนตอนเล็กๆ คุณแม่ของพี่ช่วยดูบ้าง บางทีพี่ก็ดูแลเอง พาไปทำงานด้วย ซึ่งเขาก็ไม่กวนนะคะ เห็นแม่ทำงานก็จะนั่งดู แล้วทำตาม แม่รับโทรศัพท์ก็รับด้วย ส่วนเรื่องงานบ้านพี่ต้องยกให้เป็นหน้าที่ของแม่บ้านดูแล อยากให้บ้านเป็นอย่างไรก็บอกเขาไป เรื่องกับข้าวไม่เป็นนะคะ (หัวเราะ) เคยคิดจะทำแต่คุณแม่ทำอร่อยกว่าเยอะ เลยไม่หัดดีกว่า”       

       พอถึงตรงนี้ สุทธิพงษ์ จุลเจริญ ผู้เป็นสามีที่นั่งอยู่ใกล้ๆ ได้ช่วยเล่าเสริมให้ฟังว่า “โชคดีที่มีคุณแม่ของคุณวันดี ทำอาหารเก่ง ทั้งบ้านเลยได้อาศัยทานอาหารฝีมือคุณแม่มาตลอด”       

       สำหรับตัวเอง วันดีบอกกับเราว่า วันไหนที่เธอมีเวลาว่างจริงๆ จะออกกำลังกาย เข้าสปาบ้าง นอกเหนือจากนั้นคือ ชอบอ่านหนังสือ สนใจเรื่องอะไรก็ไปหาอ่าน ตั้งแต่หนังสือวิชาการ บทสัมภาษณ์ในนิตยสารก็อ่าน เพราะจะช่วยให้เข้าใจว่า แต่ละคนมีการดำเนินชีวิตแบบไหน

วันดี ในวันนี้ แม้จะกลายเป็นเศรษฐินีที่ติดอันดับต้นๆ ของเมืองไทย หากแต่เธอเป็นคนที่เรียกว่าแทบจะไม่แต่งหน้า-แต่งตัว อีกทั้งดูจะไม่นิยมนำเพชรพลอยมาสวมเป็นเครื่องประดับ เฉกเช่นสตรีหลังบ้านคนดังทั่วไป แต่เธอชาญฉลาดที่จะเลือกแต่งตัวให้เข้ากับตัวเองตามความเหมาะสมกับงาน และตำแหน่งหน้าที่ที่จะต้องออกพบปะผู้คนหลากหลาย

              “เริ่มรักผ้าไทยมากกว่าเก่า ตั้งแต่ได้เข้ามาทำงานสังคมสนับสนุนงานของกลุ่มแม่บ้าน ได้เห็นกระบวนการผลิตผ้าไทยทุกชนิด ตั้งแต่ตีนจก ผ้าไหมมัดหมี่ ผ้าซิ่นแล้วรู้สึกว่าชาวบ้านเก่งมาก กว่าจะได้ไหมแต่ละเส้น ผ้าแต่ละผืนนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย พี่ได้สัมผัสงานตรงนี้ทำให้พี่หลงรักผ้าทุกผืน รักสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถมากยิ่งขึ้น ได้เห็นว่าท่านทรงเสียสละและทุ่มเทพระวรกายในการช่วยชาวบ้านอย่างจริงจัง เรามานั่งตรงนี้แป๊บเดียวเหงื่อเต็มตัวแล้ว แต่พระองค์ทรงนั่งกับชาวบ้านนานเป็นชั่วโมง ทำให้รู้สึกซาบซึ้ง ทุกวันนี้หลงรักผ้าไทยมาก”

      ด้วยความที่เห็นคุณค่าของผ้าไทย คราใดที่มีโอกาสชอปผ้าไทย วันดีจะกลายเป็นคนมือเติบที่ซื้อผ้าทุกชิ้นจนหมดเงินครั้งละเป็นแสน

              “มีความสุขที่ได้ซื้อ ได้อุดหนุนกลุ่มแม่บ้านท้องถิ่นให้มีรายได้ และก็มีความสุขที่ได้ใส่ผ้าทอฝีมือคนไทย ไม่ว่าจะเป็นลวดลายอะไรก็เป็นเอกลักษณ์โดดเด่น ที่ทำให้ต่างชาติรับรู้วัฒนธรรมไทย พี่ว่าผ้าไทยไม่ใช่เป็นแค่ผ้าที่เอาไว้ใส่กันแค่คนเฒ่าคนแก่แล้วนะ”      

       “วันดี” ปิดท้ายบทสนทนาด้วยรอยยิ้มเปิดเผย ที่บ่งบอกถึงความเป็นมิตรและความจริงใจในแบบฉบับของสาวเก่ง ที่ไม่เคยคิดว่ารวยแล้วต้องใช้ชีวิตหรูหรา ขอเลือกที่จะยึดหลักพอเพียงตามแนวพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทำทุกอย่างให้ดีที่สุด "เราต้องใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาท การทำงานทุกอย่าง ต้องทำด้วยใจรัก ทำด้วยความทุ่มเท เชื่อว่าเราทำได้ ต้องคิดบวกอย่าไปคิดแง่ลบ แล้วจะประสบความสำเร็จในทุกๆ ด้าน"